ใครสั่งฆ่า“ขวัญชัย ไพรพนา” การเมืองหรือความขัดแย้งส่วนตัว

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-กลายเป็นประเด็นการเมืองร้อนฉ่าขึ้นมาในฉับพลันทันที เมื่อ “ทาสในเรือนเบี้ย” ตระกูลชินวัตร ชื่อ “ขวัญชัย ไพรพนา” หรือนายขวัญชัย สาราคำประธานชมรมคนรักอุดรและประธานชมรมคนรักภาคอีสาน 20 จังหวัดถูกยิงถล่มด้วยปืนอาก้ากว่า 40 นัดคาบ้านพักที่ชื่อว่า “อาณาจักรคนเสื้อแดง” หรือชมรมคนรักอุดร บ้านหนองลีหู ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานีเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา

นางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยาของนายขวัญชัย เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุทุกเช้าตามธรรมดานายขวัญชัย จะมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โซฟาหน้าบ้าน ก่อนเกิดเหตุทราบจากนายขวัญชัยว่า หลังอ่านหนังสือพิมพ์เสร็จ กำลังลุกขึ้นยืนจะไปเข้าห้องน้ำ ก็โดนคนร้ายยิงเข้ามา 3 นัด โดนนายขวัญชัย 2 นัดที่แขนขวา 1 นัดและต้นขาขวาอีก 1 นัด จนล้มหงายลงบนโซฟา แล้วคนร้ายได้ยิงซ้ำรัวเป็นชุด จนสมาชิกชมรมฯเข้ามาช่วย และนำส่งโรงพยาบาลเอกอุดร

ทั้งนี้ แม้นายขวัญชัยจะพ้นขีดอันตรายและปลอดภัยแล้ว แต่ยังคงต้องรอการผ่าตัดบาดแผลแขนขวาที่กระสุนไปตัดเส้นประสาทอีกครั้ง ซึ่งแพทย์แจ้งว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

การก่อเหตุของคนร้ายในครั้งนี้นั้นถือว่าอุกอาจเป็นอย่างมาก เนื่องเพราะนอกจากจะเป็นการลอบสังหารกลางวันแสกๆ แล้ว นายขวัญชัย ไพรพนายังเป็นแกนนำเสื้อแดงคนสำคัญระดับที่สามารถต่อสายตรงถึงนักโทษชายหนีคดีทักษิณ ชินวัตร รวมถึงมีอำนาจล้นฟ้าท่วมแผ่นดินถึงขนาดสามารถชี้นิ้วแต่งตั้งตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เลยทีเดียว ซึ่งนายขวัญชัยเองเคยกล่าวปราศรัยหลายครั้งว่า มีส่วนสำคัญที่จะตัดสินใจในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ภาคอีสาน

ส่วนบันทึกความอหังการ์ที่เชื่อว่าสังคมจดจำได้ดีก็คือกรณีที่นายขวัญชัยนำมวลชนเสื้อแดงบุกทำร้าย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรฯ เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 51 ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกนายขวัญชัย 2 ปี 8 เดือน

คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ นายขวัญชัยถูกยิงด้วยสาเหตุอะไร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายขวัญชัยถูกทำร้ายร่างกาย

หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2550 วันที่ 18 ธันวาคม นายขวัญชัยเคยถูกตีหัวด้วยไม้หน้าสามขณะนั่งทานอาหารในร้านข้าวต้มแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็อยู่รอดปลอดภัยมาได้

ต่อมาวันที่ 22 ธันวาคมปีเดียวกัน มีคนร้ายทุบกระจกและปาขวดน้ำมันจุดไฟเข้ามาในสำนักงานสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ทำให้เครื่องส่งวิทยุเสียหาย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรนายขวัญชัยได้ แถมต่อมายังได้มีการซื้อเครื่องส่งวิทยุเครื่องใหม่ซึ่งสามารถรับฟังได้ทั่วทั้งจังหวัดอุดรธานี

และเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 เกิดเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่สถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดรอีกครั้ง โดยคราวนี้ลูกจ้างของนายขวัญชัยได้รับบาดเจ็บ 1 คน

แน่นอน ประเด็นแรกที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ก็คือ ความขัดแย้งทางการเมือง

ส่วนประเด็นที่สองก็คือ ความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งก็เป็นข้อสันนิษฐานที่ไม่อาจมองข้ามได้

นายสมคิด เชื้อคง ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย วิเคราะห์มูลเหตุเอาไว้ว่าอาจจะมาจาก 2 ปัจจัย คือ 1. การตั้งสินบนนำจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เงิน 5 แสนบาท ทำให้อาจมีคนไม่พอใจเรื่องนี้ และ 2. ปัญหาของกลุ่มคนเสื้อแดงในจังหวัดอุดรธานีกันเอง

อย่างไรก็ดี โดยส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุการลอบยิงมาจากเรื่องส่วนตัวมากกว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่ฉวยโอกาสความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงนี้มาก่อเหตุ เพราะนายขวัญชัยไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และกับคนในพรรคเพื่อไทยก็สนิทกันหมด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า นายขวัญชัยบ่มเพาะความขัดแย้งกับกลุ่มบุคคลหลายกลุ่ม โดยเฉพาะในหมู่เสื้อแดงด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นกรณีเปิดศึกถล่มสหายปูน-นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. อันเป็นผลมาจากเรื่องการจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นนโยบายหลักของนปช. แต่นายขวัญชัยไม่เห็นด้วย เพราะไม่ต้องการให้มีอ้ายอีคนไหนมาโดดเด่นเหนือตัวเอง

รวมถึงกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชมรมคนรักอุดรเองที่สุดท้ายทำให้มีคนเสื้อแดงแยกตัวออกจากนายขวัญชัยไปตั้งกลุ่มใหม่ถึง 2 กลุ่ม ซึ่งต้นสายปลายเหตุมาจากการซื้อที่ดินและอาคารสำนักงานชมรมคนรักอุดรที่นายขวัญชัยโอนให้เป็นชื่อภรรยาของตัวเอง

นอกจากนั้นยังมีความขัดแย้งทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีเอง ซึ่งต่อมาได้ลุกลามบานปลายไปถึงเรื่องของผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวกัน เพราะการที่นายขวัญชัยลำพองตัวว่า เป็นแกนนำที่สามารถชี้นิ้วสั่งการคนเสื้อแดงในพื้นที่ได้ ทำให้เขามีปัญหาขัดแย้งกับกลุ่ม ส.ส.เพื่อไทยในพื้นที่มาอย่างยาวนาน

ล่าสุดนายขวัญชัยถึงกับประกาศผ่านวิทยุชุมชนคนรักอุดรของเขาว่า จะไม่ร่วมงานกับ 3 ส.ส.พรรคเพื่อไทยในจังหวัดอุดรธานีอีกต่อไป

สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนั้น พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า คนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มีผ้าใบปิดอยู่ด้านท้ายกระบะ ขับมาจากสี่แยกสามพร้าว มุ่งหน้าไปทาง ต.สามพร้าว เมื่อถึงประตูทางเข้าอาณาจักรคนเสื้อแดง คนร้ายที่เป็นมือปืนได้ลงจากรถและกราดยิงเข้าไปที่ตัวบ้านของนายขวัญชัย ที่นั่งอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้าน โดยใช้เวลาเพียง 12 วินาที ก่อนจะขับรถหลบหนีไปทางบ้านสามพร้าว เข้าไปทางบ้านสามพร้าว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถหลบหนีได้ 3 เส้นทาง คือ อ.เพ็ญ , อ.พิบูลย์รักษ์ และ อ.หนองหาน โดยตำรวจได้เร่งตั้งด่านสกัดทุกเส้นทาง แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แวว ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม.หรือปืนอาก้า AK.47 จำนวน 42 ปลอกตกอยู่

ขณะที่พ.ต.อ.โกวิทย์ เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก.สภ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คนร้ายต้องได้รับการฝึกการใช้ปืนอาก้ามาอย่างดี เพราะหากไม่ใช่คนที่มีความชำนาญปืนอาก้าแล้วจะไม่สามารถควบคุมการยิงได้แม่นยำ เนื่องจากเป้าสังหารอยู่ห่างไกลถึง 120 เมตรเศษ

ทั้งนี้ ตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยนายขวัญชัยตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งบริเวณประตูทางเข้า หน้าห้องพักฟื้น ตรวจค้นรถทุกคันที่เดินทางเข้ามายังโรงพยาบาลเอกอุดร เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำ

ดังนั้น คงต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไปว่า ต้นเหตุที่แท้จริงของปฏิบัติการสั่งตายนายขวัญชัยในครั้งนี้เกิดจากอะไร และตำรวจจะสามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้หรือไม่