**เป็นไปตามคาดกับผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ทั่วประเทศ 77คน เกือบ 70-80 เปอร์เซนต์ของคนที่ได้รับเลือก ล้วนเป็นเครือข่ายของพรรคการเมือง-นักการเมืองทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น
ส่วนที่เหลือก็มีหลายคนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา เพราะปัจจัยอื่น เช่น เคยเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด-อดีตรองผู้ว่าฯ–อดีต ส.ว.ปี 43 หรือเป็น เอ็นจีโอในพื้นที่ แต่ก็ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าเครือข่ายนักการเมือง
สำหรับรายชื่อว่าที่ส.ว.ครั้งนี้ มีหลายคนมีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และกปปส. อย่างชัดเจน เช่น บุญส่ง ไข่เกตุ อดีต ส.ส.ตราด ประชาธิปัตย์ หรือ พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ อดีต รอง ผบก.ชุมพร ที่ "ลูกหมี" ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร แกนนำ กปปส. ประกาศชัดว่า หนุนหลังคนนี้ หรืออย่าง ทวี ภูมิสิงหราช ว่าที่ ส.ว.พัทลุง กับบทบาทที่ชัดก็คือ เป็นประธานกปปส.พัทลุง ที่เคลื่อนไหวคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ในพัทลุงอย่างแข็งขันมาตลอด
แต่เมื่อเช็กชื่อ ว่าที่ส.ว.แต่ละคนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า สายเครือข่ายพรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง-พรรคร่วมรัฐบาลในเวลานี้ คือ ชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนา-พลังชล ได้รับเลือกเข้ามาในสัดส่วนที่มากกว่า ของประชาธิปัตย์-กปปส. หลายคน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง
อย่างไรก็ดี มีหลายจังหวัดที่เห็นได้ชัดว่า มีการแข่งขันกันเองของเครือข่ายสายเพื่อไทย-เสื้อแดง-พรรคร่วมรัฐบาล บางจังหวัดพวกเพื่อไทย ก็แข่งกันเองเลย เช่น ที่ร้อยเอ็ด สมเกียรติ พื้นแสน น้องชาย พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นแสน อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย สองสมัย ก็แข่งกับ วิรัตน์ นาเมืองรักษ์ น้องชาย นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด หลายสมัย แถมยังมีแกนนำเสื้อแดงร้อยเอ็ดลงอีกด้วย แต่ผลสุดท้ายก็เป็น สมเกียรติ ฟื้นแสน ที่ชนะการเลือกตั้ง เพราะมีข่าวว่า อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ดหลายคนสนับสนุน โดยเฉพาะ นิสิต สินธุไพร แกนนำ นปช. และอดีต ส.ส.ร้อยเอ็ดหลายสมัย
กรณีแบบนี้ ยังมีอีกหลายที่ เช่น จ.ศรีสะเกษ ก็ปรากฏว่า ไสว สดใส ที่เป็นประธานกลุ่มลำดวนแดงเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดศรีสะเกษ ก็แข่งกันอย่างหนักกับ น.ส.วิลดา อินฉัตร น้องสาว มาลินี อินฉัตร อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย ที่ถึงขั้นขอให้ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. ไปช่วยหาเสียงให้น้องสาว เมื่อช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง แล้วผลก็ออกมาว่า วิลดา อินฉัตร ก็ชนะได้เป็นว่าที่ ส.ว.ตามคาด
สายเพื่อไทย-เสื้อแดง แข่งกันเอง แบบนี้ยังมีหลายจังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือ-อีสาน ที่ผู้สมัครหลายคนอิงฐานเสียงเพื่อไทย-เสื้อแดง และพยายามหาเสียงอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อบอกคนในพื้นที่ว่าเป็นคนของใคร
**แม้จะมีกระแสข่าวว่า ผู้สมัครหลายคนในภาคเหนือ อีสาน ที่ไม่ได้มีญาติเป็นส.ส.เพื่อไทย ก็พยายามร้องขอให้ ทักษิณ ชินวัตร ช่วยส่งสัญญาณไปยัง อดีตส.ส.เพื่อไทย ในภาคเหนือ อีสาน ให้ช่วยเหลือ แต่ทักษิณ ไม่เอาด้วย เพราะเกรงจะมีปัญหา ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ บางจังหวัดที่พวกเพื่อไทย เสื้อแดง แข่งกันเอง ก็ปล่อยไป ไม่ลงมาเกี่ยวข้อง
เหตุเพราะก็ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวเกิดว่าบางจังหวัดพวกอดีต ส.ส.เพื่อไทย แข่งกันเอง เช่น ฝ่ายหนึ่งก็จะส่งเครือญาติอีกฝ่ายหนึ่งก็ส่งเครือญาติหรือคนใกล้ชิดลงสมัคร แล้วสู้กันอย่างหนัก แล้วทักษิณไปหนุนหลังฝ่ายหนึ่ง ก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ จะเกิดปัญหา
ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ในภาคเหนือ อีสาน รวมถึงภาคกลางบางจังหวัด สายเพื่อไทย และเสื้อแดงแข่งกันเอง จนมีข่าวว่า ทำให้อดีต ส.ส.เพื่อไทยหลายคนที่เดิมไม่ถูกกันอยู่แล้ว ยิ่งขัดแย้งกันหนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ ว่าที่ ส.ว.หลายคน ภาพอาจไม่ชัดว่าเป็น อดีตส.ส.เพื่อไทย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย-พลังประชาชน หรือ เป็นญาติของอดีต ส.ส.เพื่อไทย ชนิดเห็นกันจะๆ แบบประเภทอย่าง ศรีเมือง เจริญศิริ อดีต รมว.ศึกษาธิการ สมัย สมชายวงศ์สวัสดิ์-อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน แต่ก็มีหลายคนดูแล้ว ก็น่าจะได้รับแรงหนุนจากสายเพื่อไทย และแม้ภาพบางคนอาจไม่ชัด แต่ก็อยู่ในข่ายที่เชื่อว่า เมื่อเข้าไปเป็นส.ว.แล้วฝ่ายเพื่อไทย หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะดึงเข้ากลุ่มให้ไปเป็นส.ว.สายอิงรัฐบาลเพื่อไทย ได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ นอกจาก สมเกียรติ ฟื้นแสน จากร้อยเอ็ด, วิลดา อินฉัตร จากศรีสะะเกษ- ศรีเมือง เจริญศิริ มหาสารคาม ที่เห็นชัดว่าเป็นสายเพื่อไทย-เสื้อแดง แล้วก็ยังพบว่ามี ว่าที่ ส.ว.อีกหลายคน เป็นเครือข่ายเพื่อไทย แน่นอน
อาทิ ดวงพร เทียนทอง ผู้บริหารโรงแรมอรัญเมอร์เมด ที่ สระแก้ว หลาน เสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย- นางอาภรณ์ สาราคำ ว่าที่ ส.ว.อุดรธานี เมีย ขวัญชัย ไพรพนา , อุบลราชธานี สมชาย เหล่าสายเชื้อ นักธุรกิจเจ้าของโชว์รูมโตโยต้า ใหญ่ระดับประเทศ ที่ อุบลราชธานี ที่เอาชนะ ณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มาได้แบบสบายๆ แม้ภาพอาจดูกลางๆ แต่ก็มีข่าวว่า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ยอมรับเองว่า สมชาย สนิทกับ เกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
แล้วก็ยังมีอีกบางส่วนเช่น ที่ นครสวรรค์ พบว่า ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ ว่าที่ ส.ว.นครสวรรค์ ก็คือพี่ชาย บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ที่คุมพื้นที่นครสวรรค์ให้กับพรรคเพื่อไทยอยู่ตอนนี้ หรือ มณเฑียร สงฆ์ประชา ที่ตอนนี้รอจ่อ ว่าที่ ส.ว.ชัยนาท ก็เป็นพี่ชาย ของ นางมันทนา สงฆ์ประชา อดีตส.ส.ชัยนาท ที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่เพื่อไทย พร้อม สมศักดิ์ เทพสุทิน หรือ ธงชัย ศรีสุขจร ว่าที่ ส.ว.นครปฐม นักธุรกิจรายใหญ่ในจังหวัด ก็มีข่าวว่าแนบแน่นกับพี่น้องตระกูล สะสมทรัพย์ ทั้งไชยา และเผดิมชัย
หรือ นายอดิศร กำเนิดศิริ ว่าที่ ส.ว.เชียงใหม่ ที่ลาออกจากรองผู้ว่าฯเชียงใหม่มาลงสมัคร แม้ต้องสู้กับ ถาวร เกียรติไชยากร อดีต ส.ว.เชียงใหม่ น้องชาย สุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย แต่เพราะเสียงอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไม่เป็นเอกภาพ ผนวกกับตัว อดิศร ก็รู้จักสนิทกับอดีตต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทยหลายคน ที่อาจพอคุยกันได้ แล้วก็เป็นดังคาด เลยได้เป็น ว่าที่ ส.ว.เชียงใหม่ แบบไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
**อย่างไรก็ตาม ผลเลือกตั้งที่ออกมา บางจังหวัดก็แสดงให้เห็นว่าประชาชน ก็คงไม่ต้องการให้ สายเพื่อไทย ผูกขาดการเมืองในจังหวัดแบบเบ็ดเสร็จ เลยไม่เลือกคนของเพื่อไทยเสียเลย ยิ่งบางจังหวัด คู่แข่งขัน ชื่อเสียงดีกว่าก็เอาชนะคนของสายเพื่อไทย ได้ไม่ยาก
เช่นที่ ปทุมธานี นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา อดีต ส.ว.ปี 43- อดีต ผวจ.ปทุมธานี ที่ชนะ นางมาลา หาญสวัสดิ์ สะใภ้ ตระกูลหาญสวัสดิ์ ที่ผูกขาดการเมืองในปทุมธานีมาหลายสิบปีไปได้ หรือ ที่ พะเยา ซึ่ง เสถียร เชื้อประเสริฐศักดิ์ ทนายความ และอดีตรองประธานสโมสรฟุตบอล พะเยา เอฟซี คว่ำเต็งหนึ่ง ไพรัตน์ ตันบรรจง อดีตนายก อบจ.พะเยา น้องชาย ไพโรจน์ ตันบรรจง อดีต ส.ส.พะเยา เพื่อไทยหลายสมัยไปได้แบบหักปากกาเซียน
ขณะที่พวกเครือข่ายสายพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีเข้ามาหลายคนอาทิ สายพรรคชาติไทยพัฒนา อย่าง จองชัย เที่ยงธรรม อดีตแกนนำพรรคชาติไทย ที่จ่อเป็น ส.ว.สุพรรณบุรี- ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย หรือชาติพัฒนา ก็เช่น บุญพา ลิมปะพันธุ์ คนนามสกุลเดียวกับ ประพาส ลิมปะพันธุ์ แกนนำพรรคชาติพัฒนา รวมถึง พงษ์ศิริ กุสุมภ์ ที่หลายสายบอกว่า ได้เป็น ส.ว.นครราชสีมา เพราะได้แรงหนุนจาก สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เนื่องจากสนิทกันมากเพราะ พงษ์ศิริ เคยเป็นรองผู้ว่าฯโคราช หลายปี ส่วนที่ ชลบุรี สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ อดีต ส.ส.ชลบุรีลูกทีม สนธยา คุณปลื้มหัวหน้าพรรคพลังชลมาร่วมยี่สิบปี
เชื่อว่าหลังจากนี้ สายทักษิณ คงเข้าไปรุกคืบแทรกแซงวุฒิสภาตามเคยแน่นอน เพื่อหวังผลในการยึดครองสภาสูง จะได้ทำให้คดีถอดถอนต่างๆ ที่ป.ป.ช. จะส่งมา เสียงถอดถอนจะได้ไม่ถึง
โดยอาจมีการเข้าไปช็อปปิ้งซื้อตัวส.ว.ทั้งหลาย ที่พร้อมเสนอตัวเพื่อแลกกับผลประโยชน์ หลังฝ่ายทักษิณ เสนอสิ่งล่อใจพวกส.ว.ทั้งหลายให้เข้ามาเป็นพวก เช่น ผลประโยชน์การเมือง สินน้ำใจต่างๆ เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ทั้งสมัยส.ว.ปี 43 และส.ว.ปี 51
**หาก ส.ว.หลายคนยอมขายตัว เป็นทาสให้ระบอบทักษิณ “สภาชิน”แบบปี 43 กลับมาอีกรอบแน่นอน
ส่วนที่เหลือก็มีหลายคนที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา เพราะปัจจัยอื่น เช่น เคยเป็นอดีตผู้ว่าราชการจังหวัด-อดีตรองผู้ว่าฯ–อดีต ส.ว.ปี 43 หรือเป็น เอ็นจีโอในพื้นที่ แต่ก็ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าเครือข่ายนักการเมือง
สำหรับรายชื่อว่าที่ส.ว.ครั้งนี้ มีหลายคนมีความเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ และกปปส. อย่างชัดเจน เช่น บุญส่ง ไข่เกตุ อดีต ส.ส.ตราด ประชาธิปัตย์ หรือ พ.ต.อ.นรินทร์ บุษยวิทย์ อดีต รอง ผบก.ชุมพร ที่ "ลูกหมี" ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร แกนนำ กปปส. ประกาศชัดว่า หนุนหลังคนนี้ หรืออย่าง ทวี ภูมิสิงหราช ว่าที่ ส.ว.พัทลุง กับบทบาทที่ชัดก็คือ เป็นประธานกปปส.พัทลุง ที่เคลื่อนไหวคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ในพัทลุงอย่างแข็งขันมาตลอด
แต่เมื่อเช็กชื่อ ว่าที่ส.ว.แต่ละคนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า สายเครือข่ายพรรคเพื่อไทย-คนเสื้อแดง-พรรคร่วมรัฐบาลในเวลานี้ คือ ชาติไทยพัฒนา-ชาติพัฒนา-พลังชล ได้รับเลือกเข้ามาในสัดส่วนที่มากกว่า ของประชาธิปัตย์-กปปส. หลายคน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง
อย่างไรก็ดี มีหลายจังหวัดที่เห็นได้ชัดว่า มีการแข่งขันกันเองของเครือข่ายสายเพื่อไทย-เสื้อแดง-พรรคร่วมรัฐบาล บางจังหวัดพวกเพื่อไทย ก็แข่งกันเองเลย เช่น ที่ร้อยเอ็ด สมเกียรติ พื้นแสน น้องชาย พล.ต.อ.วิรุฬ ฟื้นแสน อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย สองสมัย ก็แข่งกับ วิรัตน์ นาเมืองรักษ์ น้องชาย นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด หลายสมัย แถมยังมีแกนนำเสื้อแดงร้อยเอ็ดลงอีกด้วย แต่ผลสุดท้ายก็เป็น สมเกียรติ ฟื้นแสน ที่ชนะการเลือกตั้ง เพราะมีข่าวว่า อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ดหลายคนสนับสนุน โดยเฉพาะ นิสิต สินธุไพร แกนนำ นปช. และอดีต ส.ส.ร้อยเอ็ดหลายสมัย
กรณีแบบนี้ ยังมีอีกหลายที่ เช่น จ.ศรีสะเกษ ก็ปรากฏว่า ไสว สดใส ที่เป็นประธานกลุ่มลำดวนแดงเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดศรีสะเกษ ก็แข่งกันอย่างหนักกับ น.ส.วิลดา อินฉัตร น้องสาว มาลินี อินฉัตร อดีต ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพื่อไทย ที่ถึงขั้นขอให้ อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำนปช. ไปช่วยหาเสียงให้น้องสาว เมื่อช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง แล้วผลก็ออกมาว่า วิลดา อินฉัตร ก็ชนะได้เป็นว่าที่ ส.ว.ตามคาด
สายเพื่อไทย-เสื้อแดง แข่งกันเอง แบบนี้ยังมีหลายจังหวัด โดยเฉพาะในภาคเหนือ-อีสาน ที่ผู้สมัครหลายคนอิงฐานเสียงเพื่อไทย-เสื้อแดง และพยายามหาเสียงอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อบอกคนในพื้นที่ว่าเป็นคนของใคร
**แม้จะมีกระแสข่าวว่า ผู้สมัครหลายคนในภาคเหนือ อีสาน ที่ไม่ได้มีญาติเป็นส.ส.เพื่อไทย ก็พยายามร้องขอให้ ทักษิณ ชินวัตร ช่วยส่งสัญญาณไปยัง อดีตส.ส.เพื่อไทย ในภาคเหนือ อีสาน ให้ช่วยเหลือ แต่ทักษิณ ไม่เอาด้วย เพราะเกรงจะมีปัญหา ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ บางจังหวัดที่พวกเพื่อไทย เสื้อแดง แข่งกันเอง ก็ปล่อยไป ไม่ลงมาเกี่ยวข้อง
เหตุเพราะก็ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวเกิดว่าบางจังหวัดพวกอดีต ส.ส.เพื่อไทย แข่งกันเอง เช่น ฝ่ายหนึ่งก็จะส่งเครือญาติอีกฝ่ายหนึ่งก็ส่งเครือญาติหรือคนใกล้ชิดลงสมัคร แล้วสู้กันอย่างหนัก แล้วทักษิณไปหนุนหลังฝ่ายหนึ่ง ก็ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งไม่พอใจ จะเกิดปัญหา
ผลก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ในภาคเหนือ อีสาน รวมถึงภาคกลางบางจังหวัด สายเพื่อไทย และเสื้อแดงแข่งกันเอง จนมีข่าวว่า ทำให้อดีต ส.ส.เพื่อไทยหลายคนที่เดิมไม่ถูกกันอยู่แล้ว ยิ่งขัดแย้งกันหนัก
อย่างไรก็ตาม แม้ ว่าที่ ส.ว.หลายคน ภาพอาจไม่ชัดว่าเป็น อดีตส.ส.เพื่อไทย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทย-พลังประชาชน หรือ เป็นญาติของอดีต ส.ส.เพื่อไทย ชนิดเห็นกันจะๆ แบบประเภทอย่าง ศรีเมือง เจริญศิริ อดีต รมว.ศึกษาธิการ สมัย สมชายวงศ์สวัสดิ์-อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน แต่ก็มีหลายคนดูแล้ว ก็น่าจะได้รับแรงหนุนจากสายเพื่อไทย และแม้ภาพบางคนอาจไม่ชัด แต่ก็อยู่ในข่ายที่เชื่อว่า เมื่อเข้าไปเป็นส.ว.แล้วฝ่ายเพื่อไทย หรือแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะดึงเข้ากลุ่มให้ไปเป็นส.ว.สายอิงรัฐบาลเพื่อไทย ได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ นอกจาก สมเกียรติ ฟื้นแสน จากร้อยเอ็ด, วิลดา อินฉัตร จากศรีสะะเกษ- ศรีเมือง เจริญศิริ มหาสารคาม ที่เห็นชัดว่าเป็นสายเพื่อไทย-เสื้อแดง แล้วก็ยังพบว่ามี ว่าที่ ส.ว.อีกหลายคน เป็นเครือข่ายเพื่อไทย แน่นอน
อาทิ ดวงพร เทียนทอง ผู้บริหารโรงแรมอรัญเมอร์เมด ที่ สระแก้ว หลาน เสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย- นางอาภรณ์ สาราคำ ว่าที่ ส.ว.อุดรธานี เมีย ขวัญชัย ไพรพนา , อุบลราชธานี สมชาย เหล่าสายเชื้อ นักธุรกิจเจ้าของโชว์รูมโตโยต้า ใหญ่ระดับประเทศ ที่ อุบลราชธานี ที่เอาชนะ ณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ ภรรยา พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม มาได้แบบสบายๆ แม้ภาพอาจดูกลางๆ แต่ก็มีข่าวว่า อดีต ส.ส.อุบลราชธานี ยอมรับเองว่า สมชาย สนิทกับ เกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
แล้วก็ยังมีอีกบางส่วนเช่น ที่ นครสวรรค์ พบว่า ร.อ.จักรวาล ตั้งภากรณ์ ว่าที่ ส.ว.นครสวรรค์ ก็คือพี่ชาย บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ที่คุมพื้นที่นครสวรรค์ให้กับพรรคเพื่อไทยอยู่ตอนนี้ หรือ มณเฑียร สงฆ์ประชา ที่ตอนนี้รอจ่อ ว่าที่ ส.ว.ชัยนาท ก็เป็นพี่ชาย ของ นางมันทนา สงฆ์ประชา อดีตส.ส.ชัยนาท ที่ตอนนี้ย้ายมาอยู่เพื่อไทย พร้อม สมศักดิ์ เทพสุทิน หรือ ธงชัย ศรีสุขจร ว่าที่ ส.ว.นครปฐม นักธุรกิจรายใหญ่ในจังหวัด ก็มีข่าวว่าแนบแน่นกับพี่น้องตระกูล สะสมทรัพย์ ทั้งไชยา และเผดิมชัย
หรือ นายอดิศร กำเนิดศิริ ว่าที่ ส.ว.เชียงใหม่ ที่ลาออกจากรองผู้ว่าฯเชียงใหม่มาลงสมัคร แม้ต้องสู้กับ ถาวร เกียรติไชยากร อดีต ส.ว.เชียงใหม่ น้องชาย สุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทย แต่เพราะเสียงอดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ไม่เป็นเอกภาพ ผนวกกับตัว อดิศร ก็รู้จักสนิทกับอดีตต ส.ส.เชียงใหม่ เพื่อไทยหลายคน ที่อาจพอคุยกันได้ แล้วก็เป็นดังคาด เลยได้เป็น ว่าที่ ส.ว.เชียงใหม่ แบบไม่ได้เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
**อย่างไรก็ตาม ผลเลือกตั้งที่ออกมา บางจังหวัดก็แสดงให้เห็นว่าประชาชน ก็คงไม่ต้องการให้ สายเพื่อไทย ผูกขาดการเมืองในจังหวัดแบบเบ็ดเสร็จ เลยไม่เลือกคนของเพื่อไทยเสียเลย ยิ่งบางจังหวัด คู่แข่งขัน ชื่อเสียงดีกว่าก็เอาชนะคนของสายเพื่อไทย ได้ไม่ยาก
เช่นที่ ปทุมธานี นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา อดีต ส.ว.ปี 43- อดีต ผวจ.ปทุมธานี ที่ชนะ นางมาลา หาญสวัสดิ์ สะใภ้ ตระกูลหาญสวัสดิ์ ที่ผูกขาดการเมืองในปทุมธานีมาหลายสิบปีไปได้ หรือ ที่ พะเยา ซึ่ง เสถียร เชื้อประเสริฐศักดิ์ ทนายความ และอดีตรองประธานสโมสรฟุตบอล พะเยา เอฟซี คว่ำเต็งหนึ่ง ไพรัตน์ ตันบรรจง อดีตนายก อบจ.พะเยา น้องชาย ไพโรจน์ ตันบรรจง อดีต ส.ส.พะเยา เพื่อไทยหลายสมัยไปได้แบบหักปากกาเซียน
ขณะที่พวกเครือข่ายสายพรรคร่วมรัฐบาล ก็มีเข้ามาหลายคนอาทิ สายพรรคชาติไทยพัฒนา อย่าง จองชัย เที่ยงธรรม อดีตแกนนำพรรคชาติไทย ที่จ่อเป็น ส.ว.สุพรรณบุรี- ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อดีต ส.ส.พรรคชาติไทย หรือชาติพัฒนา ก็เช่น บุญพา ลิมปะพันธุ์ คนนามสกุลเดียวกับ ประพาส ลิมปะพันธุ์ แกนนำพรรคชาติพัฒนา รวมถึง พงษ์ศิริ กุสุมภ์ ที่หลายสายบอกว่า ได้เป็น ส.ว.นครราชสีมา เพราะได้แรงหนุนจาก สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เนื่องจากสนิทกันมากเพราะ พงษ์ศิริ เคยเป็นรองผู้ว่าฯโคราช หลายปี ส่วนที่ ชลบุรี สุรสิทธิ์ นิธิวุฒิวรรักษ์ อดีต ส.ส.ชลบุรีลูกทีม สนธยา คุณปลื้มหัวหน้าพรรคพลังชลมาร่วมยี่สิบปี
เชื่อว่าหลังจากนี้ สายทักษิณ คงเข้าไปรุกคืบแทรกแซงวุฒิสภาตามเคยแน่นอน เพื่อหวังผลในการยึดครองสภาสูง จะได้ทำให้คดีถอดถอนต่างๆ ที่ป.ป.ช. จะส่งมา เสียงถอดถอนจะได้ไม่ถึง
โดยอาจมีการเข้าไปช็อปปิ้งซื้อตัวส.ว.ทั้งหลาย ที่พร้อมเสนอตัวเพื่อแลกกับผลประโยชน์ หลังฝ่ายทักษิณ เสนอสิ่งล่อใจพวกส.ว.ทั้งหลายให้เข้ามาเป็นพวก เช่น ผลประโยชน์การเมือง สินน้ำใจต่างๆ เหมือนอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ทั้งสมัยส.ว.ปี 43 และส.ว.ปี 51
**หาก ส.ว.หลายคนยอมขายตัว เป็นทาสให้ระบอบทักษิณ “สภาชิน”แบบปี 43 กลับมาอีกรอบแน่นอน