ศาล รธน.ทำคำวินิจฉัยกลางปมแก้ที่มา ส.ว. แพร่ลงเว็บไซต์แล้ว

ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยกลางการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.เข้าข่ายล้มล้างการปกครองขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 แล้ว ระบุเนื้อหาคล้ายคลึงกับที่คณะตุลาการอ่านเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนคำวินิจฉัยส่วนตนทั้ง 9 คนยังต้องรอต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 11 ธ.ค. เว็บไซต์ของสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่คำวินิจฉัยกลางที่ 15-18/2556 กรณีเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว.เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้อ่านคำวินิจฉัยไปเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยคำวินิจฉัยกลางนั้นมีเนื้อรวม 35 หน้า แบ่งเป็น 4 ส่วน ส่วนแรกเป็นการสรุปคำร้องที่มีผู้ยื่นทั้งหมด 4 ราย ส่วนที่ 2 เป็นรายละเอียดการพิจารณาของศาล การไต่สวนและการให้ถ้อยคำของพยานปากต่างๆ

ส่วนที่ 3 เป็นการกำหนดประเด็นวินิจฉัยของศาลซึ่งศาลกำหนด 2 ประเด็นวินิจฉัย คือ 1. กระบวนการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ และ 2. การแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญหรือไม่ และการพิจารณาเบื้องต้นว่าศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการวินิจฉัยเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ

ส่วนที่ 4 เป็นการวินิจฉัยในประเด็นเนื้อหา และการมีความเห็นต่อการกระทำของสมาชิกรัฐสภา 312 ไม่ว่าเป็นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ที่ประชุมรัฐสภาใช้พิจารณาเป็นคนละฉบับกับร่างแก้ไขเพิ่มเติมที่ได้มีการยื่นญัตติขอแก้ไข การรวบรัดวันแปรญญัติ การเสียบบัตรแสดงตนและลงคะแนนแทนกันของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ 3 ว่าเป็นการดำเนินการพิจารณาและแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 122, 125 วรรคหนึ่ง, วรรคสอง มาตรา 126 วรรคสาม และมาตรา 291 (1), (2) และ 4 และมาตรา 3 วรรคสอง

รวมทั้งเนื้อหาการแก้ไขคุณสมบัติที่มาของ ส.ว. ที่ทำให้องค์กรวุฒิสภามีที่มาลักษณะเดียวกับ ส.ส. กลายเป็นสภาญาติพี่น้อง สภาของครอบครัว ผัวเมีย สูญเสียสถานะและศักยภาพแห่งการเป็นสติปัญญาให้แก่สภาผู้แทนราษฎร ทำลายสาระของการมีสองสภา นำพาไปสู่การผูกขาดอำนาจรัฐ ศาลรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 3 เห็นว่า เนื้อหาสาระดังกล่าวเป็นสาระสำคัญที่ขัดแย้งต่อหลักการพื้นฐานและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อันเป็นการกระทำเพื่อให้ผู้ถูกร้องทั้งหมดได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการที่มิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 68 วรรคหนึ่ง ซึ่งเนื้อหาโดยรวมจะคล้ายคลึงกับที่คณะตุลาการได้อ่านให้กับคู่กรณีฟังเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในส่วนคำวินิจฉัยส่วนตนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คนนั้นยังไม่ได้มีการเผยแพร่