xs
xsm
sm
md
lg

ถึงเส้นตาย “ปูโง่” จนมุมคดีจำนำข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สะเก็ดไฟ

วันนี้ (31 มี.ค.) หลายฝ่ายรอดูกันมากว่า จะได้เห็น ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาในคดีรับจำนำข้าวต่อ ป.ป.ช.กันหรือไม่

ข่าวล่าสุดจนถึงช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 30 มี.ค.ก็ยังไม่มีความชัดเจนจากยิ่งลักษณ์ ที่ให้สัมภาษณ์หลังเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว.ว่าจะเอาอย่างไร

ดูจากอาการต่างๆ ของยิ่งลักษณ์ และทีมทนายความรวมถึงฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย ที่แสดงออกต่อการทำงานของ ป.ป.ช.ในคดีนี้ ตลอดจนแรงยุของคนเสื้อแดงที่ให้ ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธการยอมรับอำนาจของ ป.ป.ช.ในการสอบสวนคดีนี้ ยิ่งลักษณ์ น่าจะเลือกใช้วิธีส่งเอกสารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรต่อ ป.ป.ช.แทนมากกว่าจะเดินทางไปชี้แจงต่อกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งหมดร่วมกันเป็นองค์คณะไต่สวนยิ่งลักษณ์ ยกเว้น พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการ ป.ป.ช.ที่ขอถอนตัวออกไป

ฝ่ายยิ่งลักษณ์คงประเมินกันว่า การไปชี้แจงมีผลเสียมากกว่าผลดี เช่น หากไปชี้แจงจะเป็นการไปขัดใจคนเสื้อแดง และกองเชียร์รัฐบาลเพื่อไทยจำนวนมากที่ต้องการสู้รบกับองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช.หากยิ่งลักษณ์ไป ก็จะเสียแต้มทำให้มวลชนฝั่งตัวเองผิดหวัง

มองว่ายิ่งลักษณ์อ่อนข้อให้กับ ป.ป.ช.ในช่วงที่เสื้อแดงกำลังนัดชุมนุมใหญ่ วันที่ 5 เม.ย.นี้ ซึ่งแกนนำคุยโวว่าจะมีคนมาร่วมไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน แต่สถานที่ยังไม่ระบุว่าจัดที่ไหน บนเป้าหมาย คือ กดดันการทำงานขององค์กรอิสระ ตรงนี้น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ยิ่งลักษณ์ต้องคำนึงถึง

ฝ่ายที่มองว่า ยิ่งลักษณ์ ไม่น่าไปชี้แจงยังมองว่าหากยิ่งลักษณ์ ที่เป็นผู้นำประเทศ และกำลังตกอยู่ในสภาพเดี้ยงทางการเมืองมีภาพปรากฏไปทั่วว่าเดินทางเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาคดีทุจริตคอร์รัปชันโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ของรัฐบาล ที่ยิ่งลักษณ์ อ้างมาตลอดว่าเป็นโครงการที่ดี มีข้อเสียน้อย ภาพที่ปรากฏออกไป ยิ่งลักษณ์ ติดลบมากกว่า

ตลอดจนหากการที่ ยิ่งลักษณ์ ไปชี้แจงแล้วถูกไล่ต้อน หรือตอบคำถามที่ ป.ป.ช.เตรียมไว้สอบถามไม่ได้ กลับจะยิ่งทำให้กลายเป็นปมมัดตัวให้หนักขึ้นไปอีก ยิ่งที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์ ก็ออกมาตั้งแง่การไต่สวนคดีของ ป.ป.ช.มาตลอด ว่าเป็นไปโดยมิชอบมีเจตนาทางการเมืองเพื่อกลั่นแกล้งให้โดนเอาผิดมีการเร่งรีบสอบสวนและต้องการสรุปผลแบบรวบรัดเพื่อหวังผลทางการเมือง

หากเดินทางไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.ก็เท่ากับว่า ยอมรับการไต่สวนคดีของ ป.ป.ช. แล้วหากผลออกมาตามคาดคือ โดน ป.ป.ช.ชี้มูล ถ้าถึงตอนนั้นแล้วออกมาโวยวาย หรือโอดครวญการทำงานของ ป.ป.ช.จะยิ่งไม่มีน้ำหนัก

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องรอดูกันอีกครั้งว่ายิ่งลักษณ์จะตัดสินใจอย่างไร จะมีเซอร์ไพรส์อะไรหรือไม่ เพราะตามข่าวบอกว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.ก็รอเตรียมพร้อม ตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อรอสัญญาณว่ายิ่งลักษณ์จะมาด้วยตัวเองหรือไม่ หากมาจริงการเตรียมการต่างๆ ก็คงต้องพิเศษกว่าปกติ

ทว่า ถึงตอนนี้ความเป็นไปของยิ่งลักษณ์กับคดีรับจำนำข้าว ไม่ใช่แค่คนในพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงเท่านั้น แต่ตัวยิ่งลักษณ์ และทักษิณ ชินวัตร ต่างก็เชื่อว่า ยังไง ยิ่งลักษณ์ มีแนวโน้มไม่รอดแน่ ต้องโดน ป.ป.ช.ชี้มูลอยู่แล้ว จึงมีข่าวออกมาตลอดถึงการเตรียมวางแผนการเมืองไว้หมดแล้ว หากยิ่งลักษณ์ต้องกระเด็นจากเก้าอี้

เช่น หากโดนชี้มูลแล้วต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ จะให้ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศขึ้นมารับไม้แทนแล้วจะสู้กับฝ่าย สุเทพ เทือกสุบรรณ และ กปปส.อย่างไร แล้วหากคดียังดำเนินต่อไป โดยที่วุฒิสภายังไม่ได้ลงมติถอดถอน หรืออัยการสูงสุดที่รับสำนวนจาก ป.ป.ช.มาในส่วนของคดีอาญายังไม่มีความเห็นว่าจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ แต่เกิดมีการรับสมัครเลือกตั้งเกิดขึ้นเสียก่อน แล้วจะให้ ยิ่งลักษณ์ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ต่อหรือไม่ ข่าวบอกว่าแผนต่างๆ เพื่อรับมือที่ยิ่งลักษณ์ จะโดน ป.ป.ช.สอยร่วง วางไว้หมดแล้ว ทั้งแผน A แผน B แผน C

เพราะทักษิณประเมินว่าน้องสาวคงรอดยาก

และหนึ่งในแผนที่ทักษิณและเครือข่ายระบอบทักษิณวางไว้ในการช่วยให้ยิ่งลักษณ์ รอดคดีความจำนำข้าว หากไม่โดนคดีโยกย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี ที่ ไพบูลย์ นิติตะวัน ชกร่วงเสียก่อนในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ ก็คือ การมองข้ามช็อตช่วยยิ่งลักษณ์ในขั้นตอนการถอดถอนของวุฒิสภา เพราะแม้หากยิ่งลักษณ์ โดน ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่ขั้นตอนดังกล่าว การส่งเรื่องจาก ป.ป.ช.ไปวุฒิสภา เพื่อให้ลงมติถอดถอนก็ใช้เวลาประมาณ 45 วันหรืออย่างช้า ก็ 60 วันเท่านั้น ก็รู้ผลว่าโดนถอดถอน หรือไม่ หากรอดก็กลับมาโลดแล่นการเมืองได้อีก

เว้นแต่ในชั้นคดีอาญา ที่ ป.ป.ช.ส่งไปให้อัยการสูงสุดเพื่อให้สั่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ที่หากศาลฎีการับฟ้องก็ต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน แต่ขั้นตอนดังกล่าวกินเวลาเนิ่นนานเป็นปี กว่าจะรู้ผลว่าอัยการจะฟ้อง หรือไม่ฟ้อง

การมองข้ามช็อตวางแผนช่วยยิ่งลักษณ์ของทักษิณ และพวกเพื่อไทย ก็คือ การหวังพึ่งเสียง ส.ว.เลือกตั้งที่เลือกกันไปเมื่อ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งดูลำดับเวลาแล้ว ส.ว.เลือกตั้ง 77 คน นี้จะต้องเข้าไปลงมติถอดถอนคดี ยิ่งลักษณ์ หากโดน ป.ป.ช.ชี้มูล อันเป็น ส.ว.เลือกตั้งชุดที่คนคาดการณ์กันว่า เครือข่าย ส.ว.สายเพื่อไทย-พรรคร่วมรัฐบาล-เสื้อแดง น่าจะพาเหรดเข้าวุฒิสภามาได้ขั้นต่ำก็น่าจะร่วมๆ 45-50 คนขึ้นไป บวกกับ ส.ว.สรรหาอีกส่วนหนึ่ง ที่พวกรัฐบาลพอคุยกันได้สัก 20-25 คน ถ้าคุมเสียงส่วนนี้ได้ เสียงถอดถอนก็ไม่ถึง 3 ใน 5 คือ 90 เสียงแน่นอน

แต่แผนการดังกล่าวของทักษิณ-เพื่อไทย จะสำเร็จหรือไม่ ต้องรอเช็กชื่อคนที่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ว.เสียก่อน ว่าสายตัวเองและสายพรรคการเมืองอื่นๆ เข้ามากี่คน ทำได้ตามเป้าหรือไม่ หากทำได้ตามเป้า เรื่องถอดถอน ก็น่าจะวางใจได้

เพราะมีข่าวว่าทักษิณและพวก ก็เล็งวางตัวมือล็อบบี้ในสภาสูงไว้หลายคนแล้ว เพื่อคอยเข้าไปวางหมากในวุฒิสภาแทนพวก นิคม ไวยรัชพานิช แต่หากผิดแผน เช่นคนของตัวเองได้รับเลือกมาเป็น ส.ว.ไม่มากอย่างที่คิด ก็ต้องมาแก้เกมกันอีกที
กำลังโหลดความคิดเห็น