ข่าวในประเทศ-มิลเลนเนียม ออโต้ พลิกกลยุทธ์หันบุกโรดโชว์ ลุยลูกค้าหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ แก้เกมสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่ลงตัว คาดปีนี้มินิยังมาแรง ขยายตัวแตะระดับเลขสองหลักเท่าปีที่ผ่านมา เผยรุ่นซีเคดียังเป็นปัจจัยหนุน
สมปราชญ์ โบสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ มินิ อย่างเป็นทางการในไทยในเครือ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอปอเรชั่น เอเซีย เปิดเผยว่า ล่าสุดนี้บริษัทได้ทำการปรับกลยุทธ์การทำตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นที่การจัดโรดโชว์ตามพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด จากในอดีตที่พื้นที่การขายและกลุ่มเป้าหมายเน้นในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเป็นหลัก โดยในปีนี้บริษัทมีแผนโรดโชว์ครอบคลุมทุกภูมิภาคขอประเทศไทย อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหัวเมืองใหญ่ภาคตะวันออก โดยคาดว่าการปรับแผนครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
“เราจะเริ่มโรดโชว์ไปยังจังหวัดต่างๆ ที่เป็นหัวเมืองใหญ่รวมทั้งในกรุงเทพฯ โดยจะจัดเกือบทุกเดือน จากเดิมที่ส่วนใหญ่จัดเป็นรายไตรมาส ทั้งนี้เพื่อขยายออกไปสร้างฐานลูกค้าให้มากขึ้น ด้านแผนการทำ ซีอาร์เอ็ม ปัจจุบันบริษัทขายรถมาเป็นเวลา 12 ปีมีฐานลูกค้าประมาณ 5,000 คัน และมีแนวโน้มขยายตัวมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตในระดับเลขสองหลัก ดังนั้น เราจึงต้องหากิจกรรมและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรองรับบริการหลังการขายให้ได้มากที่สุด”
ส่วนแผนงานด้านผลิตภัณฑ์นั้น ในช่วงครึ่งปีแรกนี้จะมีรถรุ่นตกแต่งพิเศษออกมาสาตลาด นั่นคือ มินิแฮตช์แบ็กรุ่น R 56, มินิ คูเป้, มินิ JCW และรุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้คือ มินิ F56 ด้านการยายเครือข่าย ปัจจุบันนี้มินิมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่เอกมัย และขยายเพิ่มศูนย์บริการไปที่ย่านพระราม 3 ส่วนปีนี้อยู่ระหว่างการขยายเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการที่พระราม 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
โดยภาพรวมในปีที่ผ่านมานั้นบริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา จากปัจจัยหลักคือ มินิคันทรี่แมน รุ่นประกอบในประเทศที่มียอดจำหน่ายสูงมากคิดเป็นประมาณ 40-45% ของยอดขายรวม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ขานรับนโยบายของทางบริษัทแม่คือ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่เดินหน้าตอบสนองความต้องการรถยนต์ระดับหรูแบรนด์มินิที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค โดยเริ่มการประกอบรถยนต์มินิ คันทรี่แมน เป็นครั้งแรกที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง นิคมอุตสาหกรรมอมตะ จังหวัดระยอง วันที่ 8 สิงหาคม ในปีที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมในปีนี้คาดว่าสถานการณ์รถหรูจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ส่วนจะขยายตัวได้มากเพียงใดนั้นก็ขึ้นกับสถานการณ์การเมืองในประเทศจะคลี่คลายได้เร็วเพียงใด อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้สถานการณ์รถหรูยังยังมีการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดรถนำ เข้าเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลถึงยอดขายของตลาดมินิ เนื่องจากมีการใช้กลยุทธ์ที่รุ่นแรงมาก ส่งผลให้ทาง มิลเลนเนียม ออโต้ต้องทำการตลาดที่หนักขึ้น
สมปราชญ์ โบสุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ มินิ อย่างเป็นทางการในไทยในเครือ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอปอเรชั่น เอเซีย เปิดเผยว่า ล่าสุดนี้บริษัทได้ทำการปรับกลยุทธ์การทำตลาดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นที่การจัดโรดโชว์ตามพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด จากในอดีตที่พื้นที่การขายและกลุ่มเป้าหมายเน้นในเขตกรุงเทพและปริมณฑลเป็นหลัก โดยในปีนี้บริษัทมีแผนโรดโชว์ครอบคลุมทุกภูมิภาคขอประเทศไทย อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และหัวเมืองใหญ่ภาคตะวันออก โดยคาดว่าการปรับแผนครั้งนี้จะส่งผลให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
“เราจะเริ่มโรดโชว์ไปยังจังหวัดต่างๆ ที่เป็นหัวเมืองใหญ่รวมทั้งในกรุงเทพฯ โดยจะจัดเกือบทุกเดือน จากเดิมที่ส่วนใหญ่จัดเป็นรายไตรมาส ทั้งนี้เพื่อขยายออกไปสร้างฐานลูกค้าให้มากขึ้น ด้านแผนการทำ ซีอาร์เอ็ม ปัจจุบันบริษัทขายรถมาเป็นเวลา 12 ปีมีฐานลูกค้าประมาณ 5,000 คัน และมีแนวโน้มขยายตัวมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตในระดับเลขสองหลัก ดังนั้น เราจึงต้องหากิจกรรมและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อรองรับบริการหลังการขายให้ได้มากที่สุด”
ส่วนแผนงานด้านผลิตภัณฑ์นั้น ในช่วงครึ่งปีแรกนี้จะมีรถรุ่นตกแต่งพิเศษออกมาสาตลาด นั่นคือ มินิแฮตช์แบ็กรุ่น R 56, มินิ คูเป้, มินิ JCW และรุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 2 นี้คือ มินิ F56 ด้านการยายเครือข่าย ปัจจุบันนี้มินิมีโชว์รูมและศูนย์บริการที่เอกมัย และขยายเพิ่มศูนย์บริการไปที่ย่านพระราม 3 ส่วนปีนี้อยู่ระหว่างการขยายเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการที่พระราม 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้
โดยภาพรวมในปีที่ผ่านมานั้นบริษัทสามารถทำยอดขายเติบโตเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงปี 2555 ที่ผ่านมา จากปัจจัยหลักคือ มินิคันทรี่แมน รุ่นประกอบในประเทศที่มียอดจำหน่ายสูงมากคิดเป็นประมาณ 40-45% ของยอดขายรวม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ขานรับนโยบายของทางบริษัทแม่คือ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่เดินหน้าตอบสนองความต้องการรถยนต์ระดับหรูแบรนด์มินิที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค โดยเริ่มการประกอบรถยนต์มินิ คันทรี่แมน เป็นครั้งแรกที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู แมนูแฟคเจอริ่ง นิคมอุตสาหกรรมอมตะ จังหวัดระยอง วันที่ 8 สิงหาคม ในปีที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมในปีนี้คาดว่าสถานการณ์รถหรูจะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่อง ส่วนจะขยายตัวได้มากเพียงใดนั้นก็ขึ้นกับสถานการณ์การเมืองในประเทศจะคลี่คลายได้เร็วเพียงใด อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้สถานการณ์รถหรูยังยังมีการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดรถนำ เข้าเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลถึงยอดขายของตลาดมินิ เนื่องจากมีการใช้กลยุทธ์ที่รุ่นแรงมาก ส่งผลให้ทาง มิลเลนเนียม ออโต้ต้องทำการตลาดที่หนักขึ้น
