ASTVผู้จัดการรายวัน-ส่งออกม.ค. ประเดิมปีม้า ทำได้มูลค่า 1.79 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 1.98% เหตุยอดส่งออกสินค้าหลายตัวลดวูบ หลายตลาดก็ยอดตก ทั้งอาเซียน จีน อินเดีย “ศรีรัตน์”รับปัญหาการเมืองกระทบความเชื่อมั่นผู้นำเข้าบ้าง แต่ได้สั่งให้ทูตพาณิชย์ไปชี้แจงแล้ว ไทยยังผลิตส่งออกได้ตามปกติ
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยเดือนม.ค.2557 มีมูลค่า 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 1.98% ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล เพราะปกติเดือนม.ค.ของทุกปี การส่งออกจะชะลอตัวลดลงจากช่วงปลายปีที่มีการนำเข้าสินค้าไปสต๊อกเพื่อขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.50%
เป็นการนำเข้าลดลงในกลุ่มของเครื่องจักรที่ก่อนหน้านี้มีการนำเข้ามามากแล้ว โดยขาดดุลการค้ามูลค่า 2,521 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ การส่งออกที่ลดลง เป็นการลดลงในกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 7.5% สินค้าสำคัญที่ลดลง เช่น ข้าวลด 7.5% ยางพารา ลด 6.8% อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ลด 2.2% กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ลด 34.2% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ลด 7.6% น้ำตาล ลด 18.8% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ลด 0.2% สินค้าสำคัญที่ลดลง เช่น ยานยนต์และส่วนประกอบ ลด 12.4% วัสดุก่อสร้าง ลด 40.8% ผลิตภัณฑ์ยาง ลด 2.5%
สำหรับตลาดส่งออก หลายๆ ตลาดเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มขึ้น 4.6% ญี่ปุ่น เพิ่ม 1.8% สหรัฐฯ เพิ่ม 0.4% แต่ตลาดศักยภาพสูง ได้แก่ อาเซียน ลดลง 5% จีน ลด 0.8% ฮ่องกง ลด 14% อินเดีย ลด 11.6% ส่วนตลาดศักยภาพรอง ได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย ลด 24.2% ลาตินอเมริกา ลด 3.7% โดยตลาดตะวันออกกลาง เพิ่ม 3.5% แอฟริกา เพิ่ม 0.8% และสหภาพยุโรปใหม่ เพิ่ม 3%
นางศรีรัตน์กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าบางประเทศที่ไม่เชื่อว่าไทยจะส่งมอบสินค้าได้ทันหรือกระทบต่อการผลิตและโลจิสติกส์ ซึ่งได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไปทำความเข้าใจกับประเทศคู่ค้าและผู้นำเข้าให้เข้าใจแล้วว่าไทยไม่มีปัญหา ยังคงทำการผลิตและส่งออกได้ตามปกติ
ขอให้มั่นใจในการทำการค้ากับไทยต่อไป
“ที่มีการมองว่าผลกระทบทางการเมืองจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ยังประเมินไม่ได้ เพราะบางอุตสาหกรรมก็บอกว่าจะดีขึ้น บางอุตสาหกรรมก็บอกว่าแย่ลง ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ที่พูดได้ตอนนี้ ก็คือ ปีนี้ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ การส่งออกของไทยจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมาย 5% ทำได้แน่ และอาจจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำ
เพราะหลายๆ ประเทศมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าปัญหาทุกอย่างจะจบ และมีรัฐบาลมาบริหารประเทศโดยเร็ว”นางศรีรัตน์กล่าว
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยในปีนี้ นอกเหนือจากปัญหาทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความไม่เชื่อมั่นของคู่ค้า ยังมีปัญหาภาวะภัยแล้ง ที่จะทำให้ผลผลิตภาคการเกษตรลดลง ทำให้ราคาขยับสูงขึ้น แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของไทยได้ และยังมีความเสี่ยงจากการขยายการลงทุนในสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี
เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ที่ชะลอตัวลง ถ้าไม่มีการลงทุนเพิ่ม ก็จะกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยเดือนม.ค.2557 มีมูลค่า 17,907 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวลดลง 1.98% ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล เพราะปกติเดือนม.ค.ของทุกปี การส่งออกจะชะลอตัวลดลงจากช่วงปลายปีที่มีการนำเข้าสินค้าไปสต๊อกเพื่อขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 20,428 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 15.50%
เป็นการนำเข้าลดลงในกลุ่มของเครื่องจักรที่ก่อนหน้านี้มีการนำเข้ามามากแล้ว โดยขาดดุลการค้ามูลค่า 2,521 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ การส่งออกที่ลดลง เป็นการลดลงในกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร 7.5% สินค้าสำคัญที่ลดลง เช่น ข้าวลด 7.5% ยางพารา ลด 6.8% อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป ลด 2.2% กุ้งแช่แข็งและแปรรูป ลด 34.2% ไก่สดแช่แข็งและแปรรูป ลด 7.6% น้ำตาล ลด 18.8% ขณะที่สินค้าอุตสาหกรรม ลด 0.2% สินค้าสำคัญที่ลดลง เช่น ยานยนต์และส่วนประกอบ ลด 12.4% วัสดุก่อสร้าง ลด 40.8% ผลิตภัณฑ์ยาง ลด 2.5%
สำหรับตลาดส่งออก หลายๆ ตลาดเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะตลาดหลัก ได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู) เพิ่มขึ้น 4.6% ญี่ปุ่น เพิ่ม 1.8% สหรัฐฯ เพิ่ม 0.4% แต่ตลาดศักยภาพสูง ได้แก่ อาเซียน ลดลง 5% จีน ลด 0.8% ฮ่องกง ลด 14% อินเดีย ลด 11.6% ส่วนตลาดศักยภาพรอง ได้แก่ ทวีปออสเตรเลีย ลด 24.2% ลาตินอเมริกา ลด 3.7% โดยตลาดตะวันออกกลาง เพิ่ม 3.5% แอฟริกา เพิ่ม 0.8% และสหภาพยุโรปใหม่ เพิ่ม 3%
นางศรีรัตน์กล่าวว่า ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้นำเข้าบางประเทศที่ไม่เชื่อว่าไทยจะส่งมอบสินค้าได้ทันหรือกระทบต่อการผลิตและโลจิสติกส์ ซึ่งได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ไปทำความเข้าใจกับประเทศคู่ค้าและผู้นำเข้าให้เข้าใจแล้วว่าไทยไม่มีปัญหา ยังคงทำการผลิตและส่งออกได้ตามปกติ
ขอให้มั่นใจในการทำการค้ากับไทยต่อไป
“ที่มีการมองว่าผลกระทบทางการเมืองจะส่งผลต่อการส่งออกของไทยตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป ยังประเมินไม่ได้ เพราะบางอุตสาหกรรมก็บอกว่าจะดีขึ้น บางอุตสาหกรรมก็บอกว่าแย่ลง ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ที่พูดได้ตอนนี้ ก็คือ ปีนี้ถ้าสถานการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ การส่งออกของไทยจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมาย 5% ทำได้แน่ และอาจจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำ
เพราะหลายๆ ประเทศมีสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าปัญหาทุกอย่างจะจบ และมีรัฐบาลมาบริหารประเทศโดยเร็ว”นางศรีรัตน์กล่าว
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าไทยในปีนี้ นอกเหนือจากปัญหาทางการเมืองที่ส่งผลกระทบต่อความไม่เชื่อมั่นของคู่ค้า ยังมีปัญหาภาวะภัยแล้ง ที่จะทำให้ผลผลิตภาคการเกษตรลดลง ทำให้ราคาขยับสูงขึ้น แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของไทยได้ และยังมีความเสี่ยงจากการขยายการลงทุนในสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี
เช่น อิเล็กทรอนิกส์ ที่ชะลอตัวลง ถ้าไม่มีการลงทุนเพิ่ม ก็จะกระทบต่อการส่งออกในระยะต่อไป
