สศค.หวั่นเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า3% หลังสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อ จับตาความเชื่อมั่นภาคเอกชนตกต่ำ ตัวเลขว่างงานขยับ ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือนม.ค.วูบแล้ว 7% รับพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งรองรับได้เพียงช่วงสั้นเท่านั้น
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาตัวเลขของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาหายไปอย่างชัดเจน โดยพบว่าตัวเลขผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงถึง 7% แต่ตัวเลขโดยรวมอาจลดลงน้อยกว่านี้ เพราะตัวเลขไปเพิ่มที่สนามบินอื่นๆ แทนโดยเฉพาะจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังยืดเยื้อดังกล่าวน่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ลดลงประมาณ 2 ล้านคน โดยสศค.ปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 30 กว่าล้านคนเหลือเพียง 28 ล้านคน
นอกจากนี้ ในส่วนของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2556 และคงต้องจับตาเรื่องของความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้สศค.มองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะลดลงจากที่ประเมินไว้เดิมขยายตัว 4% โดยอาจจะลงไปเหลือเพียง 3.1% หากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อถึงกลางปีนี้หรือจบภายในเดือนมิถุนายน เนื่องจากไม่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทที่ตั้งไว้รวม 4.8 หมื่นล้านบาทได้ทัน
ทั้งนี้ หากสถานการณ์ทางการเมืองยังยืดเยื้อออกไปจนถึงไตรมาส 3 ก็น่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงไปอีกหรือลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 3% ซึ่งคงต้องรอประเมินตัวเลขด้านต่างๆ อีกครั้งหนึ่งก่อน เนื่องจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่จะต้องนำมาใช้ในเดือนตุลาคม 2557 นั้นอาจจะล่าช้าออกไปทำให้การเบิกจ่ายเงินภาครัฐเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งสะดุดลง
“ขณะนี้เรายังโชคดีที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพสามารถรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ในระยะสั้น แต่ระยะยาวสิ่งที่เคยแข็งแกร่งก็อาจถูกกระทบตามมาทั้งเรื่องของการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่จากฐานที่ต่ำหรือตัวเลขว่างงานยังน้อยทำให้การเพิ่มขึ้นยังไม่ทำให้เสถียรภาพสั่นคลอน ซึ่งคงต้องจับตาดูต่อไป รวมถึงปัญหาหนี้เสียของสถาบันการเงินว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ขณะที่เงินเฟ้อไม่น่าห่วงและอัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีก”นายเอกนิติกล่าวและว่า หากเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 3% ก็ยังไม่ถึงขั้นถดถอยรุนแรง แต่อาจเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ต่อจากปีก่อน.
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาตัวเลขของจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาหายไปอย่างชัดเจน โดยพบว่าตัวเลขผู้เดินทางผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงถึง 7% แต่ตัวเลขโดยรวมอาจลดลงน้อยกว่านี้ เพราะตัวเลขไปเพิ่มที่สนามบินอื่นๆ แทนโดยเฉพาะจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังยืดเยื้อดังกล่าวน่าจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้ลดลงประมาณ 2 ล้านคน โดยสศค.ปรับลดจำนวนนักท่องเที่ยวจาก 30 กว่าล้านคนเหลือเพียง 28 ล้านคน
นอกจากนี้ ในส่วนของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนธันวาคม 2556 และคงต้องจับตาเรื่องของความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้สศค.มองว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้อาจจะลดลงจากที่ประเมินไว้เดิมขยายตัว 4% โดยอาจจะลงไปเหลือเพียง 3.1% หากสถานการณ์การเมืองยังยืดเยื้อถึงกลางปีนี้หรือจบภายในเดือนมิถุนายน เนื่องจากไม่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาทที่ตั้งไว้รวม 4.8 หมื่นล้านบาทได้ทัน
ทั้งนี้ หากสถานการณ์ทางการเมืองยังยืดเยื้อออกไปจนถึงไตรมาส 3 ก็น่าเป็นห่วงว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงไปอีกหรือลงไปอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 3% ซึ่งคงต้องรอประเมินตัวเลขด้านต่างๆ อีกครั้งหนึ่งก่อน เนื่องจากการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ที่จะต้องนำมาใช้ในเดือนตุลาคม 2557 นั้นอาจจะล่าช้าออกไปทำให้การเบิกจ่ายเงินภาครัฐเข้าไปกระตุ้นเศรษฐกิจยิ่งสะดุดลง
“ขณะนี้เรายังโชคดีที่พื้นฐานทางเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพสามารถรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้ในระยะสั้น แต่ระยะยาวสิ่งที่เคยแข็งแกร่งก็อาจถูกกระทบตามมาทั้งเรื่องของการว่างงานที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น แต่จากฐานที่ต่ำหรือตัวเลขว่างงานยังน้อยทำให้การเพิ่มขึ้นยังไม่ทำให้เสถียรภาพสั่นคลอน ซึ่งคงต้องจับตาดูต่อไป รวมถึงปัญหาหนี้เสียของสถาบันการเงินว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหรือไม่ ขณะที่เงินเฟ้อไม่น่าห่วงและอัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มปรับลดลงได้อีก”นายเอกนิติกล่าวและว่า หากเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวต่ำกว่า 3% ก็ยังไม่ถึงขั้นถดถอยรุนแรง แต่อาจเป็นการชะลอตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ต่อจากปีก่อน.