เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดตราดและราชประสงค์นำมาสู่ความสะเทือนใจอย่างถึงที่สุด ยิ่งนึกถึงหัวอกคนเป็นพ่อแม่แล้วยิ่งเศร้าสลด โดยเฉพาะกรณีที่ราชประสงค์เด็กที่เสียชีวิตเป็นพี่น้องกันกำลังอยู่ในวัยที่น่ารักน่าชัง บอกตรงๆ ครับผมไม่ใช่พระอิฐพระปูน ถ้าผมเป็นพ่อของเด็กผมก็ไม่มีวันทำใจได้และไม่สามารถให้อภัยกับผู้กระทำได้เลย
ท่ามกลางความโศกเศร้า ผมเริ่มตั้งคำถามว่า กว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะยุติลงจะมีผู้เสียชีวิตอีกเท่าไหร่ เพราะจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปร่วม 20 ศพแล้ว แล้วศพต่อไปจะเป็นใคร เป็นคุณ เป็นเพื่อนคุณ หรือเป็นญาติคุณ
ผมถามต่อไปว่า ทำไมความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจทางการเมืองทำให้คนโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ คนที่ลงมือกระทำหัวจิตหัวใจทำด้วยอะไรถึงสามารถลั่นกระสุนและอาวุธเข้าใส่ฝูงชนได้โดยไม่สนใจว่าผู้ตายจะเป็นใคร ทำไมไม่กระทำต่อเป้าหมายที่เป็นศัตรูที่แท้จริงของตัวเองโดยที่ผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องรับกรรมจากการกระทำนั้นๆ ด้วย
แน่นอนว่าในประวัติศาสตร์อำนาจทำให้คนฆ่ากันมามากต่อมาก แต่ไม่ควรเกิดกับเด็กวัยแค่ 4-5 ขวบ ที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอันใดด้วย
นึกแล้วเศร้า นึกแล้วหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่อาจสลัดออกไปจากความรู้สึกนึกคิดและความทรงจำเลือนหายไปได้เลย
ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับเด็กๆ นั้นทำให้ผมนึกถึงวรรคแรกของเพลงกล้วยไข่ วงเฉลียง
“เกิดสงครามพันครั้ง เด็กก็ยังสวยงาม
เป็นเพียงแค่สงคราม ความเดียงสาเท่าเดิม...”
คำถามต่อมาถึงผู้มีอำนาจที่สามารถยุติวิกฤตบ้านเมืองได้ว่า พวกคุณจะนิ่งดูดายเพื่อให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตอีกเท่าไหร่ จะยอมให้อำนาจเถื่อนออกมาไล่ฆ่าประชาชนกลางเมืองทั้งๆ ที่พวกคุณมีอำนาจหน้าที่จะต้องป้องกันยับยั้งเช่นนั้นหรือ
ไม่ต้องอ้อมค้อมเลยคำถามนี้ผมถามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ครับ
พลเอกประยุทธ์บอกว่า รู้ตัวฝีมือคนกระทำว่า เป็นพวกที่มีส่วนกับการชุมนุมปี 2553 แล้วผมถามนะครับว่า คนเหล่านี้เป็นศัตรูกับกองทัพด้วยใช่หรือไม่ พวกนี้ใช่ไหมที่ทำให้กำลังพลของกองทัพรวมถึงพลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต แล้ววันนี้พลเอกประยุทธ์รออะไรอยู่อีกหรือ
ต้องให้ประชาชนเสียชีวิตอีกกี่คน พลเอกประยุทธ์จึงรู้สึกว่ามันมากเกินไปแล้ว เรามีเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไป 4 คนแล้วครับ
หรือพลเอกประยุทธ์รู้แค่ว่าตัวเองมีอำนาจวาสนา แต่ไม่รู้ว่าหน้าที่คืออะไร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจนะครับว่า ไม่มีใครเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ออกมาล้มกระดานยึดอำนาจ แต่ร้องขอให้พลเอกประยุทธ์นำกำลังออกมาปกป้องประชาชน อาจมีคนโต้แย้งว่าประชาชนฝ่ายไหนล่ะ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็อิงฐานประชาชนในดุลที่เท่าๆ กัน คำตอบที่ผมจะตอบก็คือ ทหารต้องออกมาป้องกันไม่ให้กองกำลังติดอาวุธออกมาลอบทำร้ายประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนฝ่ายไหน เพราะการที่มีกองกำลังเถื่อนติดอาวุธอยู่ในประเทศมันกระทบต่อความมั่นคงของชาติซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของทหารไม่ใช่หรือ
จากคำพูดของพลเอกประยุทธ์ซึ่งระบุชัดว่า กลุ่มก่อเหตุความรุนแรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมปี 2553 นั้น ผมว่าถึงตอนนี้กองทัพเองก็น่าจะรู้ตัวบ้างแล้วว่า กลุ่มก่อความรุนแรงเหล่านี้เป็นใคร และใครคือคนบงการ
ผมไม่ปฏิเสธหรอกครับว่า ถึงตอนนี้ประชาชนส่วนหนึ่งก็มีอาวุธเพราะจำเป็นต้องติดอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง แต่นั่นเกิดขึ้นเพราะพวกเขาไม่สามารถได้รับการคุ้มครองจากรัฐไม่ใช่หรือ
ถ้าติดตามการชุมนุมเริ่มความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่า กลุ่มไหนฝ่ายไหนที่ใช้อาวุธสงครามทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ตอนที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมก็มีกลุ่มใช้ความรุนแรงยิงอาวุธสงครามใส่ผู้ชุมนุมหลายครั้ง แต่ตอนที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกลายเป็นว่า ฝ่ายตรงข้ามของคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม มาจนถึงการชุมนุมของมวลมหาประชาชนตอนนี้ก็มีกลุ่มก่อความรุนแรงเข้ามายิงถล่มไม่เว้นแต่ละวัน ไม่เลือกด้วยว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน
ฝ่ายไหนเป็นผู้ใช้ความรุนแรง ฝ่ายไหนติดอาวุธเพื่อทำร้ายฝ่ายตรงข้ามมันมีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ปรากฏให้เห็นอยู่แล้ว
และสิ่งที่เรารับรู้ร่วมกันก็คือ ตำรวจไม่ทำหน้าที่ ไม่ป้องกัน เพราะตำรวจเห็นว่า ประชาชนที่อยู่ตรงข้ามกับระบอบทักษิณเป็นศัตรูของตัวเอง และตำรวจไม่พยายามสอบสวนหาคนกระทำผิดเลย ที่ผ่านมาการที่พันธมิตรฯ ถูกกระทำหลายๆ ครั้งก็ไม่มีการสืบสวนดำเนินคดีอะไร ปล่อยให้คนผิดลอยนวล ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยก็รู้ มีภาพใบหน้าคนร้ายชัดเจน จนถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่จับคนร้ายมาดำเนินคดี ผมไม่เชื่อว่า ตำรวจจับคนร้ายไม่ได้หรอกครับ ตำรวจประเทศนี้ถ้าเอาจริงไม่มีวันที่คนร้ายจะหลุดรอดไปได้หรอกครับ
แต่ตำรวจไม่จับ เพราะถ้าจับแล้วมันจะเผยโฉมหน้าคนบงการยังไงเล่าครับ
พลเอกประยุทธ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน เหมือนกับไม่รับรู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายที่ออกมาปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายที่ลิดรอนสถาบันหลักของชาติ พลเอกประยุทธ์ไม่เคยรับรู้หรือได้ยินการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงที่ทหารจะต้องออกมาปกป้องเลยหรือ
พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ยินเลยหรือว่า คนกลุ่มไหนประกาศจะแบ่งแยกประเทศ คนกลุ่มไหนประกาศจะติดอาวุธเพื่อมาทำร้ายฝ่ายตรงข้าม คนกลุ่มไหนพูดถึงการผลัดแผ่นดินในโอกาสที่ไม่บังควร แต่วันนี้ทำไมท่านยังไม่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่กองทัพต้องออกมาแสดงจุดยืนซึ่งเป็นเพียงการแสดงความรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ตัวเองในฐานะที่เป็นทหารของประเทศนี้
ประชาชนเขาเรียกร้องให้ท่านทำตามหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญกำหนดครับ ไม่ได้เรียกร้องให้ท่านทำผิดกฎหมายหรือกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือท่านไม่รู้เลยว่า ในภาวะที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติในขณะนี้ ท่านในฐานะผู้บัญชาการทหารบกควรจะทำอะไร
พูดอีกครั้งครับหรือว่า ท่านรู้แต่อำนาจวาสนา แต่ไม่รู้ว่าหน้าที่คืออะไร
พลเอกประยุทธ์ครับ แม้คนที่ตายและบาดเจ็บจะไม่ใช่ลูกหลานของท่าน แต่เมื่อท่านไม่ใช่บุคคลธรรมดาเป็นนายประยุทธ์ ท่านมีหน้าที่โดยตรงครับที่จะต้องออกมาปกป้องชีวิตของประชาชน อย่าอ้างว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจเชียวนะครับ เพราะนั่นเท่ากับท่านไม่รับรู้สถานการณ์ของบ้านเมืองเลยว่า วันนี้ตำรวจก็เป็นคู่ขัดแย้งของประชาชน
อย่างนี้แล้วจะไม่ให้ผมคิดได้อย่างไรว่านอกจากคลิปถั่งเช่าที่ยอมรับกันแล้วเป็นของจริงแน่นอน วันนี้มันช่วยยืนยันด้วยว่า เนื้อหาที่ถูกพูดถึงในคลิปนั้นก็เป็นเรื่องจริง รวมทั้งคำพูดของทักษิณที่ว่า “ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก”
ท่ามกลางความโศกเศร้า ผมเริ่มตั้งคำถามว่า กว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะยุติลงจะมีผู้เสียชีวิตอีกเท่าไหร่ เพราะจนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตไปร่วม 20 ศพแล้ว แล้วศพต่อไปจะเป็นใคร เป็นคุณ เป็นเพื่อนคุณ หรือเป็นญาติคุณ
ผมถามต่อไปว่า ทำไมความขัดแย้งแย่งชิงอำนาจทางการเมืองทำให้คนโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ คนที่ลงมือกระทำหัวจิตหัวใจทำด้วยอะไรถึงสามารถลั่นกระสุนและอาวุธเข้าใส่ฝูงชนได้โดยไม่สนใจว่าผู้ตายจะเป็นใคร ทำไมไม่กระทำต่อเป้าหมายที่เป็นศัตรูที่แท้จริงของตัวเองโดยที่ผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องรับกรรมจากการกระทำนั้นๆ ด้วย
แน่นอนว่าในประวัติศาสตร์อำนาจทำให้คนฆ่ากันมามากต่อมาก แต่ไม่ควรเกิดกับเด็กวัยแค่ 4-5 ขวบ ที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอันใดด้วย
นึกแล้วเศร้า นึกแล้วหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่อาจสลัดออกไปจากความรู้สึกนึกคิดและความทรงจำเลือนหายไปได้เลย
ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับเด็กๆ นั้นทำให้ผมนึกถึงวรรคแรกของเพลงกล้วยไข่ วงเฉลียง
“เกิดสงครามพันครั้ง เด็กก็ยังสวยงาม
เป็นเพียงแค่สงคราม ความเดียงสาเท่าเดิม...”
คำถามต่อมาถึงผู้มีอำนาจที่สามารถยุติวิกฤตบ้านเมืองได้ว่า พวกคุณจะนิ่งดูดายเพื่อให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตอีกเท่าไหร่ จะยอมให้อำนาจเถื่อนออกมาไล่ฆ่าประชาชนกลางเมืองทั้งๆ ที่พวกคุณมีอำนาจหน้าที่จะต้องป้องกันยับยั้งเช่นนั้นหรือ
ไม่ต้องอ้อมค้อมเลยคำถามนี้ผมถามพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ครับ
พลเอกประยุทธ์บอกว่า รู้ตัวฝีมือคนกระทำว่า เป็นพวกที่มีส่วนกับการชุมนุมปี 2553 แล้วผมถามนะครับว่า คนเหล่านี้เป็นศัตรูกับกองทัพด้วยใช่หรือไม่ พวกนี้ใช่ไหมที่ทำให้กำลังพลของกองทัพรวมถึงพลเอกร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิต แล้ววันนี้พลเอกประยุทธ์รออะไรอยู่อีกหรือ
ต้องให้ประชาชนเสียชีวิตอีกกี่คน พลเอกประยุทธ์จึงรู้สึกว่ามันมากเกินไปแล้ว เรามีเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไป 4 คนแล้วครับ
หรือพลเอกประยุทธ์รู้แค่ว่าตัวเองมีอำนาจวาสนา แต่ไม่รู้ว่าหน้าที่คืออะไร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจนะครับว่า ไม่มีใครเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ออกมาล้มกระดานยึดอำนาจ แต่ร้องขอให้พลเอกประยุทธ์นำกำลังออกมาปกป้องประชาชน อาจมีคนโต้แย้งว่าประชาชนฝ่ายไหนล่ะ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็อิงฐานประชาชนในดุลที่เท่าๆ กัน คำตอบที่ผมจะตอบก็คือ ทหารต้องออกมาป้องกันไม่ให้กองกำลังติดอาวุธออกมาลอบทำร้ายประชาชน ไม่ว่าจะเป็นประชาชนฝ่ายไหน เพราะการที่มีกองกำลังเถื่อนติดอาวุธอยู่ในประเทศมันกระทบต่อความมั่นคงของชาติซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงของทหารไม่ใช่หรือ
จากคำพูดของพลเอกประยุทธ์ซึ่งระบุชัดว่า กลุ่มก่อเหตุความรุนแรงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมปี 2553 นั้น ผมว่าถึงตอนนี้กองทัพเองก็น่าจะรู้ตัวบ้างแล้วว่า กลุ่มก่อความรุนแรงเหล่านี้เป็นใคร และใครคือคนบงการ
ผมไม่ปฏิเสธหรอกครับว่า ถึงตอนนี้ประชาชนส่วนหนึ่งก็มีอาวุธเพราะจำเป็นต้องติดอาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง แต่นั่นเกิดขึ้นเพราะพวกเขาไม่สามารถได้รับการคุ้มครองจากรัฐไม่ใช่หรือ
ถ้าติดตามการชุมนุมเริ่มความขัดแย้งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมา จะเห็นได้ว่า กลุ่มไหนฝ่ายไหนที่ใช้อาวุธสงครามทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ตอนที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมก็มีกลุ่มใช้ความรุนแรงยิงอาวุธสงครามใส่ผู้ชุมนุมหลายครั้ง แต่ตอนที่กลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมกลายเป็นว่า ฝ่ายตรงข้ามของคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายถูกยิงด้วยอาวุธสงคราม มาจนถึงการชุมนุมของมวลมหาประชาชนตอนนี้ก็มีกลุ่มก่อความรุนแรงเข้ามายิงถล่มไม่เว้นแต่ละวัน ไม่เลือกด้วยว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน
ฝ่ายไหนเป็นผู้ใช้ความรุนแรง ฝ่ายไหนติดอาวุธเพื่อทำร้ายฝ่ายตรงข้ามมันมีข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ปรากฏให้เห็นอยู่แล้ว
และสิ่งที่เรารับรู้ร่วมกันก็คือ ตำรวจไม่ทำหน้าที่ ไม่ป้องกัน เพราะตำรวจเห็นว่า ประชาชนที่อยู่ตรงข้ามกับระบอบทักษิณเป็นศัตรูของตัวเอง และตำรวจไม่พยายามสอบสวนหาคนกระทำผิดเลย ที่ผ่านมาการที่พันธมิตรฯ ถูกกระทำหลายๆ ครั้งก็ไม่มีการสืบสวนดำเนินคดีอะไร ปล่อยให้คนผิดลอยนวล ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยก็รู้ มีภาพใบหน้าคนร้ายชัดเจน จนถึงขณะนี้ตำรวจก็ยังไม่จับคนร้ายมาดำเนินคดี ผมไม่เชื่อว่า ตำรวจจับคนร้ายไม่ได้หรอกครับ ตำรวจประเทศนี้ถ้าเอาจริงไม่มีวันที่คนร้ายจะหลุดรอดไปได้หรอกครับ
แต่ตำรวจไม่จับ เพราะถ้าจับแล้วมันจะเผยโฉมหน้าคนบงการยังไงเล่าครับ
พลเอกประยุทธ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน เหมือนกับไม่รับรู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายที่ออกมาปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายที่ลิดรอนสถาบันหลักของชาติ พลเอกประยุทธ์ไม่เคยรับรู้หรือได้ยินการจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรงที่ทหารจะต้องออกมาปกป้องเลยหรือ
พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ยินเลยหรือว่า คนกลุ่มไหนประกาศจะแบ่งแยกประเทศ คนกลุ่มไหนประกาศจะติดอาวุธเพื่อมาทำร้ายฝ่ายตรงข้าม คนกลุ่มไหนพูดถึงการผลัดแผ่นดินในโอกาสที่ไม่บังควร แต่วันนี้ทำไมท่านยังไม่คิดว่าถึงเวลาแล้วที่กองทัพต้องออกมาแสดงจุดยืนซึ่งเป็นเพียงการแสดงความรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ตัวเองในฐานะที่เป็นทหารของประเทศนี้
ประชาชนเขาเรียกร้องให้ท่านทำตามหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญกำหนดครับ ไม่ได้เรียกร้องให้ท่านทำผิดกฎหมายหรือกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ หรือท่านไม่รู้เลยว่า ในภาวะที่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติในขณะนี้ ท่านในฐานะผู้บัญชาการทหารบกควรจะทำอะไร
พูดอีกครั้งครับหรือว่า ท่านรู้แต่อำนาจวาสนา แต่ไม่รู้ว่าหน้าที่คืออะไร
พลเอกประยุทธ์ครับ แม้คนที่ตายและบาดเจ็บจะไม่ใช่ลูกหลานของท่าน แต่เมื่อท่านไม่ใช่บุคคลธรรมดาเป็นนายประยุทธ์ ท่านมีหน้าที่โดยตรงครับที่จะต้องออกมาปกป้องชีวิตของประชาชน อย่าอ้างว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจเชียวนะครับ เพราะนั่นเท่ากับท่านไม่รับรู้สถานการณ์ของบ้านเมืองเลยว่า วันนี้ตำรวจก็เป็นคู่ขัดแย้งของประชาชน
อย่างนี้แล้วจะไม่ให้ผมคิดได้อย่างไรว่านอกจากคลิปถั่งเช่าที่ยอมรับกันแล้วเป็นของจริงแน่นอน วันนี้มันช่วยยืนยันด้วยว่า เนื้อหาที่ถูกพูดถึงในคลิปนั้นก็เป็นเรื่องจริง รวมทั้งคำพูดของทักษิณที่ว่า “ไว้ใจ ไว้ใจไอ้ตู่มาก”
