xs
xsm
sm
md
lg

วิศวกรยันอาคาร"โกลบอลเฮ้าส์"ถล่มไม่ได้เกิดจากฟ้าผ่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - วิศวกรโยธาตรวจสอบสร้างผนังด้านบนตัวอาคาร "โกลบอลเฮ้าส์" ได้มาตรฐานหรือไม่ เบื้องต้นชี้โดมพังไม่ได้เกิดจากฟ้าผ่า ผบก.เผยเร่งรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ด้านประกันสังคมแจงเร่งจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว ขณะที่งานศพ 3 พ่อแม่ลูกเศร้าสลด วอนห้างร้านตรวจสอบโครงสร้างให้แข็งแรง เกรงเกิดเหตุร้ายอีก

วานนี้ (15 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เหตุหลังคาโดมซุ้มประตูทางเข้า ห้างโกลบอลเฮ้าส์ สาขาสุรินทร์ เลขที่ 140/50 หมู่ 13 ถนนสุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ของบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) พังถล่ม มีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเย็นวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

นายธนโชติ เกษตรสิงห์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุรินทร์ กล่าวผลการตรวจสอบโครงสร้างอาคารที่พังถล่มว่า สำหรับสาเหตุของผนังกันสาดบนหลังคาพังลงมา น่าจะเกิดจากแรงดันจากด้านข้าง แม้ผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุบอกว่าหลังคาถล่มช่วงที่เกิดเสียงฟ้าผ่าลงที่ตัวโครงสร้าง แต่เมื่อดูตัวโครงสร้างแล้วต้องบอกว่าเกิดจากแรงดันด้านข้าง ที่ดันผนังกันสาดพังลงมาด้านทิศใต้ จากนั้นเศษความเสียหายก็ร่วงลงมาที่โครงหลังคาโดมทางเข้าห้าง ที่ไม่ได้ออกแบบมาไว้เพื่อรองรับน้ำหนักตกกระแทก ทำให้ตรงกลางตัวโครงหลักยุบลง คนที่อยู่ใต้โดมถูกเศษหินเศษโครงสร้างทับเสียชีวิตและบาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผนังด้านบนตัวอาคารก่อสร้างถูกแบบหรือไม่ นายธนโชติ ตอบว่า ต้องดูว่าตอนที่ขออนุญาตยื่นแบบอย่างไร ใครเป็นผู้ออกแบบ ทำตามข้อกำหนดของกฎกระทรวงหรือมาตรฐานที่เกี่ยวข้องหรือไม่ การก่อผนังปิดโครงหลังคาต้องดูว่าทำเสาเอนรับ หรือโครงสร้างรับแรงด้านข้างไว้พอหรือไม่ เพราะเวลาออกแบบต้องเผื่อแรงลม และแรงลมก็มีค่ามาตรฐานตามกฎกระทรวงว่า อาคารขนาดนี้รับแรงลมได้เท่าไหร่ หากออกแบบถูกต้อง ก็ต้องดูในส่วนการควบคุมงาน ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา หรือข้อกำหนดที่ไปยื่นกับองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)เฉนียง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือไม่

"วัสดุที่ทำผนังด้านบนหลังคาเป็นอิฐมวลเบา ก่อสูงประมาณ 3 เมตร ส่วนการเสริมเสาเอนและการยึดติดกับโครงสร้างหลักต้องขึ้นไปดูด้วย ซึ่งต้องใช้รถกระเช้าขึ้นไปตรวจสอบอีกครั้ง"

ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุการพังถล่ม ว่าเกิดจากฟ้าผ่าตามที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่ นายธนโชติ ตอบว่า ลักษณะที่เห็นน่าจะเกิดจากแรงดันด้านข้างอัดเข้ามา ทำให้ผนังที่ก่อปิดหลังคาพลิกลงมาฝั่งด้านหน้า โชคดีที่ไม่พลิกไปฝั่งด้านในอาคาร ซึ่งจะเสียหายมากกว่านี้ และเท่าที่ตรวจสอบด้านในยังมีผนังบางส่วนที่มีรอยร้าว ซึ่งต้องดูว่าซ่อมได้หรือไม่ หรือต้องรื้อทำใหม่ แต่เท่าที่ดูด้วยสายตา โครงสร้างหลักและเสาไม่ได้รับความเสียหาย

พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจได้รับเป็นคดีแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยให้กองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด พิสูจน์ทราบความบกพร่องอยู่ที่ไหน จะได้ดำเนินคดีไปตามนั้น คือ ประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 6 รายหรือไม่ ส่วนผู้เสียหายสามารถเรียกร้องได้เต็มที่ตามกฎหมาย

ด้านนางอุสนีย์ ศิลปะศร ประกันสังคมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กรณีเด็กในครรภ์เสียชีวิต ทางประกันสังคมไม่ได้ให้การคุ้มครอง ส่วนผู้เสียชีวิต 6 รายเป็นผู้ประกันตน 5 ราย เสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน 3 ราย ไม่เกี่ยวกับการทำงาน 2 ราย ได้รับการคุ้มครองจากกองทุนประกันสังคม 2 ราย ซึ่งจะได้รับเงินทำศพรายละ 20,000 บาท ส่วนเงินสงเคราะห์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งเงินของผู้ประกันตน และจะได้เงินบำเหน็จชราภาพที่ได้ออมเอาไว้ขณะมีชีวิตด้วย

ส่วนกรณีการเสียชีวิตจากการทำงาน ได้รับเงินชดเชย 60% ของเงินเดือนเป็นระยะเวลา 8 ปี และเงินจัดการศพรายละ 30,000 บาท ซึ่งจะนำเงินไปมอบให้ญาติผู้เสียชีวิต ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน จะเข้าไปดูแเป็นอย่างดี

ที่บ้านเลขที่ 126 หมู่ 9 บ้านหนองชูง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ สถานที่บำเพ็ญกุศลศพน.ส.สุทาทิพย์ อุกอาจ อายุ 33 ปี ซึ่งตั้งครรภ์ 3 เดือน นายจรัญ เพชรนอก อายุ 32 ปี สามี และด.ญ.มธุรส เพชรนอก อายุ 9 ปี บุตรสาว บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน และเพื่อนร่วมงานจากโรงงานผลิตชุดชั้นใน ที่สองสามีภรรยาทำงานอยู่มาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง หลายคนเสียใจร้องไห้เพราะยังทำใจไม่ได้

นางสงวน อุกอาจ อายุ 51 ปี มารดาน.ส.สุทาทิพย์ กล่าวว่า มีลูก 3 คน คนตายเป็นลูกสาวคนโต ขยันทำงาน เป็นเสาหลักครอบครัว ส่วนน้องอีก 2 คนยังไม่ได้ทำงาน โดยผู้ตายแยกไปมีครอบครัว และสร้างบ้านอยู่ที่หมู่ 3 บ้านโพธิ์กอง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท แต่ยังไม่แล้วเสร็จ วันเกิดเหตุจึงพากันไปซื้อวัสดุก่อสร้าง แต่ไม่คิดว่าจะโชคร้ายเสียชีวิตพร้อมกันทั้ง 3 คน รวมทั้งลูกที่อยู่ในท้องด้วย

"รู้สึกเสียใจมาก ไม่อยากให้เกิดกับใครอีก จึงขอฝากถึงบริษัทห้างร้านให้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารให้มั่นคงแข็งแรง เพราะเกรงจะเกิดเหตุร้ายขึ้นอีก"

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงสภาพพื้นที่ สอบปากคำพยานบุคคล พยานหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง แล้วสรุปผลให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ทราบภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันแต่งตั้ง โดยคณะกรรมการเห็นไปทางเดียวกันหลังขึ้นกระเช้าตรวจสอบ คือ ผนังกันสาดอาคารสูง 3 เมตร พังทลายยาว70 เมตร ซึ่งเป็นเหตุ ทำให้หลังโดมซุ้มประตูรับน้ำหนักไม่ไหว ถล่มทับประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยช่วง 20 เมตรแรกพบว่ามีเสาเอ็นยึดติดกับผนังกันสาด แต่หลังจากนั้นไม่มีเลย

นายธนโชติ เกษตรสิงห์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ผนังกันสาดจะต้องมีเสาเอ็นตลอดแนว แต่หลังจาก 20 เมตรไม่พบว่ารอยคอนกรีตแตก ส่วนเหล็กข้ออ้อยที่ใช้เป็นเสาเอ็น ปกติต้องฝังลึกไปในคานตัวอาคารอย่างน้อย 30 เซนติเมตร แต่ 20 เมตรแรกที่มีเสาเอ็น ฝังลึกประมาณ 10 เซนติเมตรเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น