ศพฐ.ค้นรถหัวหน้า อช.แก่งกระจาน เก็บหลักฐาน รอยนิ้วมือแฝง เส้นผม เศษดิน ตรวจหา DNA หลัง"บิลลี่"หายตัวลึกลับ ด้านสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชนพา "เมียบิลลี่" ยื่นศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าบิลลี่ อยู่ที่ไหน ชี้ถ้าทางอุทยานยังควบคุมตัวไว้โดยที่ไม่มีอำนาจควบคุมก็ต้องปล่อยตัวคืนตัวบิลลี่
เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (24 เม.ย.) ที่ สภ.แก่งกระจาน พ.ต.อ.ชูชาติ โชคสถาพร รอง ผบก.ศพฐ.7 พ.ต.อ.ดิเรก ธนานนทน์นิวาส ผกก.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศพฐ.7 พ.ต.ท.หญิง เอกจิตรา มีไชยธร นวท.(สบ 3) หัวหน้าพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่กว่า 10 นายเดินทางมาตรวจสอบหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปขณะเดินทางจากหมู่บ้านลงมายังตัวอำเภอแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาตามคำให้การของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทองตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บล 7826 ราชบุรี ที่นายชัยวัฒน์ใช้เพื่อเก็บหลักฐานวัตถุพยาน รอยนิ้วมือแฝง เส้นผม เศษดินที่พบในรถยนต์มาเพื่อตรวจสอบหา DNA ของนายบิลลี่เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีสืบสวนสอบสวน โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
จากนั้นได้นำตัว ด.ช.หาญณรงค์ รักจงเจริญ อายุ 5 ปี บุตรชายคนที่ 3 ของนายบิลลี่ มาทำการเก็บ DNA บริเวณกะพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานต่างๆ ที่พบในรถยนต์กระบะว่าตรงกันบ้างหรือไม่ จากนั้น ช่วงบ่ายได้เข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และตรวจสอบหาหลักฐานบริเวณบ้านมะค่า ซึ่งเป็นจุดที่พยานระบุว่าเป็นจุดปล่อยตัวนายบิลลี่ ไป
เวลา 10.30 น. ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภรรยาพร้อมลูกๆ ของนายบิลลี่ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดเพชรบุรีเพื่อยื่นเรื่องให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินขอให้ปล่อยตัวนายบิลลี่ สามี โดยมีนายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ พร้อม น.ส.ผรัณดา ปานแก้ว จากสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมคณะ เป็นผู้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล
นายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ เปิดเผยว่า มูลเหตุในการเรื่องเนื่องจากภรรยาเชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตามข้อเท็จจริงค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่านายบิลลี่ ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัวมาจริง เพียงแต่ว่าทางอุทยานแห่งชาติฯ ได้อ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้วเท่านั้น แต่ทางเราและภรรยามองว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่น่าเชื่อถือว่าปล่อยตัวมาแล้ว ซึ่งทางภรรยาและญาติยังเชื่อว่านายบิลลี่ ถูกควบคุมตัวไปและยังไม่ได้รับการปล่อยตัวออกมา จึงได้มายื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลได้ไตร่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าขณะนี้นายบิลลี่ อยู่ที่ไหน เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะถ้าทางอุทยานแห่งชาติยังควบคุมตัวไว้โดยที่ไม่มีอำนาจควบคุมก็ต้องปล่อยตัว คืนตัวนายบิลลี่ ออกมา
"ยังมีมูลเหตุอีกส่วนหนึ่งที่นายบิลลี่ เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีความที่เกี่ยวกับการที่พี่น้องกะเหรี่ยงที่ได้รับความเดือนร้อนกรณีการดำเนินนโยบายของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เผาบ้าน และมีการฟ้องร้องในศาลปกครองอยู่ในขณะนี้ ตัวนายบิลลี่ เองก็เป็นบุคคลคนหนึ่งที่จะต้องไปเป็นพยานในศาล และมีผลในเรื่องคดีดังกล่าว เพราะฉะนั้นการที่นายบิลลี่ ได้มีความสำคัญในคดีดังกล่าวที่ฟ้องร้องกับกรมอุทยานฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ ทางเราก็เป็นกังวลว่า ขณะนี้นายบิลลี่ จะยังปลอดภัยอยู่หรือไม่ จึงได้มายื่นให้ศาลไต่สวนเป็นกรณีฉุกเฉิน เพราะถ้ายิ่งเนิ่นช้าไปก็จะยิ่งมีผลต่อความปลอดภัยต่อนายบิลลี่ ส่วนศาลจะมีคำสั่งอย่างไรหรือรับเรื่องหรือไม่ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาล"
เมื่อเวลา 09.30 น. วานนี้ (24 เม.ย.) ที่ สภ.แก่งกระจาน พ.ต.อ.ชูชาติ โชคสถาพร รอง ผบก.ศพฐ.7 พ.ต.อ.ดิเรก ธนานนทน์นิวาส ผกก.กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศพฐ.7 พ.ต.ท.หญิง เอกจิตรา มีไชยธร นวท.(สบ 3) หัวหน้าพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเพชรบุรี พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และเจ้าหน้าที่กว่า 10 นายเดินทางมาตรวจสอบหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย และสมาชิก อบต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปขณะเดินทางจากหมู่บ้านลงมายังตัวอำเภอแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมาตามคำให้การของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าไฮลักซ์ วีโก้ สีบรอนซ์ทองตอนครึ่ง หมายเลขทะเบียน บล 7826 ราชบุรี ที่นายชัยวัฒน์ใช้เพื่อเก็บหลักฐานวัตถุพยาน รอยนิ้วมือแฝง เส้นผม เศษดินที่พบในรถยนต์มาเพื่อตรวจสอบหา DNA ของนายบิลลี่เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดีสืบสวนสอบสวน โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
จากนั้นได้นำตัว ด.ช.หาญณรงค์ รักจงเจริญ อายุ 5 ปี บุตรชายคนที่ 3 ของนายบิลลี่ มาทำการเก็บ DNA บริเวณกะพุ้งแก้มทั้ง 2 ข้าง เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานต่างๆ ที่พบในรถยนต์กระบะว่าตรงกันบ้างหรือไม่ จากนั้น ช่วงบ่ายได้เข้าตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และตรวจสอบหาหลักฐานบริเวณบ้านมะค่า ซึ่งเป็นจุดที่พยานระบุว่าเป็นจุดปล่อยตัวนายบิลลี่ ไป
เวลา 10.30 น. ที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 6 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ภรรยาพร้อมลูกๆ ของนายบิลลี่ ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดเพชรบุรีเพื่อยื่นเรื่องให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินขอให้ปล่อยตัวนายบิลลี่ สามี โดยมีนายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ พร้อม น.ส.ผรัณดา ปานแก้ว จากสมาคมนักกฏหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมคณะ เป็นผู้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล
นายธีรพันธุ์ พันธุ์คีรี ทนายความ เปิดเผยว่า มูลเหตุในการเรื่องเนื่องจากภรรยาเชื่อว่าสามียังมีชีวิตอยู่ ซึ่งตามข้อเท็จจริงค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่านายบิลลี่ ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานควบคุมตัวมาจริง เพียงแต่ว่าทางอุทยานแห่งชาติฯ ได้อ้างว่าได้ปล่อยตัวไปแล้วเท่านั้น แต่ทางเราและภรรยามองว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่น่าเชื่อถือว่าปล่อยตัวมาแล้ว ซึ่งทางภรรยาและญาติยังเชื่อว่านายบิลลี่ ถูกควบคุมตัวไปและยังไม่ได้รับการปล่อยตัวออกมา จึงได้มายื่นคำร้องต่อศาลให้ศาลได้ไตร่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าขณะนี้นายบิลลี่ อยู่ที่ไหน เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะถ้าทางอุทยานแห่งชาติยังควบคุมตัวไว้โดยที่ไม่มีอำนาจควบคุมก็ต้องปล่อยตัว คืนตัวนายบิลลี่ ออกมา
"ยังมีมูลเหตุอีกส่วนหนึ่งที่นายบิลลี่ เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีความที่เกี่ยวกับการที่พี่น้องกะเหรี่ยงที่ได้รับความเดือนร้อนกรณีการดำเนินนโยบายของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ เผาบ้าน และมีการฟ้องร้องในศาลปกครองอยู่ในขณะนี้ ตัวนายบิลลี่ เองก็เป็นบุคคลคนหนึ่งที่จะต้องไปเป็นพยานในศาล และมีผลในเรื่องคดีดังกล่าว เพราะฉะนั้นการที่นายบิลลี่ ได้มีความสำคัญในคดีดังกล่าวที่ฟ้องร้องกับกรมอุทยานฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ ทางเราก็เป็นกังวลว่า ขณะนี้นายบิลลี่ จะยังปลอดภัยอยู่หรือไม่ จึงได้มายื่นให้ศาลไต่สวนเป็นกรณีฉุกเฉิน เพราะถ้ายิ่งเนิ่นช้าไปก็จะยิ่งมีผลต่อความปลอดภัยต่อนายบิลลี่ ส่วนศาลจะมีคำสั่งอย่างไรหรือรับเรื่องหรือไม่ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาล"