นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงความคืบหน้าการขอเปิดประชุมวุฒิสภาสมัยวิสามัญ ว่าเบื้องต้นสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สามารถทำความเข้าใจกับ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ถึงรายละเอียดการขอเปิดประชุมได้แล้ว โดยตกลงกันว่าจะเป็นการเปิดเพื่อพิจารณาการแต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช.คนใหม่ และตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิของศาลปกครองเท่านั้น โดยยังไม่มีการพิจารณาถอดถอน นายนิคม ไวยรัชพานิช ออกจากตำแหน่งประธานวุฒิสภา
แต่ล่าสุด นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กลับทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยกงานธุรการ ระบุว่าการเปิดประชุมวุฒิสภา ควรเริ่มที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนไม่ทราบว่า เหตุใดนายสุวิจักขณ์ จึงหยิบยกมาเป็นประเด็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของนายสุวิจักขณ์ มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ตนไม่อยากคิดแบบนั้น และไม่อยากให้ท่านทำตัวแบบนั้นด้วย
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การถอดถอนนายกรัฐมนตรี และการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ เป็นปัจจัยที่เป็นอุปสรรคของการเปิดประชุมวุฒิสภาด้วย นายสุรชัย กล่าวว่า ส่วนตัวเดาไม่ถูกว่า ใช่หรือไม่ แต่ยืนยันว่าการขอเปิดประชุมวุฒิสภา เป็นไปตามภารกิจที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อให้เป็นไปตามประโยชน์ของรัฐ และไม่ทำให้การบริหารงานขององค์กรอิสระหยุดชะงัก ขณะเดียวกันขอย้ำว่า มาตรา 132 ระบุชัดเจนว่า วุฒิสภาสามารถทำได้ในช่วงที่มี การยุบสภา ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบถามความชัดเจนไปยัง นายพิทูรย์ พุ่มหิรัญ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ยืนยันว่า ให้พิจารณาที่ภารกิจ ว่าเป็นของหน่วยงานใด หน่วยงานนั้นก็ควรเป็นเจ้าภาพ
"ขอเรียกร้องทุกฝ่าย อย่านำปัญหานี้มาเป็นประเด็นซ้ำเติมบ้านเมือง เพราะวุฒิสภา ถือเป็นเสาหลักที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวในขณะนี้ และไม่อยากให้ประชาชนมองว่า ทุกอย่างกำลังจะถึงทางตันไปหมด อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ จะรอฟังข้อสรุปจากเลขาธิการวุฒิสภา ก่อนตัดสินใจว่า จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปอย่างไร" นายสุรชัย กล่าว
แต่ล่าสุด นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กลับทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ยกงานธุรการ ระบุว่าการเปิดประชุมวุฒิสภา ควรเริ่มที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนไม่ทราบว่า เหตุใดนายสุวิจักขณ์ จึงหยิบยกมาเป็นประเด็น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ท่าทีของนายสุวิจักขณ์ มีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ นายสุรชัย กล่าวว่า ตนไม่อยากคิดแบบนั้น และไม่อยากให้ท่านทำตัวแบบนั้นด้วย
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การถอดถอนนายกรัฐมนตรี และการเลือกตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่ เป็นปัจจัยที่เป็นอุปสรรคของการเปิดประชุมวุฒิสภาด้วย นายสุรชัย กล่าวว่า ส่วนตัวเดาไม่ถูกว่า ใช่หรือไม่ แต่ยืนยันว่าการขอเปิดประชุมวุฒิสภา เป็นไปตามภารกิจที่รัฐธรรมนูญกำหนด เพื่อให้เป็นไปตามประโยชน์ของรัฐ และไม่ทำให้การบริหารงานขององค์กรอิสระหยุดชะงัก ขณะเดียวกันขอย้ำว่า มาตรา 132 ระบุชัดเจนว่า วุฒิสภาสามารถทำได้ในช่วงที่มี การยุบสภา ซึ่งที่ผ่านมาได้สอบถามความชัดเจนไปยัง นายพิทูรย์ พุ่มหิรัญ อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ยืนยันว่า ให้พิจารณาที่ภารกิจ ว่าเป็นของหน่วยงานใด หน่วยงานนั้นก็ควรเป็นเจ้าภาพ
"ขอเรียกร้องทุกฝ่าย อย่านำปัญหานี้มาเป็นประเด็นซ้ำเติมบ้านเมือง เพราะวุฒิสภา ถือเป็นเสาหลักที่เหลือเพียงหนึ่งเดียวในขณะนี้ และไม่อยากให้ประชาชนมองว่า ทุกอย่างกำลังจะถึงทางตันไปหมด อย่างไรก็ตามระหว่างนี้ จะรอฟังข้อสรุปจากเลขาธิการวุฒิสภา ก่อนตัดสินใจว่า จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปอย่างไร" นายสุรชัย กล่าว