เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (10ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคว่า ที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ได้หารือและชี้แจงข้อกล่าวหาของ 308 ส.ส.และส.ว. ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งข้อหาแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.โดยมิชอบ โดยได้ข้อสรุปว่า จะขอเลื่อนการชี้แจงข้อกล่าวหาต่อป.ป.ช. ออกไปอีก 15 วัน เนื่องจากอยู่ในช่วงการเลือกตั้งที่ยังไม่เสร็จสิ้น และการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของ ส.ส.ทุกคน จะชี้แจงไปในแนวทางเดียวกัน ซึ่งมีเนื้อหาประมาณ 7 ประเด็น 200 กว่าหน้าต่อคน ทุกคนจะชี้แจงไปในทางเดียวกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิอันชอบธรรมของสมาชิกรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 (1) อีกทั้งสมาชิกรัฐสภาได้รับการคุ้มครองในการลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 130 ที่ระบุว่า ไม่สามารถนำการลงมติไปฟ้องร้องภายหลังได้
นอกจากนี้ จะหยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไม่รับคำร้อง กรณีที่มีผู้ร้องถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. จากการถูกปลดออกจากราชการทหารมาเทียบเคียงกับกรณีนี้ด้วย เพราะศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลถึงการไม่รับคำร้อง กรณีนายอภิสิทธิ์ ว่า เมื่อมีการยุบสภาไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. โดยกรณีของ 308 ส.ส.และส.ว. เมื่อมีการยุบสภาไปแล้วก็ควรเป็นเช่นเดียวกับกรณีนายอภิสิทธิ์ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันทุกองค์กร
ทั้งนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ขอบคุณสมาชิกที่ผลักดันให้การเลือกตั้งดำเนินไปได้ถึงร้อยละ 90 แม้ว่าจะมีผู้ที่จ้องจะล้มการเลือกตั้ง และได้ย้ำเตือนสมาชิกว่า ขณะนี้ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งยังคงอยู่ ขอให้ระมัดระวังตัว อย่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยอย่าเพิ่งจัดงานรื่นเริง เพื่อขอบคุณผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ
นอกจากนี้ จะหยิบยกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีไม่รับคำร้อง กรณีที่มีผู้ร้องถอดถอน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้พ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. จากการถูกปลดออกจากราชการทหารมาเทียบเคียงกับกรณีนี้ด้วย เพราะศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลถึงการไม่รับคำร้อง กรณีนายอภิสิทธิ์ ว่า เมื่อมีการยุบสภาไปแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพิจารณาสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. โดยกรณีของ 308 ส.ส.และส.ว. เมื่อมีการยุบสภาไปแล้วก็ควรเป็นเช่นเดียวกับกรณีนายอภิสิทธิ์ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ผูกพันทุกองค์กร
ทั้งนี้ แกนนำพรรคเพื่อไทยได้ขอบคุณสมาชิกที่ผลักดันให้การเลือกตั้งดำเนินไปได้ถึงร้อยละ 90 แม้ว่าจะมีผู้ที่จ้องจะล้มการเลือกตั้ง และได้ย้ำเตือนสมาชิกว่า ขณะนี้ พ.ร.ฎ.การเลือกตั้งยังคงอยู่ ขอให้ระมัดระวังตัว อย่าทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยอย่าเพิ่งจัดงานรื่นเริง เพื่อขอบคุณผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ
