xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.ลั่น”ซอติก้า”ป้อนก๊าซฯพม่าก.พ.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ปตท.สผ.ลั่นแหล่งซอติก้า จ่ายก๊าซฯให้พม่าเดือนหน้านี้ ปริมาณ 100 ล้านลบ.ฟุต/วัน ส่วนส่งขายไทยเริ่มเม.ย. 57 เผยไตรมาสแรกปีนี้ ยอดขายปิโตรเลียมพลาดเป้าที่ตั้งไว้ 3.37 แสนบาร์เรล/วัน จากแหล่งเอส 1 -ที่ผลิตได้น้อยลง และแหล่งมอนทารา-ซอติก้าที่ยังผลิตได้ไม่เต็มที่

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือปตท.สผ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ก๊าซธรรมชาติจากแหล่งซอติก้า (Zawtika) แปลงเอ็ม 9 ในประเทศเมียนมาร์ได้เข้ามายังแท่นผลิตกลางแล้วคาดว่าจะสามารถส่งก๊าซฯให้พม่าได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
โดยปริมาณก๊าซฯที่จะป้อนได้ตามที่รัฐบาลเมียนมาร์เสนอซื้ออยู่ที่ 100 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันจากเดิม 60 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของเมียนมาร์ ส่วนปริมาณก๊าซฯอีก 240 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันที่จะส่งเข้าไทยนั้นคาดว่าจะเริ่มส่งก๊าซฯได้ในเดือนเมษายน 2557

ทั้งนี้ แหล่งซอติก้า อยู่ในอ่าวเมาะตะมะ ห่างจากเมืองย่างกุ้งประมาณ 300 กิโลเมตร มี บริษัท ปตท.สผ. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นบริษัทย่อยของ ปตท.สผ. เป็นผู้ดำเนินการ มีปริมาณสำรองพิสูจน์แล้วขั้นต้นประมาณ 1.4 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ราคาก๊าซฯของแหล่งซอติก้าเทียบเคียงได้กับแหล่งก๊าซฯ ยาดานาและเยตากุน

นายเทวินทร์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับปริมาณการขายปิโตรเลียมในไตรมาส 1/2557 จะต่ำกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯตั้งไว้ 3.37 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากช่วงนี้อากาศหนาวเย็นนาน ทำให้กระทบปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในแหล่งสิริกิติ์ (เอส 1) ลดลงจากเดิมที่ปลายปีผลิตได้ 3.2 หมื่นบาร์เรล/วัน เหลือเพียง 3.1 หมื่นบาร์เรล/วัน และปริมาณการผลิตก๊าซฯจากแหล่งซอติก้ายังรับรู้ได้น้อย
รวมทั้งปริมาณน้ำมันดิบที่ผลิตได้จากแหล่งมอนทารา ที่ออสเตรเลียก็ยังคงผลิตได้เพียง 1.5 หมื่นบาร์เรล/วันจากเป้าหมายทั้งปี 2.5 หมื่นบาร์เรล/วัน ขณะที่ยอดการใช้ก๊าซฯในประเทศก็ไม่ได้ลดลง

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังมีความมั่นใจว่าในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายยอดขายปิโตรเลียมที่ตั้งไว้ 3.37 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 16%จากปีก่อน เพราะรับรู้ปริมาณการผลิตและขายปิโตรเลียมจากแหล่งซอติก้า แหล่งมอนทารา และแหล่ง Natuna Sea A ที่อินโดนีเซีย ซึ่งเพิ่งชนะประมูลซื้อหุ้นบริษัทย่อย Hess Corporation ในอินโดนีเซีย ส่วนการซื้อหุ้นของ Hess
ในไทยที่ถือหุ้นในแหล่งภูฮ่อมและแหล่งไพลินนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าคงต้องรอให้Hess สรุปราคาที่มีผู้ประมูลซื้อหุ้นดังกล่าวก่อน หลังจากนั้นบริษัทฯจึงจะพิจารณาว่าจะใช้สิทธิ ในการเข้าซื้อก่อนในฐานะผู้ถือหุ้นเดิมหรือไม่ คาดว่าไม่เกินไตรมาส 1 นี้จะมีความชัดเจน

ส่วนความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุนของบริษัทฯที่วางไว้ เพราะได้กำหนดเป็นแนวทางชัดเจนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีการลงทุนทั้งสิ้น 45 โครงการ 12 ประเทศ อยู่ในประเทศไทย คิดเป็น 47%ของการลงทุนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม
บริษัทฯอยู่ระหว่างการทบทวนการลงทุนโครงการต่างๆเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาจจะยกเลิกการลงทุนบางโครงการ คาดว่าภายใน 2สัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน

ก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้คืนแปลงสัมปทานโครงการนิวซีแลนด์ เกรทเซาธ์ ซึ่งอยู่นอกชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ โดยโครงการนี้บริษัทฯเป็นผู้ร่วมทุนกับShell GSB (Shell NZ) ทำให้ปัจจุบันบริษัทฯไม่มีการลงทุนใดๆในนิวซีแลนด์เพิ่มเติมอีก รวมทั้งบริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนการลงทุนโครงการออยล์แซนด์ เคเคดี ที่แคนาดา
เนื่องจากเป็นโครงการที่มีต้นทุนการผลิตสูงทำให้ขาดทุนมาตลอด ซึ่งโครงการนี้ปตท.สผ.ถือหุ้นอยู่ 40%

ทั้งนี้ ปตท.สผ.ตั้งงบลงทุน 5 ปี (2557-2561)อยู่ที่ 27,282 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปีนี้บริษัทฯจะใช้งบลงทุนรวม 5.50 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อมุ่งเน้นรักษาระดับการผลิตในประเทสและเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2563 จะผลิตปิโตรเลียมได้ 6 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้บริษัทฯต้องแสวงหาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนโครงการผลิตน้ำมันและก๊าซฯในชั้นหินดินดาน (SHALE GAS/SHALE OIL)
ที่สหรัฐฯ เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ คาดว่าจะมีภายใน 1-2 ปีจะมีความชัดเจน โดยเบื้องต้นสนใจลงทุนไม่ต่ำกว่า 20%
กำลังโหลดความคิดเห็น