“เพื่อไทย”ยอมถอยสู้ศึกเลือกตั้ง สั่งสกัด“ชินวัตร”ชูแค่“ยิ่งลักษณ์”

ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยปั่นป่วนกับการทำโผบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทยระบบบัญชีรายชื่อ 125รายชื่อ เพื่อยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 2556

เดิมที เมื่อการเลือกตั้งปี 54 ก่อนที่เพื่อไทยจะเคาะชื่อปาร์ตี้ลิสต์ได้ลงตัว ก็ทำเอานายทุนเจ้าของพรรค ทักษิณ ชินวัตร ปวดหัวพอสมควรอยู่แล้วเพราะความเป็นพรรคใหญ่ คนเยอะ-กลุ่มก๊วนในเพื่อไทยมีมากมายหลายกลุ่ม แต่มีสิทธิส่งชื่อได้แค่ 125 รายชื่อ แถมแต่ละคนก็ต้องการอยู่ในบัญชีลำดับต้นๆ ไม่เกินลำดับที่ 60 ไม่มีใครอยากอยู่ลำดับหลังๆ เพราะทำให้โอกาสจะได้ลุ้นเป็นส.ส.ก็ลดน้อยลงไปตามลำดับ

จนเพื่อไทยมีกติกาว่าหากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์คนไหนได้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออกจากส.ส.เพื่อจะเลื่อนลำดับคนถัดๆไปขึ้นมาเป็นส.ส. ยกเว้นคนสำคัญๆที่มีบทบาทการเมืองสูง ก็จะให้ควบทั้งรัฐมนตรีและส.ส.ซึ่งก็มีอยู่แค่ไม่กี่คนเท่านั้น

รวมถึงการแก้ปัญหาด้วยการทำบัญชี 2 บัญชี 3 คือบัญชีประเภท ผู้ที่พรรคจะให้ไปรับตำแหน่งการเมือง เช่นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี-ที่ปรึกษารัฐมนตรี-เลขานุการรัฐมนตรี-ประธานและบอร์ดรัฐวิสาหกิจต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาคนล้นจัดลงบัญชีรายชื่อไม่ได้

มาเลือกตั้งครั้งนี้ ยิ่งปั่นป่วนเข้าไปใหญ่ เพราะว่าพวกอดีต 111 ไทยรักไทยและ 109 พรรคพลังประชาชน ได้สิทธิกลับมาเล่นการเมืองได้เต็มตัวแล้ว หลายคนในกลุ่มนี้ก็เป็นพวกแกนนำพรรค-คีย์แมนพรรค-ผู้อาวุโสในพรรค-อดีตส.ส.เขตหลายสมัย-นายทุนพรรค รวมถึงยังมีบรรดาพวกแกนนำเสื้อแดงที่เลือกตั้งครั้งที่แล้วติดอยู่ใน 111 และ 109 แต่ทักษิณก็ซื้อใจส่งเครือญาติพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นเมีย-ลูก-พี่น้องไปลงสมัครส.ส.ทั้งระบบเขตและปาร์ติ้ลิสต์

คราวนี้พวกแกนนำนปช.และเครือข่ายเสื้อแดงเหล่านี้ อาทิ นิสิต สินธุไพร -สุภร อัตถาวงศ์-อดิศร เพียงเกษ ยื่นขอลงสมัครส.ส.ไม่ว่าจะเป็นระบบเขตหรือปาร์ตี้ลิสต์ก็ได้แต่ต้องลำดับต้นๆ ขณะเดียวกันก็ยังจะให้เครือญาติที่ได้เป็นส.ส.เพื่อไทยครั้งที่แล้วแทนตัวเอง ต้องได้ลงสมัครส.ส.อีกทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์อีก

ทักษิณต้องปวดกบาลกับแก๊งเสื้อแดงที่จะเอาทั้งขึ้นทั้งล่อง

คนมาก-กลุ่มเยอะ-ก๊วนแยะ ในเพื่อไทยแบบนี้ เลยทำให้การจัดทำบัญชีรายชื่อผู้สมัครในระบบปาร์ตี้ลิสต์ของเพื่อไทยครั้งนี้มีปัญหาอย่างมาก ข่าวบอกว่าโผไม่ลงตัว ฝุ่นตลบ แกนนำพรรคเคาะแล้วเคาะอีกก็ยังไม่ลงตัว

เพราะบรรดาแกนนำเพื่อไทยที่ถือว่าเป็นพวกทีม ซี ของทักษิณ หลายคนก็ไม่ยอมยังต้องการมีบทบาทในพรรคเพื่อไทยต่อไป จึงพยายามจะขอให้มีชื่ออยู่ในลำดับต้นๆ ของบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ ขณะที่พวกทีมเอ 111 ไทยรักไทยและทีมบี 109 พลังประชาชน หลังจากอึดอัดการเมืองมานานหลายปี ก็ต้องการจะกลับมามีบทบาทการเมืองในเพื่อไทยเต็มตัว

ซึ่งลำดับแรกที่ต้องทำให้ได้ ก็คือต้องมีชื่ออยู่ในลำดับต้นๆ ของบัญชีปาร์ตี้ลิสต์

มันก็เลยทำให้มีข่าวว่าการจัดทำโผบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ครั้งนี้ของเพื่อไทย คาดว่ากว่าจะลงตัว น่าจะเสร็จตอนกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.นี้โดยรายชื่อทั้ง 125 คน จะมีคนในพรรคเพื่อไทยรับรู้ไม่กี่คนก่อนจะนำไปยื่นต่อกกต.ในตอนเช้าวันที่ 23 ธ.ค.เหมือนกับการเลือกตั้งเมื่อปี 54 ที่บัญชีรายชื่อทั้งหมดกว่าจะเสร็จก็มีข่าวว่าเกือบจะรุ่งเช้าของวันยื่นรายชื่อต่อกกต. ต้องทำโผกันตั้งแต่ดึกจนเช้า

และปีนี้ก็คาดว่าจะเหมือนกับปี 54 ที่แกนนำพรรคจะต้องถกกันจนถึงนาทีสุดท้ายกับการจัดทำบัญชีรายชื่อทั้ง 125 คน โดยจะไม่แจ้งให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องทราบ ยกเว้น รายชื่อผู้สมัครในลำดับต้นๆ อย่างลำดับที่ 1-10 ที่คาดว่าเพื่อไทยจะมีแถลงต่อสื่อให้ทราบล่วงหน้าหนึ่งวันก่อนยื่นต่อกกต.

ส่วนลำดับอื่นๆ จะไม่มีการเปิดเผย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความไม่พอใจอะไรขึ้น คือให้รู้พร้อมกันทีเดียวทั้งหมด ทั้งประชาชน-สื่อมวลชน-คนเพื่อไทย พร้อมกันในตอนเช้าวันที่ 23 ธ.ค.จะได้จบปัญหา

ที่สำคัญก็คือ ทุกรายชื่อ ทุกลำดับเลขที่ ตั้งแต่ลำดับที่ 1-125 จะต้องผ่านสายตาและความเห็นชอบจาก ทักษิณ ชินวัตรที่มีข่าวว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บินมาประเทศจีน โดยมีคนของเพื่อไทยบางคนบินไปหารือเรื่องการจัดส่งคนลงสมัครส.ส.ปาร์ติ้ลิสต์และระบบเขตทั่วประเทศ

รวมถึงสุมหัวหารือเรื่องสำคัญ หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งคนลงเลือกตั้งจะรับมืออย่างไร

สำหรับรายชื่อผู้สมัครส.ส.เพื่อไทยทั้งหมด หากไม่ให้ทักษิณ “เห็นชอบ-อนุมัติ”เสียก่อน ก็อย่าหวังเลยว่า จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะนำรายชื่อผู้สมัครส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ไปยื่นต่อกกต.ในวันที่ 23ธ.ค. 56 ถ้ายังมีการรับสมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ในวันดังกล่าว!

ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจนถึงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์ ยังเป็น ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข 1 ที่พรรคจะชูในช่วงการหาเสียงให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแบบพลิกผันเสียก่อน

โดยที่ผู้สมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นๆ ก็จะเป็นคนซึ่งมีบทบาทสำคัญในพรรคเพื่อไทย เกือบทั้งสิ้น อาทิ สมชาย วงศ์สวัสดิ์-จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ-ภูมิธรรม เวชยชัย -โภคิน พลกุล-เสนาะ เทียนทอง-สมพงษ์ อมรวิวัฒน์-จาตุรนต์ ฉายแสง-พงษ์เทพ เทพกาญจนา-พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์-นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี เป็นต้น

ขณะที่เครือข่ายตระกูลชินวัตรพบว่า ล่าสุดมีแนวโน้มที่ชัดเจนแล้วว่า เจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องจากรอบนี้ ผัวตัวเองคือ สมชาย ได้กลับมาเล่นการเมืองเต็มตัวแล้ว แต่ข่าวนี้ก็ยังต้องรอดูต่อไปว่าจะชัวร์หรือไม่ เพราะก็มีข่าวว่า สมชาย เองก็ดูเหมือนไม่ค่อยอยากลงแต่อยากทำงานอยู่ข้างหลัง แต่หากเจ๊แดงไม่ลงเลือกตั้งจริง ตัว สมชาย ก็คงต้องลงสมัครเพื่อว่าจะได้มีสิทธิ์ลุ้น นายกฯรอบสอง ถ้ากระแสต้าน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหลังเลือกตั้งยังไม่จบ

ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีคำยืนยันแน่ชัดว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ อดีตผบ.ตร.พี่ชาย คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร์จะมีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้สมัครปาร์ตี้ลิสต์ด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้เป็นอะไหล่การเมืองอีกคนหากเกิดอะไรขึ้นกับ ยิ่งลักษณ์

ก็ไม่รู้ว่าที่คนในเครือข่ายตระกูลชินวัตร-ดามาพงศ์-วงศ์สวัสดิ์จะถอยฉากออกไปในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเพราะต้องการลดกระแสการชุมนุมของประชาชนที่บอกจะให้ “ไล่ตระกูลชินวัตร”ออกนอกประเทศหรือไม่ เลยพยายามถอยออกไปตั้งหลักสักระยะก่อน เพื่อจะได้ไม่ทำให้มวลชนรู้สึกว่า ตระกูลชินวัตร -ดามาพงศ์-วงศ์สวัสดิ์ เล่นการเมืองกันทั้งตระกูลเพื่อสืบทอดอำนาจกันแบบรุ่นต่อรุ่น เลยถอยฉากกันไปก่อน

อย่างไรก็ตาม ในความคึกคักของเพื่อไทย ต่อการเตรียมการเลือกตั้ง ด้วยความเชื่อมั่นว่า จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอน รวมถึงไม่สนใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะส่งคนลงเลือกตั้งหรือไม่

ก็จะพบว่า ในส่วนของเพื่อไทยเอง มีคนในพรรค ใส่เกียร์ถอย ขอตั้งหลัก สักระยะก่อน เหตุเพราะอาจประเมินว่า ถึงต่อให้มีการเลือกตั้งแล้วเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งกลับมา ปัญหาการเมืองก็ยังไม่จบ เลยไม่อยากเปลืองตัว

ดูได้จากที่บางคนในเพื่อไทยเวลานี้ก็มีข่าวว่า อาจยังไม่ขอกลับมาเล่นการเมืองในการเลือกตั้งรอบนี้ อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคคุมโซนกรุงเทพฯของเพื่อไทย ที่แจ้งกับอดีตส.ส.กทม.เพื่อไทยที่เป็นคนสนิทว่า กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะไม่ลงเลือกตั้งทั้งระบบเขตและปาร์ตี้ลิสต์ โดยจะทำงานด้านงานบุญงานกุศลที่ชอบไปอีกสักระยะก่อน

อย่างไรก็ตาม ก็มีข่าวว่า แกนนำเพื่อไทยหลายคนก็พยายามโน้มน้าวขอให้คุณหญิงสุดารัตน์กลับมาเล่นการเมืองเต็มตัวอีกครั้งเช่นลงสมัครส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ แต่คุณหญิงสุดารัตน์ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ แต่ที่แน่ๆ ก็คือจะช่วยพรรคในช่วงการเลือกตั้งแน่นอน ส่วนการลงเลือกตั้งข่าวบอกว่ายังไม่ยืนยันแน่ชัด เพราะหากถูกแกนนำพรรคโดยเฉพาะทักษิณขอร้องให้กลับมากอบกู้พรรคในสนามกทม.ท้ายสุดโดนทักษิณกล่อมก็อาจเปลี่ยนใจได้

แต่ที่โบกมือลาไปก่อนแล้วก็คือมิ่งขวัญ แสงสุวรรณอดีตรมว.พาณิชย์และอดีตส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคพลังประชาชน-เพื่อไทย ที่ขอลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยและประกาศไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองสักระยะ ซึ่งเจ้าตัวยืนกรานว่าที่ลาออกจากสมาชิกพรรค ไม่ลงเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มีเหตุขัดแย้งอะไรกับทักษิณ ชินวัตรและเพื่อไทย ไม่ได้ไม่พอใจที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีในช่วงสองปีกว่าของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่เป็นเพราะต้องการเว้นวรรคการเมืองไปทำอย่างอื่น
มีข่าวด้วยว่า มีคนในเพื่อไทยที่อยู่ในกลุ่ม 111 ไทยรักไทย -109 พลังประชาชน บางคน ก็ขอตั้งหลักสักระยะก่อน จึงไม่ได้แจ้งความจำนงต่อพรรคว่าจะขอลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้

สิ่งที่เกิดขึ้นกับการที่คนเพื่อไทยบางคน ถอยฉากจากการเมือง-การเลือกตั้ง ในรอบนี้ ก็น่าจะเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นได้อย่างหนึ่งว่า คนในพรรคเพื่อไทยด้วยกันเอง ก็ยังมองว่า

การเลือกตั้งครั้งนี้ส่อเค้าไม่ราบรื่น ถึงผ่านการเลือกตั้งได้ หลังเลือกตั้งปัญหาทุกอย่างก็จะปะทุขึ้นมาอีกไม่จบไม่สิ้น