“ปู” ยกโขยงบุก กกต.จี้เดินหน้าเลือกตั้ง ไม่สนมวลชนต้าน พร้อมส่ง ตร.-ทหารช่วยดูแล

“ยิ่งลักษณ์” ยกคณะถก กกต.ยืนยันเดินหน้าเลือกตั้ง แม้ถูกท้วงติงอาจเกิดความวุ่นวาย แต่ยังดันทุรัง พร้อมส่งตำรวจ ทหาร ช่วยดูแลเต็มที่ ขณะที่ ผบ.ตร.ใบ้กินเจอถามถ้าผู้ชุมนุมกล้าทำผิดกฎหมายขวางเลือกตั้งจะทำอย่างไร ด้าน กกต.ปัดเสนอเลื่อนเลือกตั้ง แค่แสดงความห่วงใย ไม่อยากเห็นวันเลือกตั้งเป็นวันมหาโกลาหล เผยหากถูกขวางจนไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้งได้ก็จะเลื่อนวันรับสมัครออกไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น.วันนี้ (20 ธ.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ นายชัยเกษม นิติสิริ รักษาการ รมว.ยุติธรรม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.ท. คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. พล.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายพิชิต ชื่นบาน ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมี นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต.ให้การต้อนรับ เพื่อหารือถึงการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.พ.นี้

ภายหลังการหารือนานกว่าชั่วโมงเศษ กกต.ทั้ง 5 คนได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ประเด็นที่มีการพูดคุย 2 ฝ่ายเห็นตรงกันว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ โดยเป็นห่วงว่าในสถานการณ์ปัจจุบันจะเลือกตั้งอย่างไรให้บริสุทธิ์ ยุติธรรม ขณะที่นายกฯ ก็เป็นห่วงว่าการดำเนินการของ กกต.จะมีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ และรัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนดูแลในเรื่องของการรักษาความปลอดภัย การอำนวยความสะดวกให้ประชาชนมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

โดย กกต.ก็น้อมรับ และฝากข้อกังวลใจไปยังรัฐบาลว่า กกต.อยากเห็นกระบวนการเลือกตั้งเกิดขึ้นในทางประชาธิปไตย และนำไปสู่ความรอมชอมที่จะนำพาประเทศของเราเดินหน้าต่อไปได้จริงๆ โดยนายกรัฐมนตรีก็รับความกังวลใจของเราไปและรับว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางให้เกิดความรอมชอมและสมานฉันท์

นายธีรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า กกต.ไม่ได้พูดคุยถึงช่องทางกฎหมายที่ กกต.เคยระบุว่ามีหากจะเลื่อนเลือกตั้งออกไป เพราะสถานะของ กกต.ต้องเป็นกลาง หากนำเสนอข้อกฎหมายแล้วอาจก่อให้เกิดการถกเถียงกัน 2 ฝ่าย จนทำให้ กกต.ถูกดึงเข้าไปอยู่ในวังวนการเมือง จึงต้องสงวนท่าทีในเรื่องนี้ โดย กกต.บอกแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้การเมืองสมานฉันท์ วันเลือกตั้งไม่ใช่วันมหาโกลาหล และก่อความวุ่นวายตามมา

ด้าน นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ในการหารือ รมว.ยุติธรรม ได้สอบถามกรณีมีการนำเสนอข่าวในทำนองว่า กกต.จะเสนอเลื่อนเลือกตั้ง กกต.ก็ได้ยืนยันว่า คำแถลงของ กกต.เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา เราไม่ได้มีการเสนอข้อกฎหมายอะไรอย่างที่ปรากฏในสื่อมวลชน เพราะเราแนะนำข้อกฎหมายไมได้ กกต.มีหน้าที่เพียงจัดการเลืออกตั้งเท่านั้น ดังนั้นที่สื่อเสนอว่า กกต.มีช่องทางกฎหมายที่จะเลื่อนเลือกตั้งได้ไม่เป็นความจริง

ขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ณ วันนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็ต้องเดินหน้าเลือกตั้งต่อไป ซึ่งการมาของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ กกต.ไม่ได้เสนอตัวเป็นตัวกลางในการจัดเวทีให้ฝ่ายรัฐ และ กปปส.ได้พูดคุยกัน โดย กกต.ได้สะท้อนความห่วงใยในสถานการณ์ที่เราคาดว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากเห็นว่าสถานการณ์ขณะนี้ สำนักงาน กกต.จัดการเลือกตั้งมาหลายครั้ง นักการเมือง ก็เลือกตั้งกันมาหลายครั้ง ทั้ง 2 ฝ่ายมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ฝ่ายที่ไม่พร้อมที่สุดก็คือประชาชน

“เราเห็นว่าอารมณ์ของประชาชนนั้นไม่พร้อมกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม สะท้อนพฤติกรรมรูปแบบต่างๆ ดังนั้นฝ่ายต่างๆ ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องควรจะคำนึงถึงอารมณ์เหล่านี้ของประชาชนแล้วหาทางคลี่คลาย ซึ่งเราก็ได้ยกตัวอย่างว่าอาจจะปรากฏการณ์อะไรบ้างในการเลือกตั้ง และถามรัฐบาลว่าจะช่วย กกต.ได้อย่างไรท่านนายกฯก็บอกว่ารับรู้อารมณ์เหล่านี้ดี และจะทำให้เต็มที่ที่จะแก้ไข ขณะเดียวกันก็ได้ถามว่า หากคนที่คิดต่างสะท้อนการไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยการแสดงพฤติกรรมกล้ากระทำความผิด ในฐานะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เป็นฝ่ายรักษากฎหมายจะดำเนินการอย่างไร ท่านก็ไม่ได้มีคำตอบให้”

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการเลือกตั้งเกิดความรุนแรงขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นายสมชัย กล่าวว่า พูดยาก แต่ กกต.ได้สะท้อนให้เห็นถึสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเริ่มขึ้นในวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.นั้น มั่นใจว่าจากการเตรียมการของฝ่ายปฏิบัติมีความพร้อมในการที่จะรับสมัคร ซึ่งก็อาจจะมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล แต่ไม่ใช่ถึงขนาดต้องจัดชุดปราบจลาจล พร้อมแก๊สน้ำตา เข้าไปตรึงกำลังในสถานที่รับสมัคร และหากอาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ กกต.ประกาศให้เป็นที่รับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อถูกล้อมไม่สามารถสมัครได้ ก็จะมีการเปลี่ยน และหากที่สุดยังไม่สามารถเปิดรับสมัครได้ก็จะพิจารณาว่าจะสามารถประกาศย่น ขยายวันสมัครได้หรือไม่อย่างไรต่อไป

ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ กล่าวว่า ไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้ง กกต.เป็นห่วงว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ การเลือกตั้งอาจจะไม่สงบเรียบร้อย อยากให้มีการพูดคุยกันระหว่าง 2 ฝ่าย ตนก็บอกว่าคุยแล้วก็ไปแก้กฎหมายอะไรไม่ได้ เพราะมันบังคับอยู่ ซึ่ง กกต.ก็ไม่มีคำตอบ ทางรัฐบาลก็บอกว่า ทั้งทหารและตำรวจพร้อมช่วยดูแล แล้วแต่ กกต.ร้องขอ ว่าต้องการกำลังมากน้อยแค่ไหน

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการหารือระหว่าง กกต.กับคณะของนายกรัฐมนตรีนั้น ทาง กกต. ก็ได้แสดงความห่วงใยว่า นอกจากวันสมัครรับเลือกตั้งอาจจะมีการไปปิดล้อมสถานที่รับสมัครของกลุ่มมวลชนแล้ว ในวันเลือกตั้งถ้าฉีกบัตรเลือกตั้งจำนวนมากจะทำอย่างไร โดยมีการยกตัวอย่างว่า หากมีการฉีกบัตรเลือกตั้ง 5 พันใบ ตำรวจจะจับหรือไม่ ถ้าจับก็จะเกิดเป็นจลาจลทันที หรือถ้าไม่จับตอนบ่ายก็จะมีการฉีกเป็น 5 แสนใบ เพราะจะมีการเผยแพร่ระบาดกันในโซเชียลมีเดีย ตรงนี้ตำรวจเตรียมรับมืออย่างไร แล้วถ้าที่สุด กกต.ไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้สัก 50 เขต เกิดเหตุการณ์อย่างนี้จะแก้ไขอย่างไร ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือปลัดกระทรวงกลาโหมก็ไม่ได้ตอบอะไร แต่มีนายตำรวจคนหนึ่งที่ร่วมคณะนายกฯ มาด้วยกล่าวว่าคงต้องดูสถานการณ์ตอนนั้น ทำให้ กกต.ระบุว่า มันเป็นเหตุการณ์ที่รัฐบาลต้องคิดและหาทางรับมือให้ได้ก่อน ไม่ใช่ปล่อยให้สถานการณ์เกิดขึ้นแล้วค่อยมาหาทางออก

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการหารือ กกต.ก็ได้ก็ยืนยันว่าเมื่ออาสาเข้ามาแล้วก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และจะไม่ลาออกจากตำแหน่งตามที่มีกระแสเรียกร้องเพื่อเป็นหนทางหนึ่งให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป