xs
xsm
sm
md
lg

พลเอกสายหยุด เกิดผล

เผยแพร่:   โดย: ชัยอนันต์ สมุทวณิช

เด็กๆ สมัยนี้คงไม่รู้จักว่าพลเอกสายหยุด เกิดผล คือใคร แต่คนวัยกลางคนน้อยคนจะไม่รู้จักท่านผู้นี้ ซึ่งกำลังมีบทบาทเป็นที่จับตามอง โดยเป็นประธานกลุ่ม “รัฐบุคคล” ที่กำลังมีข้อเสนอแก้วิกฤตทางการเมืองด้วยการขอพึ่งพระบารมี แม้จะถูกปฏิเสธจากพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่าได้มีการพบปะพูดคุยกัน ซึ่งเราต้องคอยเฝ้าดูต่อไปว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป

วันนี้เรามารู้จักกับพลเอกสายหยุด ในวัย 93 ปี แต่ก็ยังกระฉับกระเฉงมีสุขภาพดีกว่าคนหนุ่มๆ หลายคน พลเอกสายหยุดเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่น 12 ธันวาคม 2483 ซึ่งเป็นหลักสูตรเร่งรัดจบเร็วกว่าปกติเพราะเป็นสมัยสงคราม พ่อผมก็เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นนี้เช่นกัน

เด็กๆ ผมได้ยินพ่อแม่พูดถึงเพื่อนร่วมรุ่น 2 คนคือ พลเอกสายหยุด เกิดผล กับพลเอกเสริม ณ นคร ว่าเป็นคนเก่ง ต่อมาพลเอกเสริมได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก ส่วนพลเอกสายหยุดได้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผมได้พบกับพลเอกสายหยุดผ่านเพื่อนฝรั่งชื่อ เดวิด มอเรลล์ ซึ่งกำลังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกอยู่

หลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ผมช่วยงานท่านอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ วันหนึ่งมีคนมาติดต่อว่าทางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อยากเจรจาหยุดยิง ผมได้กราบเรียนให้ท่านอาจารย์สัญญาทราบ ท่านแนะนำให้ไปหาพลเอกสายหยุด ผมได้เล่าเรื่องนี้ให้พลเอกสายหยุดฟัง ท่านไม่ยอม ท่านเห็นว่าเป็นกลยุทธ์ของ พคท.เพราะเวลานั้น พคท.ถูกกดดันอย่างมาก ผมแจ้งว่าทาง พคท.ต้องการให้รัฐบาลแสดงความจริงใจด้วยการหยุดยิงก่อน นอกจากจะปฏิเสธแล้ว พลเอกสายหยุดยังบอกผมอีกว่า อย่าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ท่านไม่รับรองความปลอดภัย

เวลานั้นผมรู้สึกว่าพลเอกสายหยุดไม่ค่อยฟัง แต่เดวิด มอเรลล์ มักจะบอกผมว่าในบรรดานายทหารทั้งหลาย พลเอกสายหยุดจัดว่าเป็นคนซึ่งพูดรู้เรื่องที่สุด และเป็น “สายพิราบ” ไม่ใช่ “สายเหยี่ยว”

ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพลเอกสายหยุด เป็นความสัมพันธ์แบบนักวิชาการไม่ใช่เพราะผมเป็นลูกเพื่อน ผมได้พบกับท่านในวงสัมมนาทั้งภายใน และภายนอกประเทศ

พลเอกสายหยุด เป็นนายทหารอาชีพ เมื่อเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด มีนายทหารหนุ่มๆ มาชวนให้ท่านเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติหลายหน แต่ท่านก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะท่านเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย

พลเอกสายหยุด เป็นนักวิชาการซึ่งได้รับเชิญให้มาร่วมสัมมนากับพวกเราเสมอ ในระยะเวลาหนึ่งผมเป็นผู้ประสานงานโครงการความมั่นคงในภูมิภาคอาเซียน ผมมีสำนักงานโครงการอยู่ที่สิงคโปร์ ได้เชิญท่านและพลตรีบุญสร้าง (ยศขณะนั้น) ไปร่วมสัมมนาที่สิงคโปร์หลายหน

สมัยก่อนนักวิชาการกับทหารมักจะแยกวงกัน พลเอกสายหยุดจึงเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านแรกที่ได้รับความเคารพนับถือจากนักวิชาการ ต่อมาจึงมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วมวงถกปัญหาบ้านเมืองอีกหลายคน เช่น พล.อ.อ.อรุณ พร้อมเทพ เป็นต้น

เวลาไปสัมมนา ไม่ว่าจะเป็นในต่างจังหวัดหรือในต่างประเทศ พลเอกสายหยุดจะนำไม้เทนนิสติดตัวไปเสมอ ท่านบอกว่าท่านเล่นทุกวันไม่เคยขาดเลยมาเป็นเวลานานแล้ว ท่านเล่นด้วยความใจเย็น ตีลูกได้ทุกลูกแม้ไม่แรงมากแต่เราก็มักจะแพ้ท่าน ท่านจะหยอกเย้าว่าผมเป็นคนรุ่นลูก แต่ก็เล่นแพ้ท่าน

นอกจากเทนนิสแล้ว ท่านยังเล่นกอล์ฟดีถึงขนาดแต่งตำราเล่นกอล์ฟไว้ด้วย แต่ผมไม่เคยเล่นกอล์ฟกับท่าน

เมื่อมีการร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มีผู้มาชวนท่านให้ตั้งพรรคการเมือง ท่านเป็นคนเชื้อสายลาวพวนจากสุโขทัย ท่านถามผม ผมเรียนท่านว่าการตั้งพรรคการเมืองต้องเสียเงินมาก การช่วยบ้านเมืองในทางการเมืองมีหลายแบบไม่จำเป็นต้องตั้งพรรค และลงเลือกตั้ง การตั้งกลุ่มสังเกตการเลือกตั้งก็เป็นวิธีการหนึ่ง ซึ่งท่านก็ได้ทำหน้าที่นี้เป็นอย่างเดียวอยู่หลายปี นอกจากนั้นผมยังเรียนท่านด้วยว่า การเมืองนั้นสามารถมีบทบาทได้ แต่เป็นแบบไม่ฝักฝ่ายใดเรียกว่า Non-Partisan Politics ซึ่งท่านก็เห็นด้วย

พลเอกสายหยุดมีสุขภาพดีมากเพราะเล่นกีฬาเป็นกิจวัตร ผมเรียนรู้เรื่องนี้จากท่าน และได้ว่ายน้ำ-เล่นกอล์ฟเป็นประจำ สมัยก่อนผมเคยเล่นเทนนิสกับคุณเจริญจิต ณ สงขลา ที่วุฒิสภา เวลานี้สนามเทนนิสนั้นกลายเป็นที่จอดรถไปแล้ว

ผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งซึ่งออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และมีสุขภาพดีคือ คุณอนันต์ อนันตกูล อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย และเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ท่านปลัดอนันต์คล้ายกับพลเอกสายหยุด ตรงที่มีการบริหารเวลาดีเยี่ยม เมื่อเล่นกีฬาเสร็จก็เปลี่ยนเครื่องแต่งตัวในรถ และไปงานแต่งงานต่อ

พลเอกสายหยุดชวนผมให้มาพูดคุยปรึกษาหาทางออกเรื่องการแก้วิกฤตชาต ผมได้ไปร่วมประชุม 2-3 ครั้ง เห็นว่าท่านยังมีความคิดเฉียบคม และเป็นห่วงเป็นไยประเทศชาติมาก ผมหวังว่าท่านคงจะประสบผลสำเร็จในเรื่องนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น