ประเทศไทย คือถิ่นที่อยู่ของคนไทย ทั้งที่เป็นไทย โดยมีเชื้อชาติไทย สัญชาติไทย และถือสัญชาติไทย แต่เชื้อชาติเป็นอื่น คนเหล่านี้ในทางกฎหมายถือว่าเป็นคนไทย และในฐานะพลเมืองของประเทศไทย ทุกคนจะต้องยอมรับและเคารพวัฒนธรรม ประเพณีและกฎหมายไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุด ผู้ใดล่วงละเมิดมีความผิดต้องโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต และในมาตรา 1 ของรัฐธรรมนูญทุกฉบับ รวมทั้งฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้บัญญัติไว้ว่า
ประเทศไทยเป็นอาณาจักรอันหนึ่งเดียวจะแบ่งแยกมิได้
แต่วันนี้ ได้มีคนไทยกลุ่มหนึ่งภายใต้ชื่อย่อของกลุ่มว่า นปช.ได้ประกาศจะแบ่งแยกดินแดนโดยพื้นที่ในภาคเหนือและภาคอีสานตั้งเป็นประเทศอิสระ ภายใต้ชื่อย่อว่า สปป.ล้านนา โดยมีการจัดประชุมและเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดนอย่างชัดเจน
ในทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.กอ.รมน.ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ และพร้อมกันนี้พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาค 3 ได้สั่งการให้มณฑลทหารบกเชียงใหม่ และมณฑลทหารบกพะเยาดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำการดังกล่าวในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ที่ระบุว่า ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ แบ่งอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำผิดฐานเป็นกบฏต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต และมาตรา 114 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้ที่จะเป็นกบฏแล้วกระทำการอันใด เป็นการช่วยปกปิดไว้ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี และจากการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ มีผลทำให้กลุ่ม สปป.ล้านนาตกเป็นผู้ต้องหาในคดีข้อหาแบ่งแยกดินแดนแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา
ส่วนคดีจะดำเนินไปเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับศักยภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีในแต่ละท้องที่เป็นประการสำคัญ
แต่เป็นที่น่าสังเกตจากฝ่ายคนเสื้อแดงซึ่งอยู่ในข่ายเป็นผู้กระทำผิดในคดีนี้ในระดับแกนนำบางคน ได้ออกมาแก้ตัวแก้ต่างให้แก่กลุ่มซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาแบบน้ำขุ่นๆ ว่ามิได้มีการพูดถึงการแบ่งแยกดินแดนในที่ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และแถมมีการแปลความคำว่า สปป.ล้านนาว่าหมายถึงสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา มิได้หมายถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนา ดังที่หลายๆ คนพูดถึงและเข้าใจกัน
แต่ถ้าพิจารณาจากคำกล่าวของหลายๆ คนในที่ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และจากข้อความในแผ่นป้ายประกาศในที่สาธารณะเห็นกันโดยทั่วไปในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และแม้กระทั่งในภาคกลางบางจังหวัด ผู้ที่ได้ยินได้ฟังและได้พบเห็นต่างเข้าใจตรงกันว่า คนกลุ่มนี้คิดแบ่งแยกดินแดนจริง และเหตุที่พวกเขาอ้างในการแบ่งแยกดินแดนก็คือ พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ความไม่เป็นธรรมที่คนกลุ่มนี้อ้างนั้นในกรณีใด และจากใคร?
ในฐานะคนสนใจปัญหาบ้านเมือง และในฐานะสื่อมวลชนคนเขียนคอลัมน์ ผู้เขียนใคร่ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำกล่าวของคนกลุ่มนี้ว่าได้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการบริหารงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนไม่มีเงินมาจ่ายค่าข้าวเปลือกชาวนา จนเป็นเหตุให้ชาวนาลุกขึ้นมาชุมนุมเรียกร้องให้จ่ายเงินให้ และที่แย่ไปกว่านี้ก็คือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ตกเป็นจำเลยทั้งในทางกฎหมาย และทางสังคมในข้อหาละเว้นการปฏิบัติในการป้องกันการทุจริตในโครงการนี้ และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ถึงขั้นให้มาชี้แจงข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ยอมมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่ได้ส่งทนายความขอเลื่อนออกไป และป.ป.ช.ได้อนุญาตให้เลื่อนออกไป 15 วัน และจะครบในวันที่ 14 มีนาคมนี้
อนึ่ง ในระหว่างที่ไม่ไปชี้แจง ป.ป.ช.ได้มีการต่อว่า ป.ป.ช.ว่า เร่งรัดให้เวลาน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับกรณีโครงการประกันราคาข้าวของ ปชป.
จากการขอเลื่อน ป.ป.ช.ก็ดี และจากกรณีที่ออกมาต่อว่า ป.ป.ช.ก็ดี บ่งบอกให้รู้ว่าคำว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมน่าจะมาจากคดีความของนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นหลัก
ดังนั้น การที่คนในรัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในลักษณะตอบโต้บุคคลหรือองค์กรที่ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้นำรัฐบาล รวมไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดนี้ คงจะมีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือได้น้อยมากว่าไม่รู้ไม่เห็น และไม่เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางอ้อม
ส่วนประเด็นว่า การประกาศแบ่งแยกดินแดนของคนกลุ่มนี้ จะเป็นเพียงเพื่อระบายอารมณ์ หรือแค่วาทกรรม หรือว่ามีเจตนาจะทำจริงๆ นั้น มองได้ทั้ง 3 ประเด็นด้วยการอนุมานในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
1. ถ้ามองว่าเป็นการระบายความแค้นเป็นการส่วนตัวของคนกลุ่มหนึ่งที่มีความจงรักภักดีต่อรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นตัวแทนอยู่ และที่สำคัญยิ่งกว่านี้เป็นการกระทำเพื่อตอบแทนผลประโยชน์ที่ได้รับจากรัฐบาลหรือผู้บงการรัฐบาล จะเป็นตัวเงินหรือยศตำแหน่ง จึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงออกในการตอบโต้ฝ่ายตรงกันข้าม ถ้าเป็นเช่นนี้อาจพูดได้ว่าแค่วาทกรรม
2. ถ้ามองให้ลึกลงไปกว่านี้คือ มองไปว่าควรแบ่งแยกดินแดนเพื่อเป็นอำนาจต่อรองในทางการเมืองในทำนองว่า ยึดครองพื้นที่ปกครองแล้วเจรจาต่อรองทางการเมือง เพื่อปกป้องผลประโยชน์หรือเพื่อแลกกับการไม่ต้องรับโทษ หรือทั้งสองอย่าง ถ้าเป็นเช่นนี้ การคิดแบ่งแยกดินแดนก็มีเจตนาจะทำจริงๆ
3. การแบ่งแยกดินแดนเป็นเพียงเทคนิคในการสร้างข่าวเพื่อกลบข่าว หรือเพื่อเบนความสนใจคือสร้างข่าวแบ่งแยกดินแดนขึ้นมาเพื่อกลบข่าวความล้มเหลวของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการรับจำนำข้าว
ทั้ง 3 ประการนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ประการใดประการหนึ่ง หรือทั้ง 3 ประการในเวลาเดียวกัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด การกระทำของคนกลุ่มนี้ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 113 และมาตรา 114 ค่อนข้างจะแน่นอน ถ้าดูจากหลักฐานที่ปรากฏผ่านทางการพูดในที่ชุมนุม และข้อความจากแผ่นป้ายประกาศ.
ประเทศไทยเป็นอาณาจักรอันหนึ่งเดียวจะแบ่งแยกมิได้
แต่วันนี้ ได้มีคนไทยกลุ่มหนึ่งภายใต้ชื่อย่อของกลุ่มว่า นปช.ได้ประกาศจะแบ่งแยกดินแดนโดยพื้นที่ในภาคเหนือและภาคอีสานตั้งเป็นประเทศอิสระ ภายใต้ชื่อย่อว่า สปป.ล้านนา โดยมีการจัดประชุมและเผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดนอย่างชัดเจน
ในทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะรอง ผอ.กอ.รมน.ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเฝ้าจับตาดูพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ และพร้อมกันนี้พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาค 3 ได้สั่งการให้มณฑลทหารบกเชียงใหม่ และมณฑลทหารบกพะเยาดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำการดังกล่าวในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ที่ระบุว่า ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวไม่ได้ แบ่งอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำผิดฐานเป็นกบฏต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต และมาตรา 114 ที่ระบุไว้ว่า ผู้ใดสะสมกำลังพลหรืออาวุธตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้ที่จะเป็นกบฏแล้วกระทำการอันใด เป็นการช่วยปกปิดไว้ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปีถึง 15 ปี และจากการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ มีผลทำให้กลุ่ม สปป.ล้านนาตกเป็นผู้ต้องหาในคดีข้อหาแบ่งแยกดินแดนแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา
ส่วนคดีจะดำเนินไปเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับศักยภาพในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าของคดีในแต่ละท้องที่เป็นประการสำคัญ
แต่เป็นที่น่าสังเกตจากฝ่ายคนเสื้อแดงซึ่งอยู่ในข่ายเป็นผู้กระทำผิดในคดีนี้ในระดับแกนนำบางคน ได้ออกมาแก้ตัวแก้ต่างให้แก่กลุ่มซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาแบบน้ำขุ่นๆ ว่ามิได้มีการพูดถึงการแบ่งแยกดินแดนในที่ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และแถมมีการแปลความคำว่า สปป.ล้านนาว่าหมายถึงสมัชชาปกป้องประชาธิปไตยล้านนา มิได้หมายถึงสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนา ดังที่หลายๆ คนพูดถึงและเข้าใจกัน
แต่ถ้าพิจารณาจากคำกล่าวของหลายๆ คนในที่ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง และจากข้อความในแผ่นป้ายประกาศในที่สาธารณะเห็นกันโดยทั่วไปในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน และแม้กระทั่งในภาคกลางบางจังหวัด ผู้ที่ได้ยินได้ฟังและได้พบเห็นต่างเข้าใจตรงกันว่า คนกลุ่มนี้คิดแบ่งแยกดินแดนจริง และเหตุที่พวกเขาอ้างในการแบ่งแยกดินแดนก็คือ พวกเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า ความไม่เป็นธรรมที่คนกลุ่มนี้อ้างนั้นในกรณีใด และจากใคร?
ในฐานะคนสนใจปัญหาบ้านเมือง และในฐานะสื่อมวลชนคนเขียนคอลัมน์ ผู้เขียนใคร่ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับคำกล่าวของคนกลุ่มนี้ว่าได้เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการบริหารงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนไม่มีเงินมาจ่ายค่าข้าวเปลือกชาวนา จนเป็นเหตุให้ชาวนาลุกขึ้นมาชุมนุมเรียกร้องให้จ่ายเงินให้ และที่แย่ไปกว่านี้ก็คือนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ตกเป็นจำเลยทั้งในทางกฎหมาย และทางสังคมในข้อหาละเว้นการปฏิบัติในการป้องกันการทุจริตในโครงการนี้ และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ถึงขั้นให้มาชี้แจงข้อกล่าวหาเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่านางสาวยิ่งลักษณ์ไม่ยอมมาชี้แจงด้วยตนเอง แต่ได้ส่งทนายความขอเลื่อนออกไป และป.ป.ช.ได้อนุญาตให้เลื่อนออกไป 15 วัน และจะครบในวันที่ 14 มีนาคมนี้
อนึ่ง ในระหว่างที่ไม่ไปชี้แจง ป.ป.ช.ได้มีการต่อว่า ป.ป.ช.ว่า เร่งรัดให้เวลาน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับกรณีโครงการประกันราคาข้าวของ ปชป.
จากการขอเลื่อน ป.ป.ช.ก็ดี และจากกรณีที่ออกมาต่อว่า ป.ป.ช.ก็ดี บ่งบอกให้รู้ว่าคำว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมน่าจะมาจากคดีความของนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นหลัก
ดังนั้น การที่คนในรัฐบาลออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในลักษณะตอบโต้บุคคลหรือองค์กรที่ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้นำรัฐบาล รวมไปถึงทุกคนที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดนี้ คงจะมีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือได้น้อยมากว่าไม่รู้ไม่เห็น และไม่เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทางอ้อม
ส่วนประเด็นว่า การประกาศแบ่งแยกดินแดนของคนกลุ่มนี้ จะเป็นเพียงเพื่อระบายอารมณ์ หรือแค่วาทกรรม หรือว่ามีเจตนาจะทำจริงๆ นั้น มองได้ทั้ง 3 ประเด็นด้วยการอนุมานในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
1. ถ้ามองว่าเป็นการระบายความแค้นเป็นการส่วนตัวของคนกลุ่มหนึ่งที่มีความจงรักภักดีต่อรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นตัวแทนอยู่ และที่สำคัญยิ่งกว่านี้เป็นการกระทำเพื่อตอบแทนผลประโยชน์ที่ได้รับจากรัฐบาลหรือผู้บงการรัฐบาล จะเป็นตัวเงินหรือยศตำแหน่ง จึงจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงออกในการตอบโต้ฝ่ายตรงกันข้าม ถ้าเป็นเช่นนี้อาจพูดได้ว่าแค่วาทกรรม
2. ถ้ามองให้ลึกลงไปกว่านี้คือ มองไปว่าควรแบ่งแยกดินแดนเพื่อเป็นอำนาจต่อรองในทางการเมืองในทำนองว่า ยึดครองพื้นที่ปกครองแล้วเจรจาต่อรองทางการเมือง เพื่อปกป้องผลประโยชน์หรือเพื่อแลกกับการไม่ต้องรับโทษ หรือทั้งสองอย่าง ถ้าเป็นเช่นนี้ การคิดแบ่งแยกดินแดนก็มีเจตนาจะทำจริงๆ
3. การแบ่งแยกดินแดนเป็นเพียงเทคนิคในการสร้างข่าวเพื่อกลบข่าว หรือเพื่อเบนความสนใจคือสร้างข่าวแบ่งแยกดินแดนขึ้นมาเพื่อกลบข่าวความล้มเหลวของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการรับจำนำข้าว
ทั้ง 3 ประการนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ประการใดประการหนึ่ง หรือทั้ง 3 ประการในเวลาเดียวกัน
แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด การกระทำของคนกลุ่มนี้ก็เข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 113 และมาตรา 114 ค่อนข้างจะแน่นอน ถ้าดูจากหลักฐานที่ปรากฏผ่านทางการพูดในที่ชุมนุม และข้อความจากแผ่นป้ายประกาศ.