00 ถ้าจะเปรียบอาการของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "หุ่นเชิด"ของพี่ชายคือ ทักษิณ ชินวัตร กำลัง "แห้งตาย"ลงไปเรื่อยๆ ก็คงไม่ผิด เพราะสภาพที่เห็นเวลานี้ถือว่า "หมดสภาพ"แทบจะสิ้นเชิง ไม่อาจสั่งการใครได้เหมือนเก่า อาจมีบ้างก็คือตำรวจ "ขี้ข้า" ที่ต้องร่วมหัวจมท้ายไม่กี่ราย และในที่สุดก็ต้อง "สิ้นสภาพ"ไปพร้อมกัน เท่าที่เห็นแน่ชัดก็คือ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ส่วนนอกหน่วยก็ต้องไม่ลืม "ธาริต เพ็งดิษฐ์" ที่ความลื่นไหลของตัวเองกำลังกลับมารัดคอจนหมดอนาคต แต่ก็อย่างว่าแหละ ใครจะนึกว่าระบอบทักษิณที่เคยยิ่งใหญ่เข้มแข็งจะ "พังครืน" ลงมาอย่างที่เห็น แล้วที่ผ่านมาคนพวกนี้ก็ "แทงเต็ง"ถลำลึกกลับตัวไม่ได้แล้ว
00 ปรากฏการณ์ที่เป็นอยู่มันสะท้อนภาพอย่างนั้นจริงๆ หลังจากเกิดแรงกดดันรอบด้าน เริ่มจากการประท้วงขับไล่ของมวลมหาประชาชนที่นำโดย "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ยังปักหลักเข้มแข็งขึ้นทุกวัน ซึ่งกระแสต่อต้านที่ยิ่งนาน ยิ่งลาม มีคนจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญเป็นกลุ่มที่ "ตื่นรู้" ไม่อยากใช้คำว่า"มีคุณภาพ" แต่ภาพที่เห็นมันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ และคนพวกนี้แหละที่ "เสียงดัง" มีพลังกว่าใคร หากบอกว่าเป็นคนชั้นกลางในเมือง เป็นคนรุ่นใหม่ ก็เห็นจะจริง แต่เที่ยวนี้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกันที่คนต่างจังหวัดในชนบทเข้าร่วมแบบ "แผ่กระจาย" แบบ "ปากต่อปาก" อย่างรวดเร็ว ส่วนสำคัญมาจาก "ความห่วย" ของรัฐบาลที่"ประจาน"ให้เห็นออกมาเอง
00 เอาตัวอย่างที่เห็นก็คือโครงการ"จำนำข้าว"ที่กำลังทำให้ชาวนา "เหลืออด" อยู่ในเวลานี้ เอาเป็นว่านี่ขนาด"เคยเกรงใจ" เพราะคนพวกนี้ส่วนใหญ่"ร้อยละกว่าเก้าสิบ" เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร แน่นอนว่าต้องสนับสนุนรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยลุ่มหลงขนาด"ขี้แม้วยังหอม" เลยพี่น้อง ที่ผ่านมาด้วยโครงการจำนำ (รับซื้อ) ทุกเมล็ด ให้ราคาสูงกว่าตลาดถึงครึ่ง ในปีแรกแน่นอนว่ายังสามารถใช้เงินภาษีเงินงบประมาณมา"หมุน" ให้ครบวงรอบได้ไม่มีปัญหา แต่ในเมื่อมันฝืนธรรมชาติอย่างหนัก ทำให้ขาดทุนแบบมโหฬาร รอบที่สามที่สี่ มันก็ทำให้เงินเข้ามาไม่พอจ่ายชาวนาอย่างที่เห็น เพราะข้าวขายไม่ได้ สาเหตุทั้งมาจากแพง และด้อยคุณภาพ เนื่องจากวิธีการรับซื้อแบบนี้มันทำให้ไม่ต้องคำนึงเรื่องการพัฒนาคุณภาพ ขอให้พอเก็บเกี่ยวได้ก็รีบเอาไปจำนำได้ทุกเมล็ดแม้จะถูกโยกโย้เรื่องค่าความชื้น สิ่งเจอปนบ้าง แต่ก็คุ้มค่า เอาเป็นว่าในรายละเอียดของปัญหาสังคมเริ่มรับรู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดซ้ำ
00 แม้ว่าจะเคยรักชอบพอหลงไหลกันแค่ไหน แต่เมื่อปัญหาหนี้สิน ทุกวันต้องกินต้องใช้ ลูกต้องไปโรงเรียน แต่เมื่อรัฐบาลซื้อข้าวไปแล้ว 4-5 เดือนเงินยังไม่จ่าย ผ่านไปทุกเวลา ทุกชั่วโมง มันก็ยิ่งเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อพิจารณาจากหนทางที่มีอยู่รับรองว่ารัฐบาล "หมดปัญญา" ไปกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้ชาวนา เพราะไม่มีธนาคารที่ไหนกล้าปล่อยกู้ เพราะให้กู้เมื่อไหร่ ตัวเองก็จะพังทันที ชาวบ้านก็จะไม่เชื่อมั่น อาจแห่ไปถอนเงิน นี่แหละจึงเป็นที่มาของการ ออกมาแถลงย้ำว่า "ไม่ให้กู้" ดังนั้นเมื่อหนทางกู้ถูกปิด มีทางเดียวก็ต้องไป"ขายข้าว"ในสต็อก แต่ปัญหาคือ "ไม่ทันการณ์" และข้าวเสื่อมคุณภาพ ขายไม่ได้ราคา และถึงขายได้ ก็ต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนเป็นปี ถึงตอนนั้นชาวนารอไม่ไหวหรอก
00 ตอนนี้จึงได้เห็นชาวนาในภาคอีสาน ภาคเหนือ เริ่มออกมาประท้วง "ทวงหนี้จากรัฐบาล" มากขึ้น เข้มข้นขึ้นทุกวัน แม้ว่าที่ผ่านมาในฐานะคนกันเองอาจจะยั้งอารมณ์กันบ้าง ขอร้องกันบ้าง แต่เมื่อนอนรอ นอนกอดใบประทวนแบบไม่มีอนาคต มันก็ไม่ไหว อารมณ์ต้อง "ขาดผึง"อยู่แล้ว และเรื่องข้าวนี่แหละจะทำให้เป็นตัวเร่งให้รัฐบาล หมดสภาพได้เร็วขึ้น เพราะไม่มีทางออก จะคืนข้าวให้ชาวนาก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มี ถ้ามีก็ "มอด" กินไปเกือบหมดแล้ว บอกได้ว่าจำนำข้าวกำลัง "ล้มละลาย" เต็มรูปแบบแล้ว
00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เริ่มมีข้าราชการต่างทยอยขึ้นเวที กปปส. เพิ่มขึ้นทุกคืน การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไร้ความหมาย ไม่มีใครร่วมมือ เมื่อกองทัพไม่เล่นด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ในฐานะรับอาสาใช้อำนาจ มันจึงไม่ต่างจาก "ตัวตลก" มีแต่คนขบขัน ขนาดผู้ใช้อำนาจยังไม่มีที่อยู่ ไปไหนมีแต่คนไล่ มันก็เศร้าเมือนกันนะ และสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งกอดเก้าอี้ยื้อไปนานเท่าไหร่ก็ "ยิ่งแห้ง" ลง และเมื่อความหวังสุดท้ายที่จะใช้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. สำหรับใช้ "ฟอกตัว" ทำท่าปิดลงอีก มันก็ยิ่งหายนะ เพราะสำหรับ ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่ง"น่าสังเวช" ดังนั้นถ้าถามว่าหากไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. คนที่จะ"สติแตก" ก็น่าจะเป็น ยิ่งลักษณ์ กับ ทักษิณ นั่นแหละ เพราะทุกแนวรบกำลังบีบเข้ามา "ฝีแตก" พร้อมกันเร็วเกินคาด อย่าเพิ่งตายไปเสียก่อนล่ะ ไอ้เวลลล์ !!
00 การเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโดยเฉพาะในภาคใต้ร่วมร้อยเขตต้องปิดลง หลังจากที่กลุ่มมวลชนไปชุมนุม"คัดค้าน" การเลือกตั้ง แน่นอนว่า นี่คืออุปสรรคที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นแล้วว่าพิธีกรรม "ฟอกตัว" ด้วยการเลือกตั้งของระบอบทักษิณ กำลังจะล้มเหลวเต็มขั้น และอย่าได้แปลกใจที่ถึงอย่างไรบรรดา "ขี้ข้าทรราช" ต่างยืนยันหัวเด็ดตีนขาด ราวกับว่าต่อให้มีการฆ่ากันจนเลือดนองแค่ไหนก็ต้องมีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ตามกำหนดให้ได้ เพราะยิ่งนานยิ่งแห้งตายอย่างที่เห็นภาพกันไปแล้ว ต้องยื้อกันจนถึงที่สุด แม้แต่การนัดพบกับประธานกกต. ทางกุนซือ ยิ่งลักษณ์ ก็ขอ "ยื้อ" ไปจนถึงวันที่ 28 ม.ค. อย่างน้อยให้ผ่านเลือกตั้งล่วงหน้า และก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปเพียงไม่กี่วัน เพื่อบีบให้ กกต.ไม่มีทางเลือก แต่เชื่อเถอะ ตอนนี้สำหรับมวลมหาประชาชนมันเลยเรื่องเลือกตั้งไปแล้ว เพราะเขาไม่ใช่ต้องการให้เลื่อน แต่ต้องการไล่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ ให้พ้นไปเดี๋ยวนี้ต่างหาก !!
00 ปรากฏการณ์ที่เป็นอยู่มันสะท้อนภาพอย่างนั้นจริงๆ หลังจากเกิดแรงกดดันรอบด้าน เริ่มจากการประท้วงขับไล่ของมวลมหาประชาชนที่นำโดย "กำนัน" สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ยังปักหลักเข้มแข็งขึ้นทุกวัน ซึ่งกระแสต่อต้านที่ยิ่งนาน ยิ่งลาม มีคนจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญเป็นกลุ่มที่ "ตื่นรู้" ไม่อยากใช้คำว่า"มีคุณภาพ" แต่ภาพที่เห็นมันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ และคนพวกนี้แหละที่ "เสียงดัง" มีพลังกว่าใคร หากบอกว่าเป็นคนชั้นกลางในเมือง เป็นคนรุ่นใหม่ ก็เห็นจะจริง แต่เที่ยวนี้เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกันที่คนต่างจังหวัดในชนบทเข้าร่วมแบบ "แผ่กระจาย" แบบ "ปากต่อปาก" อย่างรวดเร็ว ส่วนสำคัญมาจาก "ความห่วย" ของรัฐบาลที่"ประจาน"ให้เห็นออกมาเอง
00 เอาตัวอย่างที่เห็นก็คือโครงการ"จำนำข้าว"ที่กำลังทำให้ชาวนา "เหลืออด" อยู่ในเวลานี้ เอาเป็นว่านี่ขนาด"เคยเกรงใจ" เพราะคนพวกนี้ส่วนใหญ่"ร้อยละกว่าเก้าสิบ" เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย สนับสนุน ทักษิณ ชินวัตร แน่นอนว่าต้องสนับสนุนรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยลุ่มหลงขนาด"ขี้แม้วยังหอม" เลยพี่น้อง ที่ผ่านมาด้วยโครงการจำนำ (รับซื้อ) ทุกเมล็ด ให้ราคาสูงกว่าตลาดถึงครึ่ง ในปีแรกแน่นอนว่ายังสามารถใช้เงินภาษีเงินงบประมาณมา"หมุน" ให้ครบวงรอบได้ไม่มีปัญหา แต่ในเมื่อมันฝืนธรรมชาติอย่างหนัก ทำให้ขาดทุนแบบมโหฬาร รอบที่สามที่สี่ มันก็ทำให้เงินเข้ามาไม่พอจ่ายชาวนาอย่างที่เห็น เพราะข้าวขายไม่ได้ สาเหตุทั้งมาจากแพง และด้อยคุณภาพ เนื่องจากวิธีการรับซื้อแบบนี้มันทำให้ไม่ต้องคำนึงเรื่องการพัฒนาคุณภาพ ขอให้พอเก็บเกี่ยวได้ก็รีบเอาไปจำนำได้ทุกเมล็ดแม้จะถูกโยกโย้เรื่องค่าความชื้น สิ่งเจอปนบ้าง แต่ก็คุ้มค่า เอาเป็นว่าในรายละเอียดของปัญหาสังคมเริ่มรับรู้กันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดซ้ำ
00 แม้ว่าจะเคยรักชอบพอหลงไหลกันแค่ไหน แต่เมื่อปัญหาหนี้สิน ทุกวันต้องกินต้องใช้ ลูกต้องไปโรงเรียน แต่เมื่อรัฐบาลซื้อข้าวไปแล้ว 4-5 เดือนเงินยังไม่จ่าย ผ่านไปทุกเวลา ทุกชั่วโมง มันก็ยิ่งเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อพิจารณาจากหนทางที่มีอยู่รับรองว่ารัฐบาล "หมดปัญญา" ไปกู้เงินจากสถาบันการเงินที่ไหนมาจ่ายหนี้ชาวนา เพราะไม่มีธนาคารที่ไหนกล้าปล่อยกู้ เพราะให้กู้เมื่อไหร่ ตัวเองก็จะพังทันที ชาวบ้านก็จะไม่เชื่อมั่น อาจแห่ไปถอนเงิน นี่แหละจึงเป็นที่มาของการ ออกมาแถลงย้ำว่า "ไม่ให้กู้" ดังนั้นเมื่อหนทางกู้ถูกปิด มีทางเดียวก็ต้องไป"ขายข้าว"ในสต็อก แต่ปัญหาคือ "ไม่ทันการณ์" และข้าวเสื่อมคุณภาพ ขายไม่ได้ราคา และถึงขายได้ ก็ต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือนเป็นปี ถึงตอนนั้นชาวนารอไม่ไหวหรอก
00 ตอนนี้จึงได้เห็นชาวนาในภาคอีสาน ภาคเหนือ เริ่มออกมาประท้วง "ทวงหนี้จากรัฐบาล" มากขึ้น เข้มข้นขึ้นทุกวัน แม้ว่าที่ผ่านมาในฐานะคนกันเองอาจจะยั้งอารมณ์กันบ้าง ขอร้องกันบ้าง แต่เมื่อนอนรอ นอนกอดใบประทวนแบบไม่มีอนาคต มันก็ไม่ไหว อารมณ์ต้อง "ขาดผึง"อยู่แล้ว และเรื่องข้าวนี่แหละจะทำให้เป็นตัวเร่งให้รัฐบาล หมดสภาพได้เร็วขึ้น เพราะไม่มีทางออก จะคืนข้าวให้ชาวนาก็ทำไม่ได้ เพราะไม่มี ถ้ามีก็ "มอด" กินไปเกือบหมดแล้ว บอกได้ว่าจำนำข้าวกำลัง "ล้มละลาย" เต็มรูปแบบแล้ว
00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้เริ่มมีข้าราชการต่างทยอยขึ้นเวที กปปส. เพิ่มขึ้นทุกคืน การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็ไร้ความหมาย ไม่มีใครร่วมมือ เมื่อกองทัพไม่เล่นด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ในฐานะรับอาสาใช้อำนาจ มันจึงไม่ต่างจาก "ตัวตลก" มีแต่คนขบขัน ขนาดผู้ใช้อำนาจยังไม่มีที่อยู่ ไปไหนมีแต่คนไล่ มันก็เศร้าเมือนกันนะ และสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งกอดเก้าอี้ยื้อไปนานเท่าไหร่ก็ "ยิ่งแห้ง" ลง และเมื่อความหวังสุดท้ายที่จะใช้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. สำหรับใช้ "ฟอกตัว" ทำท่าปิดลงอีก มันก็ยิ่งหายนะ เพราะสำหรับ ยิ่งลักษณ์ และระบอบทักษิณ ยิ่งอยู่นานเท่าไหร่ก็ยิ่ง"น่าสังเวช" ดังนั้นถ้าถามว่าหากไม่มีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. คนที่จะ"สติแตก" ก็น่าจะเป็น ยิ่งลักษณ์ กับ ทักษิณ นั่นแหละ เพราะทุกแนวรบกำลังบีบเข้ามา "ฝีแตก" พร้อมกันเร็วเกินคาด อย่าเพิ่งตายไปเสียก่อนล่ะ ไอ้เวลลล์ !!
00 การเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดโดยเฉพาะในภาคใต้ร่วมร้อยเขตต้องปิดลง หลังจากที่กลุ่มมวลชนไปชุมนุม"คัดค้าน" การเลือกตั้ง แน่นอนว่า นี่คืออุปสรรคที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นแล้วว่าพิธีกรรม "ฟอกตัว" ด้วยการเลือกตั้งของระบอบทักษิณ กำลังจะล้มเหลวเต็มขั้น และอย่าได้แปลกใจที่ถึงอย่างไรบรรดา "ขี้ข้าทรราช" ต่างยืนยันหัวเด็ดตีนขาด ราวกับว่าต่อให้มีการฆ่ากันจนเลือดนองแค่ไหนก็ต้องมีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ตามกำหนดให้ได้ เพราะยิ่งนานยิ่งแห้งตายอย่างที่เห็นภาพกันไปแล้ว ต้องยื้อกันจนถึงที่สุด แม้แต่การนัดพบกับประธานกกต. ทางกุนซือ ยิ่งลักษณ์ ก็ขอ "ยื้อ" ไปจนถึงวันที่ 28 ม.ค. อย่างน้อยให้ผ่านเลือกตั้งล่วงหน้า และก่อนวันเลือกตั้งทั่วไปเพียงไม่กี่วัน เพื่อบีบให้ กกต.ไม่มีทางเลือก แต่เชื่อเถอะ ตอนนี้สำหรับมวลมหาประชาชนมันเลยเรื่องเลือกตั้งไปแล้ว เพราะเขาไม่ใช่ต้องการให้เลื่อน แต่ต้องการไล่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และระบอบทักษิณ ให้พ้นไปเดี๋ยวนี้ต่างหาก !!
