ประธาน ป.ป.ช.ยันไม่กดดันแม้สังคมเรียกร้องให้เร่งฟัน 383 สมาชิกรัฐสภาแก้ รธน.ที่มา ส.ว.ไม่ชอบด้วย รธน. รับต้องใช้เวลาพอสมควร และต้องพิจารณาทั้งประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ระบุหากชี้มูลผู้ถูกร้องต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการไต่สวนคดีถอดถอนและดำเนินคดีอาญาสมาชิกรัฐสภา 383 คนจากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าการเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่า ป.ป.ช.พยายามเร่งพิจารณาเรื่องนี้ โดยได้มีการตั้งคณะทำงานด้านกฎหมายเข้ามาช่วยดู แต่คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ซึ่งไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะใช้เวลานานเท่าใด
นายปานเทพกล่าวว่า ประเด็นที่จะต้องมีการพิจารณาแม้จะมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นแนวทาง แต่ ป.ป.ช.ก็ต้องพิจารณาทั้งประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เนื่องจากเป็นเรื่องการถอดถอน และการดำเนินคดีอาญา ซึ่งหาก ป.ป.ช.มีมติชี้มูล ผู้ถูกร้องจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันทีตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. แต่หากมีการชี้มูลก่อนการเลือกตั้ง ตนไม่ทราบว่าจะมีผลต่อสถานะการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะองค์คณะไต่สวนจะมีการประชุมต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของผู้ถูกร้องที่เป็นสมาชิกรัฐสภาทาง ป.ป.ช.จะแจ้งให้ทั้ง 383 คน ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาเป็นลายลักษณ์อักษร และจะพิจารณาว่าจะต้องเชิญบุคคลใดมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติมหรือไม่ แต่คงไม่ใช่ทั้งหมด และ ป.ป.ช.เข้าใจว่ากระแสสังคมต้องการบีบให้ ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว แต่ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร