ค่าย “บีเอ็มดับเบลยู” ประกาศรุกตลาดปีม้า ระดมเปิดตัวรถใหม่ ทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบิ๊กไบค์ เสริมทัพรถประกอบในประเทศ3 โมเดล ประเดิม ซีรีย์ 1 รุ่น 116i ราคา 1.749 ล้านบาท ตามด้วย ซีรีย์3 จีที ไตรมาส2 และเอ็กซ์5 ช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมขยายโรงงานผลิตจังหวัดระยอง รองรับการเติบโต
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดหลายรุ่น ทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ ในรูปแบบนำเข้าทั้งคัน และประกอบในประเทศ หลังจากปี 2556 ที่ผ่านมาได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย ด้วยยอดขายรวม 8,147 คัน เติบโต 33% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งอัตราเติบโตดังกล่าวถือว่าสูงสุดเป็นอับดับสองของโลก รองจากบีเอ็มดับเบิลยูบราซิลที่ขยายตัว 69.5%
ในปีที่แล้วบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทำยอดขายยอดขายได้สูงที่สุด นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทย โดยแบ่งเป็นรถบีเอ็มดับเบิลยู จำนวน 7,536 คัน เพิ่มขึ้น 34% รถยนต์มินิ 611 คัน เพิ่มขึ้น 22% รวมถึงบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด (บิ๊กไบค์) จำนวน 400 คัน เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการนำเสนอโปรดักต์ใหม่ๆที่ดึงดูดใจ ตรงกับความต้องการตลาด พร้อมทำราคาให้แข่งขันได้ แถมคุ้มค่าด้วยโปรแกรมดูแลรักษา BSI ที่สำคัญเครือข่ายผู้จำหน่ายอันเข้มแข็งและคลอบคลุมทั่วประเทศมีส่วนอย่างมากในการผลักดันความสำเร็จ
สำหรับการขึ้นไลน์ประกอบรถในประเทศ ที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง จังหวัดระยอง ปีนี้บริษัทจะเพิ่มอีก 3 โมเดล คือ ซีรีย์1,ซีรีย์3 จีที (แกรนด์ ทัวริสโม) และ เอ็กซ์5 ใหม่ เสริมจากปัจจุบันที่ประกอบทั้ง ซีรีย์ 3(ซีดาน), ซีรีย์ 5, ซีรีย์ 7, เอ็กซ์1 เอ็กซ์3 รวมถึงมินิ คันทรีแมน และบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด รุ่น เอฟ 800 อาร์ ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้ประกอบทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด (ในหลังคาเดียวกัน)
โดยซีรีย์ 1 ประกอบในประเทศรุ่น 116i สามารถทำราคาได้เพียง 1.749 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2014 นี้ ขณะที่รุ่นประกอบในประเทศของ ซีรีย์3 จีที และเอ็กซ์5 ใหม่ จะเริ่มในไตรมาสที่สอง และช่วงครึ่งปีหลังตามลำดับ ด้วยการทำราคาได้น่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนซื้อพื้นที่เพิ่มเติมในรอบๆ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูแมนูแฟคเจอร์ริ่ง นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดระยอง เพื่อรองรับการขยายตัวของรถประกอบในประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา และพิจารณาข้อมูลต่างๆอยู่ ทั้งนี้ในปี 2556 สามารถผลิตบีเอ็มดับเบิลยูได้จำนวน 8,663 คัน มินิ 380 คัน
นาย พฟาลซ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังอึมครึมว่า มีผลกระทบกับตลาดรวมดังจะเห็นได้จากเดือนมกราคมที่ผ่านมายอดขายลดลงไป 45% ส่วนตลาดรถหรูยังทรงตัวหรือลดลงเพียง5% และเชื่อว่าปีนี้ตลาดรถหรูน่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นเล็กน้อย ด้วยยอดขายรวมกว่า 20,000 คัน
“แม้สถานการณ์ในปัจจุบันยังคาดเดาลำบาก แต่เราเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอะไรมากระทบ ก็สามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากมองในระยะกลางและระยะยาว อุตสาหกรรมยานยนต์ยังสามารถเดินต่อไปได้ ส่วนบีเอ็มดับเบิลยูอาจจะได้รับผลกระทบน้อย เพราะลูกค้าส่วนมากเป็นผู้มีกำลังซื้อ หรือมีดีมานด์อยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงนี้อาจจะขาดความเชื่อมั่น และชะลอการตัดสินใจซื้อลงไป”
นายแมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดหลายรุ่น ทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ ในรูปแบบนำเข้าทั้งคัน และประกอบในประเทศ หลังจากปี 2556 ที่ผ่านมาได้การตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย ด้วยยอดขายรวม 8,147 คัน เติบโต 33% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งอัตราเติบโตดังกล่าวถือว่าสูงสุดเป็นอับดับสองของโลก รองจากบีเอ็มดับเบิลยูบราซิลที่ขยายตัว 69.5%
ในปีที่แล้วบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ทำยอดขายยอดขายได้สูงที่สุด นับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทย โดยแบ่งเป็นรถบีเอ็มดับเบิลยู จำนวน 7,536 คัน เพิ่มขึ้น 34% รถยนต์มินิ 611 คัน เพิ่มขึ้น 22% รวมถึงบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด (บิ๊กไบค์) จำนวน 400 คัน เพิ่มขึ้น 38% เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากการนำเสนอโปรดักต์ใหม่ๆที่ดึงดูดใจ ตรงกับความต้องการตลาด พร้อมทำราคาให้แข่งขันได้ แถมคุ้มค่าด้วยโปรแกรมดูแลรักษา BSI ที่สำคัญเครือข่ายผู้จำหน่ายอันเข้มแข็งและคลอบคลุมทั่วประเทศมีส่วนอย่างมากในการผลักดันความสำเร็จ
สำหรับการขึ้นไลน์ประกอบรถในประเทศ ที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง จังหวัดระยอง ปีนี้บริษัทจะเพิ่มอีก 3 โมเดล คือ ซีรีย์1,ซีรีย์3 จีที (แกรนด์ ทัวริสโม) และ เอ็กซ์5 ใหม่ เสริมจากปัจจุบันที่ประกอบทั้ง ซีรีย์ 3(ซีดาน), ซีรีย์ 5, ซีรีย์ 7, เอ็กซ์1 เอ็กซ์3 รวมถึงมินิ คันทรีแมน และบีเอ็มดับเบิลยูมอเตอร์ราด รุ่น เอฟ 800 อาร์ ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้ประกอบทั้ง บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด (ในหลังคาเดียวกัน)
โดยซีรีย์ 1 ประกอบในประเทศรุ่น 116i สามารถทำราคาได้เพียง 1.749 ล้านบาท พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานบางกอกมอเตอร์โชว์ 2014 นี้ ขณะที่รุ่นประกอบในประเทศของ ซีรีย์3 จีที และเอ็กซ์5 ใหม่ จะเริ่มในไตรมาสที่สอง และช่วงครึ่งปีหลังตามลำดับ ด้วยการทำราคาได้น่าสนใจมากขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนซื้อพื้นที่เพิ่มเติมในรอบๆ โรงงานบีเอ็มดับเบิลยูแมนูแฟคเจอร์ริ่ง นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดระยอง เพื่อรองรับการขยายตัวของรถประกอบในประเทศ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา และพิจารณาข้อมูลต่างๆอยู่ ทั้งนี้ในปี 2556 สามารถผลิตบีเอ็มดับเบิลยูได้จำนวน 8,663 คัน มินิ 380 คัน
นาย พฟาลซ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังอึมครึมว่า มีผลกระทบกับตลาดรวมดังจะเห็นได้จากเดือนมกราคมที่ผ่านมายอดขายลดลงไป 45% ส่วนตลาดรถหรูยังทรงตัวหรือลดลงเพียง5% และเชื่อว่าปีนี้ตลาดรถหรูน่าจะมียอดขายเติบโตขึ้นเล็กน้อย ด้วยยอดขายรวมกว่า 20,000 คัน
“แม้สถานการณ์ในปัจจุบันยังคาดเดาลำบาก แต่เราเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ที่ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอะไรมากระทบ ก็สามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากมองในระยะกลางและระยะยาว อุตสาหกรรมยานยนต์ยังสามารถเดินต่อไปได้ ส่วนบีเอ็มดับเบิลยูอาจจะได้รับผลกระทบน้อย เพราะลูกค้าส่วนมากเป็นผู้มีกำลังซื้อ หรือมีดีมานด์อยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงนี้อาจจะขาดความเชื่อมั่น และชะลอการตัดสินใจซื้อลงไป”