xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

สปป.อีสานล้านนา ใครคือคนผิด?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลายเป็นประเด็น TALK OF THE TOWN กันทั้งประเทศเลยทีเดียวสำหรับความเคลื่อนไหวในการแบ่งแยกราชอาณาจักรไทยแล้วจัดตั้ง “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนอีสานล้านนา” (สปป.อีสานล้านนา) ของกลุ่มคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย

เพราะเที่ยวนี้ไม่ได้ได้พูดกันลอยๆ หากแต่มีหลักฐานปรากฏให้เห็นชัดแจ้งครบตามองค์ประกอบของกฎหมายกันเลยทีเดียว

ถามว่าคนเสื้อแดงคิดจริง ทำจริง หรือไม่

ก็ต้องตอบว่า จริง แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ก็มั่นใจว่า มีจำนวนและเปอร์เซ็นต์ที่ไม่น้อย

มิใช่อย่างที่แกนนำรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดงกล่าวอ้างว่า เป็นแค่การระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจเนื่องจากไม่ได้รับความยุติธรรม หรือที่สื่อสีแดงย่านประชาชื่นพยายามช่วยด้วยการมองว่าเป็นเรื่องฮาๆ เรื่องขำๆ หาสาระอะไรไม่ได้

สิ่งที่จะต้องขบคิดต่อไปมีอยู่ว่า อะไรเป็นแรงขับให้คนเสื้อแดงคิดแยกประเทศ นักโทษชายหนีคดีทำคุณงามความดีให้กับบ้านนี้เมืองนี้มากกว่าบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าที่สร้างบ้านแปงเมืองด้วยหยาดเหงื่อและชีวิตจนกลายมาเป็นราชอาณาจักรไทยดังที่เห็นและเป็นอยู่ในปัจจุบันเช่นนั้นหรือ ก็ไม่ใช่

มิหนำซ้ำผู้วางแผนจะเป็นประมุขแห่งรัฐไทยใหม่ยังกอบโกยผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและวงศ์วานว่านเครือจำนวนมากมายมหาศาลอีกต่างหาก ดังนั้น ปัญหาของเรื่องนี้ จึงอยู่ที่การโฆษณาชวนเชื่อ อยู่ที่การล้างสมองที่แกนนำคนเสื้อแดงพูดกรอกใส่หูชาวบ้านซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนคิดว่าข้อมูลอันโกหก เหล่านั้นเป็นเรื่องจริง

แล้วใครล่ะที่ผิด

ก็ต้องบอกว่ารัฐบาลและบรรดาผู้มีอำนาจในบ้านเมืองหลังการรัฐประหาร 2549 เป็นต้นมามีส่วนสำคัญที่ทำให้เป็นเช่นนั้น เนื่องเพราะปล่อยให้กระบวนทัศน์เหล่านั้นก่อตัวจนกลายเป็นองค์กรทางการเมืองที่มีความคิดที่เลยเถิดถึงขั้นแบ่งแยกประเทศ

ถ้ามีการทำความเข้าใจ ถ้ามีการกำราบ ถ้ามีการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น

กระนั้นก็ดี สุดท้ายแล้วเชื่อว่า แรงปรารถนาของนักโทษชายหนีคดีจะไม่มีวันที่เป็นจริง เพราะคนส่วนใหญ่ของบ้านนี้เมืองนี้ “รักพระเจ้าอยู่หัว” มากกว่า “รักเจ้ามูลเมือง” แม้กระทั่งคนเสื้อแดงก็ตาม

ไปที่เรื่องอื่นๆ กันบ้าง เริ่มจากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ ศ.ศ.ป. ที่ได้จัดงาน “กรีน คราฟท์ เฟสท์ (Green Craft Fest)” หรืองานหัตถกรรมรัก(ษ์)โลกขึ้น โดยเปิดสวนพืชหัตถกรรมอินทรีย์ ขนาด 8 ไร่ ภายในศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จัดเป็นนิทรรศการเชิงสร้างสรรค์ ให้เยาวชนได้เรียนรู้และลงมือทำงานหัตถกรรมทำมือที่สร้างสรรค์จากภูมิปัญญาไทย พร้อมกันนี้ยังปลูกฝังแนวคิดการเลือกใช้วัตถุดิบ และขั้นตอนการผลิตงานหัตถกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้เยาวชนที่เข้าร่วมงานได้รับความรู้กลับบ้านไปอีกด้วย

ตามต่อด้วยนางจรัสศรี ทิวัตถ์มั่นเจริญ ประธานชมรมจิตอาสา ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย พร้อมสมาชิกชมรม จัดกิจกรรมส่งเสริมการศึกษา พัฒนาองค์ความรู้ให้ผู้พิการ ด้วยการมอบเงินและสื่อการเรียนการสอน อาทิ หนังสือนิตยสาร, ซีดี และปฏิทินอีกจำนวนกว่า20,000 ชุด โดยมีคุณหญิงอุไรวรรณ ศิรินุพงศ์ ประธานมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นตัวแทนรับมอบ เมื่อเร็วๆนี้

และปิดท้ายกับ ทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและภาคพื้นอินโดจีน บริษัทเอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น(ประเทศไทย) จำกัด พร้อมด้วย มร.จอห์น ลี ผู้บริหาร บริษัท ทรานซิชั่นส์ อ็อพติคัล ร่วมเปิดตัว เลนส์แว่นตามเปลี่ยนสี ครีซอล ทรานซิชั่นส์ ซิกเนเจอร์ ซึ่งออกมาให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบันที่ไม่หยุดนิ่ง ใช้ชีวิตทั้งในร่มและกลางแจ้งโดยมี 3 เซเลบริตี้ชื่อดัง วรรธนา วีรยวรรธน ชาตโยดม หิรัณยัษฐิติและณภัทร โชคจินดาชัย ร่วมพูดคุยและแชร์ประสบการณ์ ณ โรงแรมดุสิตธานี
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com

คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน

“ผมทำงานให้พี่สืบฯ ”

ป่าเขาลำเนาไพร แมกไม้และสายธาร มรดกตกทอดที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ไว้ให้กับมวลมนุษยชาติ และสรรพสิ่งมีชีวิตต่างก็ต้องอาศัย ใช้ประโยชน์

เมื่อธรรมชาติได้มอบสิ่งล้ำค่าไว้ แต่สายตาของคนจำนวนมากกลับมองไม่เห็นความสำคัญเชิง'อนุรักษ์' คนบางกลุ่มที่ได้ชื่อว่า 'นักทำลาย' กลับใช้อำนาจคนในพื้นที่ท้องถิ่น จับจองมรดกอันล้ำค่านั้นเพื่อให้ได้ซึ่งประโยชน์ เฉพาะกลุ่มตน แต่ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงจำต้องทนถูกเอารัดเอาเปรียบแย่งชิงสมบัติส่วนรวมนั้น ทนมองเห็นความงดงามของทรัพยากรธรรมชาติที่เคยมีแต่เดิมค่อยๆหายไปทีละส่วน

แล้วถูกแทนที่ด้วยคำว่า'พัฒนา'

ด้วยความรัก ความหวงแหนจึงเกิดขึ้นเมื่อป่าถูกแย่งชิง ถือกำเนิดบุคคลที่พร้อมปกป้องในคราวเดียวกัน ในอดีต เรารู้จักบุคคลหนึ่ง ที่เสียสละประโยชน์ส่วนตนและทำงานพิทักษ์ป่า อย่าง สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์และนักวิชาการทรัพยากรธรรมชาติชาวไทย หลังจากประกาศเจตนารมณ์พิทักษ์ผืนป่า ด้วยกระสุน 1นัดคร่าชีวิตตนเอง จากวันนั้นผ่านมาจนถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 23 ปีแล้ว

แต่อุดมการณ์ของเขาถูกสานต่อจากผู้ร่วมงานในมูลนิธิสืบฯ ภายใต้การนำทีมของ ศศิน เฉลิมลาภ ในฐานะนักอนุรักษ์ในมูลนิธินาคะเสถียรตลอดสิบปีที่ผ่านมา

หนังสือผมทำงานให้พี่สืบ บันทึกการทำงานอนุรักษ์ป่าของ ศศิน เฉลิมลาภ ในมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เป็นการเล่าเรื่องการทำงานของศศิน ที่ฟันฝ่าอุปสรรคเสี่ยงอันตรายต่างๆนาๆ เพื่อทำหน้าที่ปกป้องผืนป่าซึ่งอาจจะทำให้ใครหลายคนถึงกับอึ้ง เมื่อได้ทราบว่าที่ผ่านมาเราสูญเสียผู้พิทักษ์ป่าไปมากแค่ไหน ในขณะเดียวกันก็จะยิ้มยินดีเมื่อได้รู้ว่าหลายพื้นที่ ศศิน ในนามมูลนิธิสืบฯ ใช้ความวิริยะจนคนกับป่าได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสมดุล เช่น ดอยแม่ออกฮู, ป่าไผ่ ไร่ข้าวในป่าตะวันตก ความไม่ลงตัวของกะเหรี่ยงและกรมอุทยานแห่งชาติฯ, ครบ 15 ปีที่คุณสืบตาย รัฐบาลลอยแพลูกจ้างพิทักษ์ป่า, เก็บป่าที่แม่วงก์ แม่ยม, การอนุรักษ์จะยังอยู่อย่างไรในอนาคต และปรากฏการณ์แม่วงก์ที่หอศิลป์ กทม.เป็นต้น

หากใครอยากรู้ว่างานอนุรักษ์ธรรมชาติให้คุณค่าอะไร ทำไมจึงมีกลุ่มคนที่ยอมเหนื่อยแทบขาดใจ เสียสละไม่หวั่นอันตรายใดๆเพื่อปกป้อง รักษาไว้เช่นนี้

หนังสือเล่มนี้คือคำตอบสำหรับคุณ.
แสงเพ็ง



กำลังโหลดความคิดเห็น