xs
xsm
sm
md
lg

PSเบรกซื้อที่ดิน-ชะลอคอนโด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - พฤกษา หวั่นปัญหาการเมืองลากยาวถึงกลางปี เผยปรับแผนลงทุนตามสถานการณ์ เบรกเปิดขายคอนโดฯ - ชะลอใช้งบซื้อที่ดิน 1 หมื่นล้านบาท รอบ้านเมืองสงบ กำลังซื้อฟื้นพร้อมเดินหน้าลุย ส่วนบ้านแนวราบเดินหน้ารุกตลาดต่อเนื่อง พร้อมโชว์ผลประกอบการปี 56 ทุบทุกสถิติ ยอดขายรวม41,282 ล้านบาท รายได้รวม 39,041 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 5,801 ล้านบาท

   นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยว่า จากปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์และความเชื่อมั่นของประชาชน ทำให้ยอดจองบ้านใหม่ตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมาปรับลดลงประมาณ 20-30% ส่วนรายได้ปรับลดลงประมาณ 10% แต่ยังถือว่าเป็นระดับที่ยังพอรับได้ และยังมียอดขายเข้ามาต่อเนื่อง รวมถึงพฤกษายังมียอดขายรอรับรู้รายได้ (back log) ที่ทยอยโอนเข้ามาต่อเนื่อง โดยจะรับรู้ในปีนี้ 20,876 ล้านบาท จากยอด back log ทั้งหมด 37,836 ล้านบาท

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้บริษัทได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้สามารถปรับเปลี่ยนและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในช่วงเวลานั้น โดยในส่วนของการเปิดตัวโครงการใหม่ เปลี่ยนจากประมาณ 40-50 โครงการเป็น 30-50 โครงการ มูลค่า 30,000-50,000 ล้านบาท กล่าวคือหากสถานการณ์เลวร้ายจะเปิดประมาณ 30 โครงการ แต่หากการเมืองสงบกำลังซื้อฟื้นตัว บริษัทก็สามารถเปิดโครงการใหม่ 50 โครงการ

“ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยไทยในปี 56 เติบโต 4% เมื่อเทียบกับปี 55 โดยมูลค่าตลาดที่อยู่อาศัยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 348,536 ล้านบาท สำหรับในปี 57 นี้คาดว่าตลาดที่อยู่อาศัย จะเติบโตลดลง 2-5% อย่างไรก็ตามการที่บริษัทฯมีการเตรียมพร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการเลือกจับกลุ่มลูกค้าที่เป็น Real Demand เน้นพัฒนาโครงการในแนวราบ คือ บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์เป็นหลักประมาณ 80% รวมทั้งขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าระดับ กลาง-สูง และขยายโครงการไปในต่างจังหวัดมากขึ้น” นายทองมา กล่าว

นายทองมา กล่าวต่อว่า บริษัทชะลอการเปิดขายโครงการคอนโดมิ เนียมในช่วงไตรมาสแรกออกไปก่อน เพื่อรอโอกาสที่เหมาะสมและกำลังซื้อฟื้นตัวจึงจะเปิดขาย เพราะคอนโดฯเมื่อเริ่มลงมือก่อสร้างต้องสร้างให้เสร็จทั้งโครงการ หากเปิดขายในช่วงสถานการณ์ไม่ดี ยอดขายอาจไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ซึ่งในระหว่างที่รอสถานการณ์ตลาด บริษัทยังคงเดินหน้าพัฒนาคอนโดฯอย่างต่อเนื่อง อาทิ ถมดิน ขอใบอนุญาตก่อสร้าง  EIA รวมถึงหาผู้รับเหมา เมื่อสถานการณ์เอื้อก็จะเปิดขายทันที

นอกจากนี้ยังชะลอการใช้งบซื้อที่ดินจำนวน 10,000 ล้านบาท ที่จะนำมาพัฒนาในปี 58 ออกไปก่อน เนื่องจากไม่ต้องการเพิ่มต้นทุน และเป็นการรักษาระดับหนี้สินต่อทุนให้มีความสมดุลกับรายได้ ส่วนที่ดินของโครงการที่จะเปิดขายในปีนี้ได้ซื้อครบแล้ว

สำหรับผลประกอบการประจำปี 2556 นับเป็นปีทองของบริษัทฯ เพราะผลการดำเนินธุรกิจในทุกด้านประสบความสำเร็จเกินเป้าหมาย ทั้งในด้านยอดขาย รายได้และกำไรสุทธิ เติบโตขึ้นจากปีก่อน และ สูงที่สุดในรอบ 21 ปีโดยมียอดขาย 41,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มียอดขาย 29,397 ล้านบาท รายได้รวม 39,041 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 44% เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีรายได้รวม 27,141 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5,801 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 49%เมื่อเทียบกับปี 2555 ที่มีกำไรสุทธิ 3,898 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่เติบโตมากนี้ มาจากการปรับกลยุทธ์และการปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าได้ดีขึ้น การบริหารงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากรายได้ในไตรมาส 4 ที่พุ่งสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ถึง 40% และคาดการณ์ว่าในปี 2557 จะมีรายได้ประมาณ 
40,000-42,000 ล้านบาท

“ผลประกอบการที่เติบโตมากนี้ มาจากการปรับกลยุทธ์และการปรับโครงสร้างการบริหารงานของบริษัทฯ ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายตลาดในแต่ละกลุ่มสินค้าได้ดีขึ้น การบริหารงานมีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นได้ชัดเจนจากรายได้ในไตรมาส 4 ที่พุ่งสูงขึ้นจากไตรมาสที่ 3 ถึง40%”นายทองมากว่า

ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท พฤกษา กล่าวเสริมว่า การที่ผลการดำเนินงานดีขึ้นมาก มาจากการบริหารการก่อสร้างของบริษัทฯ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโรงงานพฤกษา พรีคาสต์ ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยสามารถใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่ และมีการนำระบบการก่อสร้างบ้านที่มีคุณภาพ (Real Estate Manufacturing :REM) มาใช้ในการก่อสร้างเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปี 2556 ได้เป็นจำนวนถึง 16,969 ยูนิต แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ 13,169 ยูนิต และคอนโด 3,800 ยูนิต ซึ่งนับเป็นสถิติยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่สูงสุดของบริษัทฯ และคาดว่าจะสูงที่สุดในวงการ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่โอนกรรมสิทธิ์ได้ 12,283 ยูนิต

"ปัญหาความไม่สงบทางการเมืองที่เกิด คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดขายลดลงประมาณ 3,000-8,000 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่ายืดเยื้อยาวนานไปถึงกลางปีหรือไม่ รวมถึงเกิดความรุนแรงขึ้นหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทก็เชื่อว่าจะยังพอรับมือได้ เนื่องจากมีการลงทุนกระจายในหลายทำเล และยังคงมียอดขายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมียอดแบ็กล็อกที่ทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่อง" นายเลอร์ศักดิ์
กำลังโหลดความคิดเห็น