“สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จัดทำผลสำรวจเรื่อง “มรสุมการเมือง”ที่มีต่อ “นายกฯยิ่งลักษณ์”จากการที่นายกฯยิ่งลักษณ์ โดนมรสุมทางการเมืองจากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน คดีเลือกตั้ง 2 ก.พ. คดีนายถวิล เปลี่ยนศรี คดีจำนำข้าว การที่ฝ่ายค้านยื่นฟ้องนายกฯปฏิบัติหน้าที่มิชอบ รวมถึงการชุมนุมเรียกร้องให้นายกฯ ลาออก เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งสอบถามความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,318 คน ระหว่างวันที่ 12-15 มี.ค.57 สรุปผลได้ ดังนี้
เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไร? กรณี “นายกฯ ยิ่งลักษณ์”โดนมรสุมการเมืองต่อไปนี้ โดยในส่วนกรณี ม็อบกปปส. ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อันดับ 1 คิดว่าในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น 40.99 % อันดับ 2 คิดว่าควรรับฟังข้อเรียกร้องจากประชาชน และนำมาแก้ปัญหาให้ตรงจุด 35.44% และอันดับ 3 คิดว่ารู้สึกเห็นใจ ที่ถูกกดดันและโดนม๊อบขับไล่ 23.57 %
ส่วนกรณี คดีจำนำข้าว อันดับ 1 เห็นว่า เป็นคดีที่มีการทุจริตอย่างชัดเจน การตัดสินของศาลอาจกระทบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 38.12% อันดับ 2 เห็นว่ากระทบต่อคะแนนนิยมในตัวนายกฯ เนื่องจากชาวนาเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ 33.15% และ อันดับ 3 เห็นว่านายกฯ และ รมต.พาณิชย์ จะต้องชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ 28.73%
ส่วนกรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน อันดับ 1 ระบุว่า ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและการทำงานของรัฐบาล สร้างหนี้ให้กับประเทศ 50.20% อันดับ 2 ระบุว่าการลงทุนหยุดชะงัก ประเทศต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนต้องถอนตัวออกไป 26.46% และอันดับ 3 ระบุว่า ทำให้ไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ได้ นายกฯต้องตอบคำถามมากขึ้น 23.34%
ส่วนกรณี คดี ถวิล เปลี่ยนศรี อันดับ 1 มองว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ เป็นเกมการเมือง 55.93% อันดับ 2 มองว่าเป็นอีกหนึ่งคดีที่ทำให้นายกฯต้องถูกตรวจสอบการทำงาน 25.43% และ อันดับ 3 มองว่า ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวนายกฯลดลงและกระทบต่อความน่าเชื่อถือ 18.64%
ส่วนกรณีคดีเลือกตั้ง 2 ก.พ.อันดับ 1 เห็นว่า เป็นการประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งที่ผิดพลาด ต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก 52.60% อันดับ 2 เห็นว่า ส่งผลต่อเสถียรภาพ ความมั่นคงของรัฐบาลและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี 26.30% และอันดับ 3 เห็นว่า หากต้องมีการเลือกตั้งใหม่ นายกฯอาจไม่ได้คะแนนนิยมเหมือนที่ผ่านมา 21.10%
ส่วนกรณีคดีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.อันดับ 1 ระบุว่า เป็นเรื่องที่ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล 43.06% อันดับ 2 ระบุว่ากระทบต่อความน่าเชื่อถือและความศรัทธาที่มีในตัวนายกฯ 29.95% และอันดับ 3 ระบุว่าทำให้การทำงานหยุดชะงัก ไม่ราบรื่น เนื่องจากมีคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาหลายคดี 26.99%
ส่วนกรณี คดีโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน อันดับ 1 มองว่า เป็นโครงการใหญ่ที่ประสบปัญหาอย่างมาก ทำให้โครงการอื่นๆ ต้องถูกจับตามองไปด้วย 40.94% อันดับ 2 มองว่าทำให้นายกฯถูกตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง 38.60% และอันดับ 3 มองว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้นายกฯต้องบริหารงานอย่างรอบคอบ รัดกุมมากขึ้น 20.46%
ส่วนกรณีคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่จนเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 อันดับ 1 เห็นว่าในฐานะที่เป็นนายกฯจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น39.00% อันดับ 2 เห็นว่าเป็นคดีสำคัญที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการทำงานของนายกฯ 38.50% และอันดับ 3 เห็นว่ารู้สึกเห็นใจ เนื่องจากน้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ 22.50%
ขณะที่เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนเป็น “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จะทำอย่างไร ? จากกรณี “มรสุมทางการเมือง”ที่เกิดขึ้นขณะนี้ อันดับ 1 ระบุว่าออกมาชี้แจงข้อสงสัยให้สังคมได้รับรู้ พูดคุย ทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น 67.02% อันดับ 2 ระบุว่า เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อระดมความคิดเห็น และเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 17.41% อันดับ 3 ระบุว่า ตั้งใจทำหน้าที่ของนายกฯให้ดีที่สุด 9.24% และ อันดับ 4 ระบุว่า เข้มแข็งอดทน ยิ้มรับกับปัญหา มีสติ รอบคอบ 6.33%
ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนอยากบอก “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จากกรณี “มรสุมทางการเมือง”ที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือ อันดับ 1 คิดว่า ออกมาแสดงถึงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้นำของประเทศ 53.90% อันดับ 2 คิดว่าควรเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว เนื่องจากกระทบต่อความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของนายกฯ 25.65% อันดับ 3 คิดว่าไม่แทรกแซงการทำงานในการพิจารณาคดีต่างๆ ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ 11.36% และอันดับ 4 คิดว่าตั้งใจทำงานต่อไป อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ 9.09%
เมื่อถามว่าประชาชนคิดอย่างไร? กรณี “นายกฯ ยิ่งลักษณ์”โดนมรสุมการเมืองต่อไปนี้ โดยในส่วนกรณี ม็อบกปปส. ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อันดับ 1 คิดว่าในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น 40.99 % อันดับ 2 คิดว่าควรรับฟังข้อเรียกร้องจากประชาชน และนำมาแก้ปัญหาให้ตรงจุด 35.44% และอันดับ 3 คิดว่ารู้สึกเห็นใจ ที่ถูกกดดันและโดนม๊อบขับไล่ 23.57 %
ส่วนกรณี คดีจำนำข้าว อันดับ 1 เห็นว่า เป็นคดีที่มีการทุจริตอย่างชัดเจน การตัดสินของศาลอาจกระทบต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 38.12% อันดับ 2 เห็นว่ากระทบต่อคะแนนนิยมในตัวนายกฯ เนื่องจากชาวนาเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ 33.15% และ อันดับ 3 เห็นว่านายกฯ และ รมต.พาณิชย์ จะต้องชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ ออกมาแสดงความรับผิดชอบ 28.73%
ส่วนกรณี พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน อันดับ 1 ระบุว่า ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและการทำงานของรัฐบาล สร้างหนี้ให้กับประเทศ 50.20% อันดับ 2 ระบุว่าการลงทุนหยุดชะงัก ประเทศต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนต้องถอนตัวออกไป 26.46% และอันดับ 3 ระบุว่า ทำให้ไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ได้ นายกฯต้องตอบคำถามมากขึ้น 23.34%
ส่วนกรณี คดี ถวิล เปลี่ยนศรี อันดับ 1 มองว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ เป็นเกมการเมือง 55.93% อันดับ 2 มองว่าเป็นอีกหนึ่งคดีที่ทำให้นายกฯต้องถูกตรวจสอบการทำงาน 25.43% และ อันดับ 3 มองว่า ทำให้ความเชื่อมั่นในตัวนายกฯลดลงและกระทบต่อความน่าเชื่อถือ 18.64%
ส่วนกรณีคดีเลือกตั้ง 2 ก.พ.อันดับ 1 เห็นว่า เป็นการประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งที่ผิดพลาด ต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก 52.60% อันดับ 2 เห็นว่า ส่งผลต่อเสถียรภาพ ความมั่นคงของรัฐบาลและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี 26.30% และอันดับ 3 เห็นว่า หากต้องมีการเลือกตั้งใหม่ นายกฯอาจไม่ได้คะแนนนิยมเหมือนที่ผ่านมา 21.10%
ส่วนกรณีคดีแก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.อันดับ 1 ระบุว่า เป็นเรื่องที่ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบ ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล 43.06% อันดับ 2 ระบุว่ากระทบต่อความน่าเชื่อถือและความศรัทธาที่มีในตัวนายกฯ 29.95% และอันดับ 3 ระบุว่าทำให้การทำงานหยุดชะงัก ไม่ราบรื่น เนื่องจากมีคดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาหลายคดี 26.99%
ส่วนกรณี คดีโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน อันดับ 1 มองว่า เป็นโครงการใหญ่ที่ประสบปัญหาอย่างมาก ทำให้โครงการอื่นๆ ต้องถูกจับตามองไปด้วย 40.94% อันดับ 2 มองว่าทำให้นายกฯถูกตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง 38.60% และอันดับ 3 มองว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้นายกฯต้องบริหารงานอย่างรอบคอบ รัดกุมมากขึ้น 20.46%
ส่วนกรณีคดีละเว้นปฏิบัติหน้าที่จนเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 อันดับ 1 เห็นว่าในฐานะที่เป็นนายกฯจะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น39.00% อันดับ 2 เห็นว่าเป็นคดีสำคัญที่ฝ่ายค้านหยิบยกขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการทำงานของนายกฯ 38.50% และอันดับ 3 เห็นว่ารู้สึกเห็นใจ เนื่องจากน้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้ 22.50%
ขณะที่เมื่อถามว่า ถ้าประชาชนเป็น “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จะทำอย่างไร ? จากกรณี “มรสุมทางการเมือง”ที่เกิดขึ้นขณะนี้ อันดับ 1 ระบุว่าออกมาชี้แจงข้อสงสัยให้สังคมได้รับรู้ พูดคุย ทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้น 67.02% อันดับ 2 ระบุว่า เรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อระดมความคิดเห็น และเร่งแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 17.41% อันดับ 3 ระบุว่า ตั้งใจทำหน้าที่ของนายกฯให้ดีที่สุด 9.24% และ อันดับ 4 ระบุว่า เข้มแข็งอดทน ยิ้มรับกับปัญหา มีสติ รอบคอบ 6.33%
ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนอยากบอก “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” จากกรณี “มรสุมทางการเมือง”ที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือ อันดับ 1 คิดว่า ออกมาแสดงถึงความรับผิดชอบในฐานะที่เป็นผู้นำของประเทศ 53.90% อันดับ 2 คิดว่าควรเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว เนื่องจากกระทบต่อความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของนายกฯ 25.65% อันดับ 3 คิดว่าไม่แทรกแซงการทำงานในการพิจารณาคดีต่างๆ ไม่ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ 11.36% และอันดับ 4 คิดว่าตั้งใจทำงานต่อไป อยากให้คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ 9.09%