วานนี้ (20ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรค ที่มี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุม ว่า ได้มีการแจ้งให้สมาชิกทราบถึงการประชุมใหญ่ สามัญประจำปี 2557 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 มี.ค.นี้ เวลา 14.00 น.-16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งจะมีการปรับโครงสร้างพรรค โดยจะเพิ่มกรรมการบริหารพรรคอีก 3 ตำแหน่ง โดยเฉพาะตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค จากเดิมที่มี 2 ตำแหน่ง ก็จะเพิ่มเป็น 3 ตำแหน่ง เพื่อที่จะดูแล และประสานภารกิจของพรรคให้ครอบคลุมทั้ง 5 ภาค เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการเป็นตัวแทนประชาชน โดยแจ้งสมาชิกให้นำเสนอชื่อบุคคลที่จะมาเป็นกรรมการบริหารพรรค ในส่วนที่จะทำหน้าที่เป็นรองเลขาธิการพรรค และจะจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ให้เป็นไปตามระเบียบของพรรคการเมือง
พร้อมกันนี้ พรรคได้แจ้งต่อสมาชิกเรื่องการเลือกตั้ง ส.ว.โดยพรรคขอให้สมาชิกวางตัวเป็นกลางโดยเคร่งครัด ปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะขณะนี้พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ.57 ยังมีผลอยู่ ซึ่งหากมีการกระทำความผิด พรรคจะมีมาตรการที่จะเอาผิดกับสมาชิกตามระเบียบของพรรค
นอกจากนี้ได้มีการหารือเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง โดยที่ประชุมได้มีการพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความซับซ้อน ขอให้สมาชิกติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด และย้ำถึงจุดยืนของพรรค เพื่อที่จะชี้แจงต่อประชาชนว่า จุดยืนของพรรคคือ รักษาระบอบรักษากติกา รักษาประชาธิปไตย และยึดแนวทางสันติวิธี ทั้งให้สมาชิกติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะตัดสินในวันนี้ ( 21 มี.ค.) ถ้าโมฆะ ก็ให้เตรียม เอกสารทุกอย่างให้พร้อม
"พรรคให้สมาชิกไปชี้แจงกับประชาชนทุกพื้นที่ว่า ขณะนี้พรรคถูกกลั่นแกล้ง โดยถูกกระทำมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบัน และไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ทางรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จะยึดมั่นในกติกาเราพร้อมที่จะดำเนินการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งต่อเนื่อง หรือการเลือกตั้งใหม่ และอยากให้ประชาชนทราบว่า การร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะก็ดี การขัดขวางการเลือกตั้งก็ดี ล้วนเป็นการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
กับพวกทั้งสิ้น"
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวกล่าวถึงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ ขู่ว่าอาจจะบอยคอตการเลือกตั้งครั้งที่สองหากเลือกตั้งโมฆะว่า พรรคประชาธิปัตย์มีอายุเก่าแก่ถึง 60 ปี แต่น่าจะเป็น 60 ปีที่สูญเปล่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะบอยคอตการเลือกตั้งเป็นครั้งที่สอง ทั้งนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นอย่างไรเราไม่ทราบ แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งสัญญาณจะบอยคอตเลือกตั้ง ตนมองว่า เป็นการแสดงออกลักษณะที่ไม่รักษากติกา ไม่รักษาระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ไม่แปลกใจที่จะมีการบอตคอตเลือกตั้งซ้ำสอง แต่น่าจะเป็นการยึดแนวทางที่สอดล้องกับกลุ่มนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และพวก
"ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ มีมติออกมาให้ชัดเจนเลย ว่า จะบอตคอตเลือกตั้ง ประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคที่อ้างว่าสนับสนุนระบบรัฐสภา นั้นไม่มีจริง และขอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหลาย ลาออกจากพรรค แล้วให้คนรุ่นใหม่ ที่รักระบอบประชาธิปไตยเข้ามาทำหน้าที่จะดีกว่า" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
พร้อมกันนี้ พรรคได้แจ้งต่อสมาชิกเรื่องการเลือกตั้ง ส.ว.โดยพรรคขอให้สมาชิกวางตัวเป็นกลางโดยเคร่งครัด ปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะขณะนี้พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 2 ก.พ.57 ยังมีผลอยู่ ซึ่งหากมีการกระทำความผิด พรรคจะมีมาตรการที่จะเอาผิดกับสมาชิกตามระเบียบของพรรค
นอกจากนี้ได้มีการหารือเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง โดยที่ประชุมได้มีการพูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความซับซ้อน ขอให้สมาชิกติดตามสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิด และย้ำถึงจุดยืนของพรรค เพื่อที่จะชี้แจงต่อประชาชนว่า จุดยืนของพรรคคือ รักษาระบอบรักษากติกา รักษาประชาธิปไตย และยึดแนวทางสันติวิธี ทั้งให้สมาชิกติดตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะตัดสินในวันนี้ ( 21 มี.ค.) ถ้าโมฆะ ก็ให้เตรียม เอกสารทุกอย่างให้พร้อม
"พรรคให้สมาชิกไปชี้แจงกับประชาชนทุกพื้นที่ว่า ขณะนี้พรรคถูกกลั่นแกล้ง โดยถูกกระทำมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบัน และไม่ว่าผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นอย่างไร ทางรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จะยึดมั่นในกติกาเราพร้อมที่จะดำเนินการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งต่อเนื่อง หรือการเลือกตั้งใหม่ และอยากให้ประชาชนทราบว่า การร้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะก็ดี การขัดขวางการเลือกตั้งก็ดี ล้วนเป็นการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
กับพวกทั้งสิ้น"
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวกล่าวถึงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ ขู่ว่าอาจจะบอยคอตการเลือกตั้งครั้งที่สองหากเลือกตั้งโมฆะว่า พรรคประชาธิปัตย์มีอายุเก่าแก่ถึง 60 ปี แต่น่าจะเป็น 60 ปีที่สูญเปล่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะบอยคอตการเลือกตั้งเป็นครั้งที่สอง ทั้งนี้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นอย่างไรเราไม่ทราบ แต่การที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่งสัญญาณจะบอยคอตเลือกตั้ง ตนมองว่า เป็นการแสดงออกลักษณะที่ไม่รักษากติกา ไม่รักษาระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ไม่แปลกใจที่จะมีการบอตคอตเลือกตั้งซ้ำสอง แต่น่าจะเป็นการยึดแนวทางที่สอดล้องกับกลุ่มนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. และพวก
"ขอให้พรรคประชาธิปัตย์ มีมติออกมาให้ชัดเจนเลย ว่า จะบอตคอตเลือกตั้ง ประชาชนจะได้เห็นว่าพรรคที่อ้างว่าสนับสนุนระบบรัฐสภา นั้นไม่มีจริง และขอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหลาย ลาออกจากพรรค แล้วให้คนรุ่นใหม่ ที่รักระบอบประชาธิปไตยเข้ามาทำหน้าที่จะดีกว่า" นายพร้อมพงศ์ กล่าว
