00 นาทีนี้ต้องบอกว่ามีทางเลือกอยู่สองทาง คือ ดีกับชั่ว ขาวกับดำ ไม่มีกลาง เพราะพวกอยู่ตรงกลางคือพวก "เห็นแก่ตัว" ไม่รู้ร้อนรู้หนาว หรือไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น นาทีนี้ต้องเลือกทำความเข้าใจให้ได้แล้วว่า ฝ่ายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มันชั่ว มันห่วยอย่างไร ผลงานที่ผ่านมากว่าสองปี มีอะไรที่แตกต่างจากรัฐบาลอื่นอย่างไร หรือดีกว่าพวกอำมาตย์อย่างที่อ้างเป็นสาเหตุโจมตีฝ่ายตรงข้ามหรือไม่ โกงกันทั้งโคตรหรือไม่ เชื่อว่าระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกคนคงจะถามใจตัวเองได้แล้วว่ามีคำตอบเช่นไร หากใครยังสนับสนุนคนเสื้อแดง ก็ต้องตอบตัวเองเช่นเดียวกันว่า พวกเขาเป็นกลุ่มการเมืองประเภทไหน เป็นแค่สมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นผู้สนับสนุนคนในครอบครัวของทักษิณ เท่านั้นใช่หรือไม่ ส่วนบรรดาแกนนำคนเสื้อแดง ก็เป็นแค่คนรับใช้ของครอบครัวนี้เท่านั้น โดยได้รับผลตอบแทนจากตำแหน่งทางการเมือง แต่กินเงินเดือนของชาวบ้าน ถ้ายอมรับและเห็นดีเห็นงามกับแนวทางแบบนี้ คิดว่านี่คือแนวทางประชาธิบไตยในฝันก็ขอเชิญไปอยู่กับฝ่ายทักษิณ
00 ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง เป็นแนวทางของมวลมหาประชาชน ที่ต้องการปฏิรูปประเทศ ปฏิเสธนักการเมืองชั่ว ป้องกันทำลายทุจริตกันแบบถอนราก มีการออกแบบระบบการตรวจสอบถ่วงดุลอย่างอิสระ การกระจายอำนาจ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เป็นต้นที่สำคัญจะไม่มีการประนีประนอม โดยเฉพาะกับนักการเมือง ไม่ต้องมายุ่ง เป็นเรื่องของเจ้าของอำนาจอธิปไตย คือ ประชาชนล้วนๆ มีอยู่สองทางเลือกแค่นี้แหละ ไม่มีฝ่ายเป็นกลางแบบโง่ๆ หรือพวกตีกินอีกต่อไป !!
00 น่าจับตาก็คือ การเข้ามาแสดงบทบาทนำของ ว่าที่ประธานวุฒิสภา สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่นัดประชุมวุฒิสภานอกรอบ เพื่อปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกของประเทศ ซึ่งอาจใช้เวลาถกเถียงเสนอแนะกันอย่างน้อยวัน หรือสองวัน แม้ว่าอาจไม่มีข้อสรุป หรือคาดหวังอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีความริเริ่ม ดีกว่าวางเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ขณะเดียวกันน่าสนใจก็คือ ว่าที่ประธานวุฒิฯคนนี้ ได้แย้มว่า ได้นัดแนะประธานศาลต่างๆ เพื่อร่วมกันหาทางออกอีกทางหนึ่ง รวมไปถึงฝ่ายองค์กรที่เรียกว่า องค์กรรัฐบุคคล ที่ทำหนังสือถึง ผบ.เหล่าทัพในแนวทางขอพึ่งพระบารมีในการหาทางออก ซึ่งพวกเขาย้ำว่า ไม่ใช่วิธีขอพระราชทานนายกฯ ม.7 ก็ต้องรอดูกันอย่างกระชั้นชิด แต่อย่างน้อยก็เริ่มมีความหวังบ้างเหมือนกัน เพราะฝ่ายระบอบทักษิณ ที่ใช้อำนาจผ่านทาง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นั้นเวลานี้เป็นเหมือนเป็ดง่อย ทำอะไรไม่ได้ ที่สำคัญเสนอทูลเกล้าฯ ออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไม่ได้ แค่นี้ก็จบเห่แล้ว เมื่อทุกอย่างมันตัน ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาหาทางออกร่วมกัน หากเป็นแบบนี้ แนวทางที่ดีที่สุดคือ ต้องร่วมกันสร้างกติกาให้ยอมรับกันก่อน ก่อนดันทุรังเลือกตั้งแบบไร้ประโยชน์ !!
00 ดีเดย์เผด็จศึกกันเต็มกำลังแล้ว สำหรับ กปปส.ที่นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ หลังจากรื้อเวทีที่สวนลุมพินี ย้ายมาปักหลักบนถนนราชดำเนินนอก เชิงสะพานมัฆวานฯ หากมองในยุทธศาสตร์ก็ต้องบอกว่า นี่คือการเตรียมการเพื่อยึดอำนาจกลับคืนมาเป็นของประชาชน โดยเฉพาะการยึดทำเนียบฯ ยึดสภา รวมไปถึงการบุกเข้ายึดกองบัญชาการกองทัพ เพื่อบีบให้ออกมายืนอยู่กับประชาชนเสียที ซึ่งในที่สุดก็คงจะใช้วิธีแบบนี้เท่านั้นหากต้องการปิดเกม หวังว่าถึงตอนนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องวางเฉย แล้วรอเกษียณฯ อย่างสงบก็แล้วกันนะ !!
00 สิ่งที่ต้องจับตากันอย่างเข้มข้นและเร่งด่วนที่สุดก็คือ อำนาจในการเสนอทูลเกล้าฯ ของ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ว่ามีอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ต้องถือว่าเกิดสูญญากาศแล้ว หรือถ้าไม่ชัดก็ต้องให้มีการตีความให้ได้สรุปชัดเจนตรงนี้ก่อน เพราะเวลานี้เจ้าตัวก็พูดเอง เออเอง ว่ามีอำนาจเต็มไม่ต่างจากรักษาการนายกฯ ซึ่งก็ต้องทำให้เร็วที่สุด รวมไปถึงอำนาจของรมต.คนอื่น การคงอยู่ของ ศอ.รส. ว่าเถื่อนจริงหรือไม่ เรื่องนี้ต้องชัดด้วย !!
00 ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง เป็นแนวทางของมวลมหาประชาชน ที่ต้องการปฏิรูปประเทศ ปฏิเสธนักการเมืองชั่ว ป้องกันทำลายทุจริตกันแบบถอนราก มีการออกแบบระบบการตรวจสอบถ่วงดุลอย่างอิสระ การกระจายอำนาจ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เป็นต้นที่สำคัญจะไม่มีการประนีประนอม โดยเฉพาะกับนักการเมือง ไม่ต้องมายุ่ง เป็นเรื่องของเจ้าของอำนาจอธิปไตย คือ ประชาชนล้วนๆ มีอยู่สองทางเลือกแค่นี้แหละ ไม่มีฝ่ายเป็นกลางแบบโง่ๆ หรือพวกตีกินอีกต่อไป !!
00 น่าจับตาก็คือ การเข้ามาแสดงบทบาทนำของ ว่าที่ประธานวุฒิสภา สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่นัดประชุมวุฒิสภานอกรอบ เพื่อปรึกษาหารือเพื่อหาทางออกของประเทศ ซึ่งอาจใช้เวลาถกเถียงเสนอแนะกันอย่างน้อยวัน หรือสองวัน แม้ว่าอาจไม่มีข้อสรุป หรือคาดหวังอะไรไม่ได้มาก แต่อย่างน้อยก็ถือว่ามีความริเริ่ม ดีกว่าวางเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ขณะเดียวกันน่าสนใจก็คือ ว่าที่ประธานวุฒิฯคนนี้ ได้แย้มว่า ได้นัดแนะประธานศาลต่างๆ เพื่อร่วมกันหาทางออกอีกทางหนึ่ง รวมไปถึงฝ่ายองค์กรที่เรียกว่า องค์กรรัฐบุคคล ที่ทำหนังสือถึง ผบ.เหล่าทัพในแนวทางขอพึ่งพระบารมีในการหาทางออก ซึ่งพวกเขาย้ำว่า ไม่ใช่วิธีขอพระราชทานนายกฯ ม.7 ก็ต้องรอดูกันอย่างกระชั้นชิด แต่อย่างน้อยก็เริ่มมีความหวังบ้างเหมือนกัน เพราะฝ่ายระบอบทักษิณ ที่ใช้อำนาจผ่านทาง นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นั้นเวลานี้เป็นเหมือนเป็ดง่อย ทำอะไรไม่ได้ ที่สำคัญเสนอทูลเกล้าฯ ออกพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งไม่ได้ แค่นี้ก็จบเห่แล้ว เมื่อทุกอย่างมันตัน ดังนั้นทุกฝ่ายต้องมาหาทางออกร่วมกัน หากเป็นแบบนี้ แนวทางที่ดีที่สุดคือ ต้องร่วมกันสร้างกติกาให้ยอมรับกันก่อน ก่อนดันทุรังเลือกตั้งแบบไร้ประโยชน์ !!
00 ดีเดย์เผด็จศึกกันเต็มกำลังแล้ว สำหรับ กปปส.ที่นำโดย กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ หลังจากรื้อเวทีที่สวนลุมพินี ย้ายมาปักหลักบนถนนราชดำเนินนอก เชิงสะพานมัฆวานฯ หากมองในยุทธศาสตร์ก็ต้องบอกว่า นี่คือการเตรียมการเพื่อยึดอำนาจกลับคืนมาเป็นของประชาชน โดยเฉพาะการยึดทำเนียบฯ ยึดสภา รวมไปถึงการบุกเข้ายึดกองบัญชาการกองทัพ เพื่อบีบให้ออกมายืนอยู่กับประชาชนเสียที ซึ่งในที่สุดก็คงจะใช้วิธีแบบนี้เท่านั้นหากต้องการปิดเกม หวังว่าถึงตอนนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องวางเฉย แล้วรอเกษียณฯ อย่างสงบก็แล้วกันนะ !!
00 สิ่งที่ต้องจับตากันอย่างเข้มข้นและเร่งด่วนที่สุดก็คือ อำนาจในการเสนอทูลเกล้าฯ ของ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ว่ามีอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มี ก็ต้องถือว่าเกิดสูญญากาศแล้ว หรือถ้าไม่ชัดก็ต้องให้มีการตีความให้ได้สรุปชัดเจนตรงนี้ก่อน เพราะเวลานี้เจ้าตัวก็พูดเอง เออเอง ว่ามีอำนาจเต็มไม่ต่างจากรักษาการนายกฯ ซึ่งก็ต้องทำให้เร็วที่สุด รวมไปถึงอำนาจของรมต.คนอื่น การคงอยู่ของ ศอ.รส. ว่าเถื่อนจริงหรือไม่ เรื่องนี้ต้องชัดด้วย !!