วานนี้ (27มี.ค.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณา กรณีศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ขออนุมัติใช้งบกลาง 2,039 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของศูนย์ ซึ่งกกต.ได้ขอให้ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. มาชี้แจง แต่ ร.ต.อ.เฉลิมได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ รอง ผอ.ศรส. มาเป็นผู้ชี้แจงแทน โดยมีหน้าที่ทหาร ตำรวจของ ศรส. ได้เตรียมเอกสารมาชี้แจงจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.อ.อดุลย์ ก็พยายามที่จะหลบผู้สื่อข่าวที่ดักรอสัมภาษณ์อยู่ ขึ้นไปยังห้องประชุม กกต. ทันที
หลังการประชุม นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมกกต.เห็นว่า เรื่องดังกล่าว มีรายละเอียดค่อนข้างมาก หลายกรณีเป็นเรื่องที่ข้อกฎหมายกำหนดให้ต้องขออนุมัติก่อนใช้งบ หรือบางเรื่อง สามารถใช้งบประมาณไปก่อนแล้วจึงค่อยขออนุมัติได้ ซึ่งในการประชุม ก็มีผู้แทนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบ จึงจะมีการเชิญผู้อำนวยสำนักงบประมาณมาชี้แจงถึงข้อกฎหมายในการเบิกจ่ายเงินต่อที่ประชุม กกต.อีกครั้ง ในวันอังคารที่ 1 เม.ย.
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม สตง.ไมได้มีข้อสังเกต หรือเสนอแนะอะไร เนื่องจากตามขั้นตอนแล้ว สตง. จะมีหน้าที่ตรวจสอบภายหลังมีการใช้เงินไปแล้ว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้อนุมัติต่ออายุการดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ให้กับพล.ต.อ. พงศ์พัศ พงศ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเรื่องว่า คณะรัฐมนตรี มีมติให้ต่ออายุการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้พล.ต.อ.พงศ์พัศ อีก 1 ปี หลังจากจะครบกำหนดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เนื่องจากเห็นว่า พล.ต.อ.พงศ์พัศ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างดียิ่ง คณะรัฐมนตรีจึงต่ออายุให้ดำรงตำแหน่งไปถึงวันที่ 30 เม.ย. 58
นายภุชงค์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุม ยังเห็นชอบกับระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ วึ่งจะมีการจัดซื้อรถหุ้มเกราะ จำนวน 4 คัน และเสื้อ
เกราะกันกระสุน จังหวัด ละ 5 ตัว ให้กับเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง จ.สงขลา ซึ่งจะมีการผลิตและส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่
ในพื้นที่ได้ ภายในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ก่อนนี้มีกระแสข่าวว่า สำนักงานกกต. จะมีการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ดังกล่าวให้กับกกต.ทั้ง 5 คน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกกต.ได้พยายามดำเนินการที่จะจัดซื้อยุทธภัณฑ์นี้ ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2551 แต่ไม่สำเร็จ เพิ่งจะสำเร็จในกกต.ชุดนี้ และเมื่อสอบถาม กกต. ทั้ง 5 คน ก็ได้ยืนยันกับทางสำนักงานว่า เมื่ออาสาเข้ามาทำหน้าที่ ก็ไม่มีความประสงค์ที่จะใช้ยุทธภัณฑ์เหล่านี้ แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะไม่ปกติ และเชื่อว่าความสุจริตจะคุ้มครอง
นายภุชงค์ ยังได้กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ว.ในโค้งสุดท้ายนี้ ว่า พบว่ามีการกระทำผิดในเรื่องของการซื้อขายเสียงน้อย แต่ที่พบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดมาก เป็นเรื่องของการติดป้ายหาเสียง ที่ผู้สมัครใช้ข้อความหาเสียงเกินขอบข่ายอำนาจหน้าที่ของการเป็น ส.ว. เช่น มีข้อความหาเสียงนโยบายที่ ส.ว.ไม่สามารถกระทำได้ จึงขอเตือนให้มีการปลดป้ายดังกล่าวออก และให้แจ้งต่อ กกต.จังหวัดทราบ ก่อนที่จะถูกร้องเรียนหรือเจ้าหน้าที่กกต.ได้พบเห็น ก็จะทำให้เกิดเป็นสำนวนคดีได้ นอกจากนี้ขอย้ำให้ผู้สมัครระมัดระวัง ในการหาเสียงอย่านำเรื่องของสถานบันพระมหากษัตริย์ มาหาเสียงด้วย
สำหรับในวันเลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค. นั้น อยากให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาไปใช้สิทธิโดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลทา 08.00-15.00 น. หากผู้ใดมีข้อสังสัยทั้งในเรื่องสถานที่ที่ตนมีสิทธิ ว่าอยู่ในเขตเลือกตั้งใด หรือ มีข้อขัดข้องเกี่ยวกับการใช้สิทธิสามารถตรวจสอบได้ที่ศูนย์อำนวยการประสานงานเลือกตั้งส.ว. หรือสายด่วน 1171 หรือ ที่เบอร์โทร 02-1419981 -2 และสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่ www.khonthai.com
ส่วนผู้ที่ต้องการคัดค้านการเลือกตั้งสามารถแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ได้ แต่ไม่ควรใช้วิธีการฉีกบัตร เพราะในกรณีดังกล่าว มีคำพิพากษาของศาลฎีกา เป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิด แม้การเลือกตั้งนั้นจะถูกฟ้องให้เป็นโมฆะก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังปิดการลงคะแนนแล้ว กกต.คาดว่าจะสามารถทราบผลการเลือกตั้ง ส.ว.อย่างไม่เป็นทางการได้ ในเวลา 20.00 น.
**แฉดีเอสไอฟันเบี้ยเลี้ยงวันละ3,333บาท
แหล่งข่าวระดับสูงจากกกต. เปิดเผยว่าประเด็นงบ ศรส. มีที่ประชุมได้ตั้งประเด็นพิจารณา 3 เรื่อง คือ 1. เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายหรือไม่ 2. เป็นการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าหรือไม่ 3. การทำงานของ ศรส. เกิดประสิทธิผลหรือไม่
โดยประเด็นแรก ที่พิจารณา คือการขอใช้งบกลางดังกล่าว เป็นการนำมาจ่ายคืนให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีการสำรองจ่ายไปก่อนแล้ว จึงถือเป็นการใช้ก่อนแล้วมาขอ ไม่ใช่ขอก่อนใช้ โดยสำนักงบประมาณเคยชี้แจงในครั้งแรกว่า งบกลางที่ขอ น่าจะเป็นการขอก่อนใช้ แต่ ผบ.ตร. กลับชี้แจงว่า เป็นเรื่องต่อเนื่อง ฉุกเฉิน ทำไม่ทัน จึงต้องใช้ไปก่อนแล้วมาขอ แต่ก็มีข้อเท็จจริงอีกส่วนหนึ่งที่พบว่าใน 10 หน่วยงานที่ของบกลางมา มีเพียงหน่วยงานเดียว ที่ขอก่อนใช้ คือ กรมการปกครอง ส่วนหน่วยงานอื่น ใช้ไปก่อนแล้วค่อยมาขอ
ประเด็นที่สอง การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าหรือไม่ มีข้อสังเกตุเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายของหลายหน่วยงานที่มีมาตรฐานแตกต่างกันสูง เช่น ดีเอสไอ ขอ 20 ล้าน ให้กับ จนท. 200 คน ทำงาน 30 วัน เฉลี่ย วันละ 3,333 บาท ต่อคน ต่อวัน ซึ่งสูงมาก ในขณะที่ตำรวจใช้ ประมาณ 700 บาท ต่อคน ต่อวัน
ส่วนประเด็นสุดท้าย ในเชิงประสิทธิผลการทำงาน ยังไม่สามารถตอบได้ว่า การตั้ง ศรส. สามารถทำให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบ หรือไม่ การแถลงข่าวของ ศรส. เป็นการทำให้บ้านเมืองสงบหรือเป็นการเรียกแขก กกต.จึงขอดูสถิติเหตุการณ์ไม่สงบ ในช่วง 22 ม.ค.- 22 มี.ค.ว่าเหตุการณ์รุนแรง เพิ่มขึ้นหรือลดลง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ในที่ประชุม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เสนอว่า อยากให้ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผอ. ศรส. มาชี้แจงด้วยตนเอง แต่เมื่อไม่มา นายสมชัย ก็พร้อมที่จะไปพบปะพูดคุยด้วยตนเองที่ ศรส. ที่จะมีการประชุมในวันจันทร์ ที่ 31 มี.ค. เวลา 10.00 น. โดยจะประสาน กับ ศรส. ว่าตกลงหรือไม่ ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีตอบรับแต่อย่างใด แต่จากเหตุผลดังกล่าว กกต.จึงยังไม่มีการอนุมัติให้ศรส.ใช้งบกลางดังกล่าว แต่จะรอฟังคำชี้แจงจากผู้แทนสำนักงบประมาณอีกครั้งในประชุมกกต.อังคารหน้า
--------------
หลังการประชุม นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมกกต.เห็นว่า เรื่องดังกล่าว มีรายละเอียดค่อนข้างมาก หลายกรณีเป็นเรื่องที่ข้อกฎหมายกำหนดให้ต้องขออนุมัติก่อนใช้งบ หรือบางเรื่อง สามารถใช้งบประมาณไปก่อนแล้วจึงค่อยขออนุมัติได้ ซึ่งในการประชุม ก็มีผู้แทนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบ จึงจะมีการเชิญผู้อำนวยสำนักงบประมาณมาชี้แจงถึงข้อกฎหมายในการเบิกจ่ายเงินต่อที่ประชุม กกต.อีกครั้ง ในวันอังคารที่ 1 เม.ย.
อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุม สตง.ไมได้มีข้อสังเกต หรือเสนอแนะอะไร เนื่องจากตามขั้นตอนแล้ว สตง. จะมีหน้าที่ตรวจสอบภายหลังมีการใช้เงินไปแล้ว
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้อนุมัติต่ออายุการดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ให้กับพล.ต.อ. พงศ์พัศ พงศ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอเรื่องว่า คณะรัฐมนตรี มีมติให้ต่ออายุการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้พล.ต.อ.พงศ์พัศ อีก 1 ปี หลังจากจะครบกำหนดในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เนื่องจากเห็นว่า พล.ต.อ.พงศ์พัศ ได้ปฏิบัติหน้าที่ในการเรื่องการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างดียิ่ง คณะรัฐมนตรีจึงต่ออายุให้ดำรงตำแหน่งไปถึงวันที่ 30 เม.ย. 58
นายภุชงค์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุม ยังเห็นชอบกับระเบียบ กกต.ว่าด้วยการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ วึ่งจะมีการจัดซื้อรถหุ้มเกราะ จำนวน 4 คัน และเสื้อ
เกราะกันกระสุน จังหวัด ละ 5 ตัว ให้กับเจ้าหน้าที่ กกต.ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึง จ.สงขลา ซึ่งจะมีการผลิตและส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่
ในพื้นที่ได้ ภายในเดือนมิ.ย.
อย่างไรก็ตาม ก่อนนี้มีกระแสข่าวว่า สำนักงานกกต. จะมีการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ดังกล่าวให้กับกกต.ทั้ง 5 คน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกกต.ได้พยายามดำเนินการที่จะจัดซื้อยุทธภัณฑ์นี้ ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมาตั้งแต่ปี 2551 แต่ไม่สำเร็จ เพิ่งจะสำเร็จในกกต.ชุดนี้ และเมื่อสอบถาม กกต. ทั้ง 5 คน ก็ได้ยืนยันกับทางสำนักงานว่า เมื่ออาสาเข้ามาทำหน้าที่ ก็ไม่มีความประสงค์ที่จะใช้ยุทธภัณฑ์เหล่านี้ แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะไม่ปกติ และเชื่อว่าความสุจริตจะคุ้มครอง
นายภุชงค์ ยังได้กล่าวถึงการเลือกตั้ง ส.ว.ในโค้งสุดท้ายนี้ ว่า พบว่ามีการกระทำผิดในเรื่องของการซื้อขายเสียงน้อย แต่ที่พบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นความผิดมาก เป็นเรื่องของการติดป้ายหาเสียง ที่ผู้สมัครใช้ข้อความหาเสียงเกินขอบข่ายอำนาจหน้าที่ของการเป็น ส.ว. เช่น มีข้อความหาเสียงนโยบายที่ ส.ว.ไม่สามารถกระทำได้ จึงขอเตือนให้มีการปลดป้ายดังกล่าวออก และให้แจ้งต่อ กกต.จังหวัดทราบ ก่อนที่จะถูกร้องเรียนหรือเจ้าหน้าที่กกต.ได้พบเห็น ก็จะทำให้เกิดเป็นสำนวนคดีได้ นอกจากนี้ขอย้ำให้ผู้สมัครระมัดระวัง ในการหาเสียงอย่านำเรื่องของสถานบันพระมหากษัตริย์ มาหาเสียงด้วย
สำหรับในวันเลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค. นั้น อยากให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกมาไปใช้สิทธิโดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่เวลทา 08.00-15.00 น. หากผู้ใดมีข้อสังสัยทั้งในเรื่องสถานที่ที่ตนมีสิทธิ ว่าอยู่ในเขตเลือกตั้งใด หรือ มีข้อขัดข้องเกี่ยวกับการใช้สิทธิสามารถตรวจสอบได้ที่ศูนย์อำนวยการประสานงานเลือกตั้งส.ว. หรือสายด่วน 1171 หรือ ที่เบอร์โทร 02-1419981 -2 และสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองที่ www.khonthai.com
ส่วนผู้ที่ต้องการคัดค้านการเลือกตั้งสามารถแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ได้ แต่ไม่ควรใช้วิธีการฉีกบัตร เพราะในกรณีดังกล่าว มีคำพิพากษาของศาลฎีกา เป็นบรรทัดฐานไว้แล้วว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิด แม้การเลือกตั้งนั้นจะถูกฟ้องให้เป็นโมฆะก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังปิดการลงคะแนนแล้ว กกต.คาดว่าจะสามารถทราบผลการเลือกตั้ง ส.ว.อย่างไม่เป็นทางการได้ ในเวลา 20.00 น.
**แฉดีเอสไอฟันเบี้ยเลี้ยงวันละ3,333บาท
แหล่งข่าวระดับสูงจากกกต. เปิดเผยว่าประเด็นงบ ศรส. มีที่ประชุมได้ตั้งประเด็นพิจารณา 3 เรื่อง คือ 1. เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายหรือไม่ 2. เป็นการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าหรือไม่ 3. การทำงานของ ศรส. เกิดประสิทธิผลหรือไม่
โดยประเด็นแรก ที่พิจารณา คือการขอใช้งบกลางดังกล่าว เป็นการนำมาจ่ายคืนให้หน่วยงานต่างๆ ที่มีการสำรองจ่ายไปก่อนแล้ว จึงถือเป็นการใช้ก่อนแล้วมาขอ ไม่ใช่ขอก่อนใช้ โดยสำนักงบประมาณเคยชี้แจงในครั้งแรกว่า งบกลางที่ขอ น่าจะเป็นการขอก่อนใช้ แต่ ผบ.ตร. กลับชี้แจงว่า เป็นเรื่องต่อเนื่อง ฉุกเฉิน ทำไม่ทัน จึงต้องใช้ไปก่อนแล้วมาขอ แต่ก็มีข้อเท็จจริงอีกส่วนหนึ่งที่พบว่าใน 10 หน่วยงานที่ของบกลางมา มีเพียงหน่วยงานเดียว ที่ขอก่อนใช้ คือ กรมการปกครอง ส่วนหน่วยงานอื่น ใช้ไปก่อนแล้วค่อยมาขอ
ประเด็นที่สอง การใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คุ้มค่าหรือไม่ มีข้อสังเกตุเกี่ยวกับ ค่าใช้จ่ายของหลายหน่วยงานที่มีมาตรฐานแตกต่างกันสูง เช่น ดีเอสไอ ขอ 20 ล้าน ให้กับ จนท. 200 คน ทำงาน 30 วัน เฉลี่ย วันละ 3,333 บาท ต่อคน ต่อวัน ซึ่งสูงมาก ในขณะที่ตำรวจใช้ ประมาณ 700 บาท ต่อคน ต่อวัน
ส่วนประเด็นสุดท้าย ในเชิงประสิทธิผลการทำงาน ยังไม่สามารถตอบได้ว่า การตั้ง ศรส. สามารถทำให้สถานการณ์บ้านเมืองสงบ หรือไม่ การแถลงข่าวของ ศรส. เป็นการทำให้บ้านเมืองสงบหรือเป็นการเรียกแขก กกต.จึงขอดูสถิติเหตุการณ์ไม่สงบ ในช่วง 22 ม.ค.- 22 มี.ค.ว่าเหตุการณ์รุนแรง เพิ่มขึ้นหรือลดลง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ในที่ประชุม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง เสนอว่า อยากให้ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะ ผอ. ศรส. มาชี้แจงด้วยตนเอง แต่เมื่อไม่มา นายสมชัย ก็พร้อมที่จะไปพบปะพูดคุยด้วยตนเองที่ ศรส. ที่จะมีการประชุมในวันจันทร์ ที่ 31 มี.ค. เวลา 10.00 น. โดยจะประสาน กับ ศรส. ว่าตกลงหรือไม่ ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ ก็ไม่ได้แสดงท่าทีตอบรับแต่อย่างใด แต่จากเหตุผลดังกล่าว กกต.จึงยังไม่มีการอนุมัติให้ศรส.ใช้งบกลางดังกล่าว แต่จะรอฟังคำชี้แจงจากผู้แทนสำนักงบประมาณอีกครั้งในประชุมกกต.อังคารหน้า
--------------