**ตะบี้ตะบันใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาต่อเนื่องยาวนาน แต่ไม่มีปัญญาแผ่อานุภาพกำจัด กปปส. เลย มีเสียงแว่วจากฟากฝั่งรัฐบาลทรราชย์ว่า อาจจะฉวยจังหวะที่กฎหมายติดดาบฉบับนี้หมดอายุขัยในเดือนมีนาคม
ชิงยกเลิกมันไปเสียเลย แล้วกลับไปกินข้าวหม้อเก่าอย่าง พ.ร.บ.ความมั่นคง จะดีกว่า
เรื่องของเรื่องเพราะพันธะสารพัดที่ศาลแพ่งบรรจงจัดให้ง่อยเปลี้ยเสียขา 9 ข้อ มันล็อกคอศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ใหญ่ ให้ขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้เลย มีก็เหมือนไม่มี
"ไม่มีเสียยังดีกว่า ออกข้อจำกัดเยอะขนาดนี้ ไม่สั่งให้ยกเลิกไปเลยล่ะ เดี๋ยวไฝว้แม่ม !! "เสียงเฉลิม นินทากับคนใกล้ชิด
หากดันทุรังประกาศใช้ พ.ร.ก.แบบเขียนเสือให้วัวกลัว เป็นกระดาษเปื้อนหมึกไปวันต่อวัน ก็ไม่ต่างอะไรจากหายใจทิ้งฆ่าเวลา สู้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงที่แสนยานุภาพน้อยกว่า แต่ไม่โดนอาญาสิทธิ์จากศาล อย่างไรก็คล่องตัวกว่า
ประจวบเหมาะกับการยุบเวที เพื่อรวมกันของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ให้เหลือเพียงเวทีสวมลุมพินีที่เดียวก็สามารถหยิบยกเอามาเป็นข้ออ้างได้ว่า สถานการณ์เบาบางลงแล้ว จึงไม่มีความหมายที่จะขยายระยะเวลาออกไป
เช่นเดียวกับเหตุผลด้านผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ที่แน่นอนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยิ่งยื้ดเยื้อยาวนานออกไป รังแต่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศเพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ซึ่งที่ผ่านมานักธุรกิจหลายรายเอง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ออกมาบี้รัฐบาลทรราชย์ให้ยกเลิกกฎหมายพิเศษเสีย เพราะเป็นการทำร้ายเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง
**แต่ที่เป็นประเด็นสำคัญเลยคือ มีสัญญาณตรงกับที่บรรดาลิ่วล้อ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ส่งซิกผ่านออกมา คือชักเริ่มไม่สบายใจกับการที่กองกำลังทหาร ออกมาป้วนเปี้ยนเยอะเกินไปในกทม. เพราะมีช่องออกมาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันทำให้ใครหลายคนเสียวสันหลังวาบว่า วันดีคืนดี กองกำลังทั้ง 176 จุด จะเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ “แอ่น แอน แอ๊น” ที่มาในรูปแบบลับ ลวง พราง ภาคสอง
**ตามคิวระแวง “บิ๊กตู่”ที่อยู่ดีๆ ประสาน ศรส. ขอเพิ่มกำลังทหารตามจุดต่างๆ ในกทม. จนอาจเป็นกลายการกระชับอำนาจแบบเงียบๆ เพื่อทำการใหญ่ โดยเฉพาะช่วงหลังมานี้ กลิ่นชักเริ่มไม่ดี
เมื่อมโนหลอนออกมาในเส้นประสาทของขี้ข้าลิ่วล้อ วิธีผลักดันทหารกลับกรมกองแบบชอบธรรมก็คือ การยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือปล่อยให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ้นสภาพไปแบบอัตโนมัติ ในวันที่ 22 มีนาคม ซึ่งครบกำหนดตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเอาไว้ โดยไม่คิดต่ออายุให้
ตามอาการผวารถถังที่ยังคงภาพหลอกหลอนอยู่ทุกวี่วัน ไอ้ที่ท้าเหยงๆ แหกปากกันอยู่ว่าไม่กลัว ก็แค่พวกปากกล้าขาสั่น เอาเข้าจริงก็หางจุกตูดเพราะรู้อยู่เต็มอก หากปล่อยให้มีการปฏิวัติอีกครั้ง โอกาสจะได้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมแทบมองไม่เห็น หรือกว่าจะลุกขึ้นจากหลุมอีกครั้ง ก็เหงือกแห้งตายไปหลายปีดีดัก ยังไงก็ต้องเซฟตัวเองไว้ก่อน
ส่วน“ขี้ข้าเหลิม”ที่ออกมาว่ายทวนกระแสว่า ควรคงไว้ ด้วยเหตุผลว่า ขบวนการถอนรากถอนโคน “นรก.ปู”ยังอยู่ ก็เป็นเหตุผลส่วนตัว กอดเก้าอี้แน่น ไม่ใช่เพื่อรัฐบาลทรราชย์ส่วนรวม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ศรส. แห่งนี้ทำให้ผู้สถาปนาตัวเป็นขี้ข้าเบอร์หนึ่งกล้ามโต เดินแอ่นอกทำกร่างได้
**แต่หากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อไหร่ จะหมดสภาพกลับไปเป็นแค่ “จับกัง 1”นั่งรากงอกไม่มีใครเห็นเงาหัว แถมต้องไปรอขึ้นศาลคดีฆ่าคนตายอีก...
เสือกระดาษ
ชิงยกเลิกมันไปเสียเลย แล้วกลับไปกินข้าวหม้อเก่าอย่าง พ.ร.บ.ความมั่นคง จะดีกว่า
เรื่องของเรื่องเพราะพันธะสารพัดที่ศาลแพ่งบรรจงจัดให้ง่อยเปลี้ยเสียขา 9 ข้อ มันล็อกคอศูนย์รวมสัตว์ (ศรส.) ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ใหญ่ ให้ขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้เลย มีก็เหมือนไม่มี
"ไม่มีเสียยังดีกว่า ออกข้อจำกัดเยอะขนาดนี้ ไม่สั่งให้ยกเลิกไปเลยล่ะ เดี๋ยวไฝว้แม่ม !! "เสียงเฉลิม นินทากับคนใกล้ชิด
หากดันทุรังประกาศใช้ พ.ร.ก.แบบเขียนเสือให้วัวกลัว เป็นกระดาษเปื้อนหมึกไปวันต่อวัน ก็ไม่ต่างอะไรจากหายใจทิ้งฆ่าเวลา สู้ใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงที่แสนยานุภาพน้อยกว่า แต่ไม่โดนอาญาสิทธิ์จากศาล อย่างไรก็คล่องตัวกว่า
ประจวบเหมาะกับการยุบเวที เพื่อรวมกันของ “กำนันเทือก”สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่ให้เหลือเพียงเวทีสวมลุมพินีที่เดียวก็สามารถหยิบยกเอามาเป็นข้ออ้างได้ว่า สถานการณ์เบาบางลงแล้ว จึงไม่มีความหมายที่จะขยายระยะเวลาออกไป
เช่นเดียวกับเหตุผลด้านผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ที่แน่นอนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ยิ่งยื้ดเยื้อยาวนานออกไป รังแต่จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศเพราะจะกระทบต่อความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ซึ่งที่ผ่านมานักธุรกิจหลายรายเอง ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ออกมาบี้รัฐบาลทรราชย์ให้ยกเลิกกฎหมายพิเศษเสีย เพราะเป็นการทำร้ายเศรษฐกิจของประเทศโดยตรง
**แต่ที่เป็นประเด็นสำคัญเลยคือ มีสัญญาณตรงกับที่บรรดาลิ่วล้อ น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ส่งซิกผ่านออกมา คือชักเริ่มไม่สบายใจกับการที่กองกำลังทหาร ออกมาป้วนเปี้ยนเยอะเกินไปในกทม. เพราะมีช่องออกมาตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันทำให้ใครหลายคนเสียวสันหลังวาบว่า วันดีคืนดี กองกำลังทั้ง 176 จุด จะเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ “แอ่น แอน แอ๊น” ที่มาในรูปแบบลับ ลวง พราง ภาคสอง
**ตามคิวระแวง “บิ๊กตู่”ที่อยู่ดีๆ ประสาน ศรส. ขอเพิ่มกำลังทหารตามจุดต่างๆ ในกทม. จนอาจเป็นกลายการกระชับอำนาจแบบเงียบๆ เพื่อทำการใหญ่ โดยเฉพาะช่วงหลังมานี้ กลิ่นชักเริ่มไม่ดี
เมื่อมโนหลอนออกมาในเส้นประสาทของขี้ข้าลิ่วล้อ วิธีผลักดันทหารกลับกรมกองแบบชอบธรรมก็คือ การยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือปล่อยให้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สิ้นสภาพไปแบบอัตโนมัติ ในวันที่ 22 มีนาคม ซึ่งครบกำหนดตามที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเอาไว้ โดยไม่คิดต่ออายุให้
ตามอาการผวารถถังที่ยังคงภาพหลอกหลอนอยู่ทุกวี่วัน ไอ้ที่ท้าเหยงๆ แหกปากกันอยู่ว่าไม่กลัว ก็แค่พวกปากกล้าขาสั่น เอาเข้าจริงก็หางจุกตูดเพราะรู้อยู่เต็มอก หากปล่อยให้มีการปฏิวัติอีกครั้ง โอกาสจะได้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมแทบมองไม่เห็น หรือกว่าจะลุกขึ้นจากหลุมอีกครั้ง ก็เหงือกแห้งตายไปหลายปีดีดัก ยังไงก็ต้องเซฟตัวเองไว้ก่อน
ส่วน“ขี้ข้าเหลิม”ที่ออกมาว่ายทวนกระแสว่า ควรคงไว้ ด้วยเหตุผลว่า ขบวนการถอนรากถอนโคน “นรก.ปู”ยังอยู่ ก็เป็นเหตุผลส่วนตัว กอดเก้าอี้แน่น ไม่ใช่เพื่อรัฐบาลทรราชย์ส่วนรวม เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ศรส. แห่งนี้ทำให้ผู้สถาปนาตัวเป็นขี้ข้าเบอร์หนึ่งกล้ามโต เดินแอ่นอกทำกร่างได้
**แต่หากยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเมื่อไหร่ จะหมดสภาพกลับไปเป็นแค่ “จับกัง 1”นั่งรากงอกไม่มีใครเห็นเงาหัว แถมต้องไปรอขึ้นศาลคดีฆ่าคนตายอีก...
เสือกระดาษ