xs
xsm
sm
md
lg

“ยิ่งลักษณ์”ล้างคาวไม่ได้ นับถอยหลัง“ระบอบทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**จากนี้ไปคือช่วงเวลานับถอยหลังของ“ระบอบทักษิณ”ที่คนไทยกำลังจะได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม จับต้องได้ เหมือนกับ “ความชั่ว”ที่ระบอบนี้ได้แสดงตัวตนออกมาจนพลังแห่งคุณงามความดีในสังคมต้องผนึกกำลังกันให้เห็นว่า“ความดี”ยังเข้มแข็ง และมีมากพอที่จะ“สยบความชั่ว”ได้
เอาแค่การเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ที่ทีมยุทธศาสตร์ของระบอบทักษิณ มั่นอกมั่นใจนักหนาว่าจะ เป็นน้ำยาฟอกขาวขัดสีฉวีวรรณเอายิ่งลักษณ์ใส่ตะกร้าล้างคาวได้ แต่สุดท้ายผลที่ออกมากลับกลายเป็นการประจานความเสื่อมถอยของระบอบทักษิณอย่างชัดเจนยิ่ง
ด้วยตรรกกะนักวิชาการแดงที่พยายามโหมประโคมว่า“คนเท่ากัน”นั้น วันนี้ผลการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ที่ไม่อาจนับคะแนนได้ รับรองผลไม่ได้ ไม่มีส.ส. เปิดสภาไม่ได้ ไม่มีรัฐบาลใหม่มีแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กอดอำนาจรักษาการ โดยที่ไม่สามารถบริหารประเทศได้ตามปกติจนชาติสูญเสียโอกาส
ชาวนาทุกข์ระทม ไม่ได้เงินจำนำข้าวนั้นย่อมเป็นเครื่องสะท้อนที่ชัดเจนแล้วว่า “คนเท่ากัน”แต่ “ระดับจิตใจ”ของคนไม่เท่ากัน โดยเฉพาะ “ระดับจิตใจของผู้นำประเทศ”เพราะคงไม่มีผู้นำประเทศที่ดีคนไหนอ้างรักษาประชาธิปไตย ด้วยการนำพาชาติเข้าสู่ทางตัน เพียงเพื่อให้ตัวเองยังคงรักษาอำนาจรักษาการที่มีอยู่เพียงน้อยนิดเอาไว้
ยังมีคำถามถึงพวกนักวิชาการแดงที่ความจริงแล้วไม่ได้แตกต่างไปจากแก๊งอาชญากรที่ร่วมกันก่ออาชญากรรมต่อประเทศชาติ ผ่านวาทกรรมสวยหรู ล้างสมองด้วยหลักคิดผิดๆ สร้างชุดความเท็จมาหลอกประชาชนด้วยว่า ที่อ้างว่า 1 สิทธิ 1 เสียง เท่ากันนั้น ทำไม 1 สิทธิ 1 เสียง ของทักษิณ จึงไม่เพียงอยู่เหนือประชาชน แต่อยู่เหนือรัฐบาลและรัฐสภาด้วยการออกกฎหมายล้างผิดให้ตัวเอง แก้รัฐธรรมนูญ ปล้นอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติรวบอำนาจไปที่ฝ่ายบริหาร ลิดรอนสิทธิประชาชน ?
**อย่างนี้เรียกได้ว่าประชาธิปไตยที่ต้องเคารพ1 สิทธิ 1 เสียงหรือไม่
บนความคิดที่ท่องกันมาว่า“คนเท่ากัน”นั้น มีผลการเลือกตั้งออกมาให้ได้เทียบความเท่าเทียมของคนกันแบบจะๆ แล้วว่าเป็นอย่างไร หวังว่าคงไม่ออกมาแถอีก
ผลการเลือกตั้ง 68 จังหวัด มีการใช้สิทธิราว 20 ล้านเสียง หรือร้อยละ 46% ที่น่าสนใจคือ ในจำนวนผู้ที่ไปใช้สิทธินั้นมีบัตรเสียถึง 12.05% และ โหวตโนอีก 16.57 % ขณะที่ผู้ใช้สิทธิแสดงออกถึงการคัดค้านการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยการโนโหวต สูงถึง 28 ล้านคน
นักวิชาการแดงแจ๋ทั้งหลายที่บอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นทางออกให้กับสังคมไทยนั้น คงจะมีสติปัญญามากพอที่จะวิเคราะห์ออกว่า ผลการโนโหวต ที่สูงกว่าจำนวนผู้ไปใช้สิทธินั้นบ่งบอกถึงการไม่ยอมรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และการเลือกตั้งที่คนรู้ทันว่าถูกนำมาใช้ฟอกขาวให้กับ“ยิ่งลักษณ์”
ถ้ายังแถว่าพวกโนโหวต เป็นพวกนอนหลับทับสิทธิ ไม่สามารถมาประเมินผลได้ ก็ลองเอาจำนวนผู้ที่ไปใช้สิทธิราว20 ล้านคน มีบัตรเสียและโหวตโน ที่แสดงออกถึงการปฏิเสธการเลือกตั้งครั้งนี้ถึง 6 ล้านคน ในขณะที่คนเท่ากันที่ประสงค์จะไปลงคะแนนให้กับพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้มีเพียง14 ล้านคน เป็นจำนวนเสียงที่น้อยกว่าพรรคเพื่อไทยเคยได้รับในการเลือกตั้งปี 2554 ที่นำมาใช้หากินตลอดว่า มาจาก 15 ล้านเสียงด้วยซ้ำ
**นั่นแสดงให้เห็นว่า ฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยกำลังร่อยหรอลงเรื่อยๆ และถือได้ว่า ระบอบทักษิณเข้าสู่จุดเสื่อมเต็มพิกัดแล้ว
ดังนั้นไม่ว่าจะดิ้นไปทางไหนก็ปฏิเสธความจริงไม่ได้ว่า“ประชาชน”ได้ใช้สิทธิ “คนเท่ากัน”ออกมาตบหน้าสั่งสอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ฉาดใหญ่
และจะเป็นตัวเลขที่ฟ้องไปถึงนานาชาติด้วยว่า“ประเทศไทยไม่ได้ต้องการประชาธิปไตยที่ลดลง”เหมือนที่มีการใช้วาทกรรมผ่านล็อบบี้ยิสต์ ให้สื่อตาน้ำข้าวเขียนโฆษณาชวนเชื่อให้โลกเข้าใจมวลมหาประชาชนผิด
แต่ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ประจานให้นานาชาติเห็นว่าคนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ประสงค์ที่จะได้ “ยิ่งลักษณ์”เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่อยากเห็นพรรคเพื่อไทย ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา พลังชล ประชาธิปไตยใหม่ กลับมาเป็นรัฐบาลอีกโดยไม่ไปเลือกตั้งถึง 28 ล้านคน มากกว่าผู้ไปเลือกตั้งที่ออกไปใช้สิทธิ 20 ล้านถึง 8 ล้านคน
**ในเมื่อคนเท่ากัน เหตุใดรัฐบาลและนักวิชาการจอมแถทั้งหลายจึงไม่เคารพผู้ที่ไม่ไปใข้สิทธิ 28 ล้านคน แต่กลับเรียกร้องให้เคารพสิทธิผู้ไปใช้สิทธิ 20 ล้านคน ทั้งที่มีจำนวนน้อยกว่าผู้ไม่ไปใช้สิทธิถึง 8 ล้านคน
อย่าอ้างว่าโดยปกติแล้วทุกการเลือกตั้งจะมีผู้ไม่ไปใช้สิทธิราว25 % ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพราะในครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ปกติและมีการรณรงค์โนโหวตชัดเจน เพื่อคัดค้านการเลือกดังกล่าว จึงทำให้สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ว่าผู้ไม่ไปใช้สิทธิคือผู้ที่ไม่เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นทางออกให้กับประเทศ
ยิ่งมาดูคะแนนผู้ที่ไปใช้สิทธิก็ยิ่งตอกย้ำว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้เพราะบัตรเสียและโหวตโนสูงกว่าบัตรดีถึง 11.24%
นักวิชาการแดงเลิกแถได้แล้ว เพราะถ้ายังพยายามที่จะใช้คำว่า “นักวิชาการ”ค้ำบัลลังก์ผุ ๆ ให้กับ“ยิ่งลักษณ์”ต่อไป พวกคุณก็กำลังเข้าใกล้คำว่า “ฆาตกร”มากขึ้นทุกทีจากที่เป็น “อาชญากร”ร่วมก่ออาชญากรรมกับทรราชอยู่แล้วในขณะนี้
การไม่ยอมรับความจริงว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศ และไม่สามารถบิดเบือนให้การเลือกตั้งปูทางไปสู่การปกครองแบบทรราชย์ได้อีกแล้ว จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในชาติสุ่มเสี่ยงที่จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
จึงเหลือเวลาน้อยเต็มทีที่จะให้ยิ่งลักษณ์ ตัดสินใจเพื่อให้ตัวเองยังอยู่บนผืนแผ่นดินไทยได้ เพราะถ้ายังกอดเก้าอี้ไม่ยอมออกจากตำแหน่ง ปล่อยอันธพาลทำร้ายประชาชน ใช้ตำรวจเป็นกองกำลังส่วนตัว
**สุดท้ายก็จะเจอ7 ประจันบาน ป๊อบคอร์น ออกมาจัดการทลายรัฐตำรวจ ถีบยิ่งลักษณ์กับตระกูลชินวัตร ออกไปนอกประเทศในไม่ช้านี้
กำลังโหลดความคิดเห็น