xs
xsm
sm
md
lg

สตง.จี้นายกฯ ยุติรับจำนำ คลัง-ธปท.กดดันพณ.ระบายข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สตง.ร่อนหนังสือเตือนนายกฯ-กิตติรัตน์ ลงวันที่ 31 ม.ค.57 หากมีการวินิจฉัยขั้นตอนผิดกฎหมาย ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ผู้ว่าฯ ธปท.-ปลัดคลังแนะ พาณิชย์ เร่งระบายข้าว บรรเทาผลกระทบลูกโซ่เศรษฐกิจ ด้านบอร์ด KTB ยืนยันไม่มีวาระหารือปล่อยกู้โครงการจำนำข้าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิสรา ได้เผยแพร่เอกสารของน.ส.ประพีร์ อังกินันทน์ รักษาราชการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ส่งหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ลงวันที่ 30 ม.ค.57 เสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาทบทวน และยุติการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในฤดูกาลต่อไป โดยอาจพิจารณาใช้มาตรการ หรือแนวทางการช่วยเหลือในลักษณะอื่นแทน เช่น การสนับสนุนปัจจัยการผลิต และให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรยากจน หรือมีรายได้น้อยเป็นลำดับแรก

ส่วนกรณีการจ่ายเงินจำนำตามโครงการล่าช้า ซึ่งส่งผลกระทบและความเสียหายต่อเกษตรกรนั้น ให้พิจารณาจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงิน ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนขั้นตอนการดำเนินงานที่ถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งกำหนดมาตรการเยียวยา เพื่อบรรเทาผลกระทบและความเสียหายให้แก่เกษตรกรดังกล่าวด้วย รวมทั้งให้นายกรัฐมนตรีเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานผลการดำเนินงานให้คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อจัดทำรายงานปิดบัญชี และรายงานผลการดำเนินงานในทุกโครงการตั้งแต่ปีการผลิต 47/48 เป็นต้นมา ส่งให้สตง.ตรวจสอบและเผยแพร่ให้สาธารณชนทราบโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริหารจัดการข้าว ตั้งแต่การผลิตไปจนถึงการจำหน่าย เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ควรให้ความสำคัญต่อการดำเนินการแก้ปัญหาการผลิตข้าวที่แท้จริง คือปัญหาด้านการผลิต และปัญหาด้านการตลาด ควบคู่ไปกับการดำเนินงานโครงการ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามนโยบายของรัฐบาล โดยพิจารณาให้บูรณาการแก้ปัญหาหารกผลิตข้าวอย่างเป็นระบบ ครบวงจร ภายใต้กิจกรรมการส่งเสริมสนับสนุนของหน่วยงานรัฐ การยกระดับมาตรฐานคุณภาพการผลิตสินค้าข้าวไทย เป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง และส่งเสริมการพัฒนาตลาด การวิจัยมูลค่าเพิ่มของสินค้าข้าว

ทั้งนี้สตง.ระบุว่า ได้ตรวจสอบการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลตั้งแต่ ปีการผลิต 54/55 เป็นต้นมา พบว่าการดำเนินงานโครงการมีจุดอ่อน หรือความเสี่ยงในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขึ้นทะเบียนเกษตรกร จนถึงการระบายข้าว ซึ่งเป็นช่องทางนำไปสู่การสวมสิทธิ์การจำนำ และการทุจริต โดยสตง.ได้สรุปประเด็นปัญหาและความเสี่ยงสำคัญ แจ้งให้นายกรัฐมนตรี เพื่อโปรดพิจารณาให้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานโครงการ ตามหนังสือที่เคยแจ้งถึงนายกรัฐมนตรี มาแล้ว 3 ฉบับ

นอกจากนี้ ยังระบุว่าผลกระทบจากการดำเนินโครงการ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเงินงบประมาณแผ่นดิน และเกษตรกร ความเสี่ยงต่อระบบการคลังของประเทศ และไม่เกิดการพัฒนาการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน เนื่องจากการดำเนินโครงการมีผลขาดทุนสูงมาก จากการรายงานผลการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตรของรัฐบาล โดยคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเลือกตามนโยบายรัฐบาล โดยพิจารณาจากผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 54/55 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 55 และโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปี การผลิต 55/56 (ครั้งที่ 1 ) พบว่า สิ้นสุด วันที่ 31 พ.ค. 56 มีผลขาดทุน 332,372.32 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสูงกว่ายอดการปิดบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ม.ค.56 ซึ่งมีผลขาดทุน 220,968.78 ล้านบาท มากถึง 111,403.54 ล้านบาท ชี้ให้เห็นแนวโน้มผลการขาดทุนสูงขึ้น

ขณะเดียวกันสตง.ได้ทำหนังสือถึงนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมาเกี่ยวกับปัญหาการจ่ายเงินให้ชาวนาล่าช้า โดยระบุว่า การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือก (นาปี) ปีการผลิต 56/57 จากแหล่งใด ๆ ก็ตาม ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่ขัดหรือแย้ง ต่อบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ ตลอดจนขั้นตอนการดำเนินงานที่กำหนดไว้อย่างถูกต้องโดยเคร่งครัด และรอบคอบ เพราะหากการดำเนินการดังกล่าว เข้าสู่การวินิจฉัยชี้ขาด โดยองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ แล้วปรากฏว่าการดำเนินการไม่ถูกต้อง ผู้อนุมัติและผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น

***คลัง-ธปท.จี้พาณิชย์เร่งระบายข้าว

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง พยายามหาแหล่งเงินทุกช่องทาง โดยเฉพาะการกู้เงินจากแบงก์ โดยแบงก์ต่างๆต้องการให้กู้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้ใบประทวนไปนานแล้วแต่ไม่ได้เงิน เพราะหากปล่อยกู้ จะได้รับแรงกดดันจากกลุ่มผู้ชุมนุม และยังสร้างกระแสถอนเงินฝาก อีกด้านหนึ่ง ได้พยายามผลักดันกระทรวงพาณิชย์ เร่งระบายข้าว แม้ขายขาดทุนก็ต้องยอม ขณะนี้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เร่งหาเงินทุกแนวทาง แต่ยอมรับเมื่อถูกโจตีจากม็อบ กปปส.ทำให้ขั้นตอนหาเงินติดขัดไปทุกทาง

นางจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการ สบน. กล่าวถึงกรณีปัญหาการหาแหล่งเงินกู้รอบใหม่ ของโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน ว่า ขอให้ทุกฝ่ายรอการประกาศผลการประมูลดังกล่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ พร้อมปฎิเสธที่จะชี้แจงกรณีที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ออกแถลงการณ์ปฏิเสธการเข้าร่วมประมูลสินเชื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ( ธ.ก.ส. ) รอบละ 20,000 ล้านบาท รวมวงเงินทั้งหมด 1.3 แสนล้านบาท รวมทั้งปฏิเสธถึงการนัดหารือกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์วานนี้ (3 ก.พ.) ตามที่มีรายงานข่าว

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยืนยันว่า บอร์ดบริหารของธนาคารไม่ได้มีวาระหารือเรื่องเตรียมการปล่อยกู้โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลตามที่มีกระแสข่าวในขณะนี้ พร้อมยืนยันว่า การปล่อยกู้ของธนาคารจะยึดหลักความโปร่งใสและมีธรรมาภิบาล ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและผู้ถือหุ้นเป็นหลัก เนื่องจากเป็นบริษัทมหาชน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงเช้าวานนี้ มีข่าวแพร่สะพัดว่า ฝ่ายบริหารธนาคารกรุงไทย เตรียมประชุมพิจารณาปล่อยเงินกู้ให้กับรัฐบาล 1.3 แสนล้านบาท เพื่อนำไปจ่ายโครงการรับจำนำข้าว ก่อนเสนอที่ประชุมบอร์ดใหญ่ในวันนี้ (4 ก.พ.)

ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ได้รับทราบความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางกฎหมาย หากธนาคารพาณิชย์เข้าร่วมประมูลดังกล่าว แต่เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่ง สามารถบริหารความเสี่ยง และประโยชน์สูงสุดขององค์กรได้ โดยแบงก์ชาติไม่จำเป็นต้องออกมาตรการกำกับ หรือติดตามเป็นกรณีพิเศษ แต่ยอมรับว่าปัญหาการจ่ายเงินจำนำข้าวที่ล่าช้า กระทบการบริโภคในประเทศ พร้อมกับแนะนำให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล แม้จะขาดทุน เพื่อบรรเทาผลกระทบลูกโซ่ในระบบเศรษฐกิจ

นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องไปยังรัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ ให้ขายข้าวในสต็อกจากโครงการรับจำนำข้าวกับบริษัทเอกชน หรือผู้ค้าตลาดต่างประเทศ แม้จะขาดทุน แต่จะช่วยระบายข้าว และทำให้ได้รับเงินรวดเร็วกว่าการขอกู้จากธนาคารพาณิชย์
กำลังโหลดความคิดเห็น