ASTVผู้จัดการรายวัน - ชุมนุมยังยืดเยื้อ กระทบแผนลงทุนจากร้านอาหารญี่ปุ่นมาไทย ปีนี้ส่อแววเปิดสาขาใหม่ลดลง แต่ไทยยังมีโอกาสเห็นนักลงทุนญี่ปุ่นมาเปิดร้านอาหารในไทยทะลุ 3,000 ร้านใน 3-5 ปี พร้อมติดท็อป5ของโลกได้ ส่วนปีนี้คาดทะลุ 2,000 ร้านค้า หรือมีมูลค่ากว่า 48,000 ล้านบาท
นายมิตซุงุ ไซโตะ อัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาทางการเมืองและการชุมนุมที่เกิดขึ้นในไทยในช่วงนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนจากญี่ปุ่นชะลอแผนการลงทุนในไทยออกไปก่อน ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปัญหาน้ำท่วมจนถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มจะยืดเยื้อในครั้งนี้ พบว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุนญี่ปุ่นมีความกังวลเพิ่มขึ้นกว่า 30% แต่ทั้งนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะยกเลิกการลงทุนในระยะยาวในไทยแต่อย่างไร
ด้านนายยาสึมาสะ อาซะอิ ผู้จัดการฝ่ายสาขาประเทศไทย โครงการส่งเสริมร้านอาหารญี่ปุ่นให้แพร่หลายในต่างประเทศ (JRO) กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีกว่า 1,800 ร้าน ภายในเดือนเม.ย. 2557 น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ร้าน โดยจำนวนที่เกิดขึ้นใหม่ 200 ร้านนั้น 50% เป็นเชนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เข้ามาเปิดในไทย และอีก 50% เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดใหม่ ซึ่งต่อเดือนแต่ละร้านจะมีรายได้ประมาณ 2 ล้านบาท หรือทั้งปีนี้คาดว่ามูลค่าร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยจะมีสูงถึง 48,000 ล้านบาท
ในปีที่ผ่านมาการส่งออกสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหารจากญี่ปุ่นมาประเทศไทย ตั้งแต่ม.ค.-พ.ย. 56 มีมูลค่า 31,800 ล้านเยน สูงกว่าสองปีก่อนหน้าที่ปิดอยู่ที่ 26,500 ล้านเยน
อย่างไรก็ตามมองว่าทั้งปีนี้จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นใหม่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหากการชุมนุมยังยืดเยื้อ มั่นใจว่านักลงทุนในญี่ปุ่นอาจจะมีการยกเลิกการลงทุนในไทยออกไป จากปัจจุบันจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก โดยภายใน3-5ปี น่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ร้านได้ และไทยยังมีโอกาสติดท็อป 5 ในอนาคตด้วย จากปัจจุบันอันดับ 1 คือ อเมริกา 15,000 ร้าน อันดับสองคือ จีน มี 4,000 ร้าน และอันดับ3 คือ ไต้หวัน มี 3,000ร้าน
ล่าสุด ทาง JRO ได้จัดงานเทศกาลร้านอาหารญี่ปุ่น 2557 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่1-28 ก.พ.57 ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯรวมกว่า 73ร้าน เช่น ร้าน Yamazato, Nippon tei, Ume no Sato, ZUMA, Sakuragawa, Tsukiji, Gyu Gyu Tei และHachiban Ramen ใช้วัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร ประกอบด้วย ปลาบุริฤดูหนาว จากจังหวัดอิชิคาวะ, เนื้อวัวโอมิ จากจังหวัดชิกะ, สตรอเบอร์รี่อะมะโอ จากจังหวัดไอจิ รวมถึง หอยเชลล์ จากฮอกไกโด, ไข่ปลาแซลมอน จากฮอกไกโด และปลาคัมปาจิ จากจังหวัดเอฮิเมะ เป็นต้น
เทศกาลอาหารญี่ปุ่นครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองที่ อาหารญี่ปุ่น:วัฒนธรรมอาหารแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกเมื่อวันที่ 4 ธ.ค 56 สำหรับโครงการส่งเสริมการเผยแพร่ร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ หรือ JRO ฝ่ายประจำกรุงเทพฯ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ก.ค 50 โดยได้สนับสนุนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยราว 1,000 องค์กร ประมาณ 2,000 ร้านค้า และในปีนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นต่อผู้บริโภคโดยตรง ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯและร้านอาหารที่มีความสนใจในวัตถุดิบญี่ปุ่นทั้งหมด 37 องค์กร 73สาขาได้เข้าร่วมกิจกรรม โดยการนำเข้าวัตถุดิบจากอุตสาหกรรมอาหารและหน่วยงานต่างๆจากกรุงโตเกียว, เมืองคานาซาวะ, เกียวโต และโอซาก้า เป็นต้น
นายมิตซุงุ ไซโตะ อัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาทางการเมืองและการชุมนุมที่เกิดขึ้นในไทยในช่วงนี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนจากญี่ปุ่นชะลอแผนการลงทุนในไทยออกไปก่อน ซึ่งต่อเนื่องมาตั้งแต่ปัญหาน้ำท่วมจนถึงการชุมนุมที่เกิดขึ้นและมีแนวโน้มจะยืดเยื้อในครั้งนี้ พบว่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2556 จนถึงปัจจุบัน นักลงทุนญี่ปุ่นมีความกังวลเพิ่มขึ้นกว่า 30% แต่ทั้งนี้ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะยกเลิกการลงทุนในระยะยาวในไทยแต่อย่างไร
ด้านนายยาสึมาสะ อาซะอิ ผู้จัดการฝ่ายสาขาประเทศไทย โครงการส่งเสริมร้านอาหารญี่ปุ่นให้แพร่หลายในต่างประเทศ (JRO) กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยมีกว่า 1,800 ร้าน ภายในเดือนเม.ย. 2557 น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ร้าน โดยจำนวนที่เกิดขึ้นใหม่ 200 ร้านนั้น 50% เป็นเชนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เข้ามาเปิดในไทย และอีก 50% เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่เปิดใหม่ ซึ่งต่อเดือนแต่ละร้านจะมีรายได้ประมาณ 2 ล้านบาท หรือทั้งปีนี้คาดว่ามูลค่าร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยจะมีสูงถึง 48,000 ล้านบาท
ในปีที่ผ่านมาการส่งออกสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบเกี่ยวกับอาหารจากญี่ปุ่นมาประเทศไทย ตั้งแต่ม.ค.-พ.ย. 56 มีมูลค่า 31,800 ล้านเยน สูงกว่าสองปีก่อนหน้าที่ปิดอยู่ที่ 26,500 ล้านเยน
อย่างไรก็ตามมองว่าทั้งปีนี้จำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นใหม่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลง จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และหากการชุมนุมยังยืดเยื้อ มั่นใจว่านักลงทุนในญี่ปุ่นอาจจะมีการยกเลิกการลงทุนในไทยออกไป จากปัจจุบันจำนวนร้านอาหารญี่ปุ่นในไทยอยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก โดยภายใน3-5ปี น่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ร้านได้ และไทยยังมีโอกาสติดท็อป 5 ในอนาคตด้วย จากปัจจุบันอันดับ 1 คือ อเมริกา 15,000 ร้าน อันดับสองคือ จีน มี 4,000 ร้าน และอันดับ3 คือ ไต้หวัน มี 3,000ร้าน
ล่าสุด ทาง JRO ได้จัดงานเทศกาลร้านอาหารญี่ปุ่น 2557 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่1-28 ก.พ.57 ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในกรุงเทพฯรวมกว่า 73ร้าน เช่น ร้าน Yamazato, Nippon tei, Ume no Sato, ZUMA, Sakuragawa, Tsukiji, Gyu Gyu Tei และHachiban Ramen ใช้วัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร ประกอบด้วย ปลาบุริฤดูหนาว จากจังหวัดอิชิคาวะ, เนื้อวัวโอมิ จากจังหวัดชิกะ, สตรอเบอร์รี่อะมะโอ จากจังหวัดไอจิ รวมถึง หอยเชลล์ จากฮอกไกโด, ไข่ปลาแซลมอน จากฮอกไกโด และปลาคัมปาจิ จากจังหวัดเอฮิเมะ เป็นต้น
เทศกาลอาหารญี่ปุ่นครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองที่ อาหารญี่ปุ่น:วัฒนธรรมอาหารแบบดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่นได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกเมื่อวันที่ 4 ธ.ค 56 สำหรับโครงการส่งเสริมการเผยแพร่ร้านอาหารญี่ปุ่นในต่างประเทศ หรือ JRO ฝ่ายประจำกรุงเทพฯ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ก.ค 50 โดยได้สนับสนุนร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยราว 1,000 องค์กร ประมาณ 2,000 ร้านค้า และในปีนี้เพื่อเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นต่อผู้บริโภคโดยตรง ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯและร้านอาหารที่มีความสนใจในวัตถุดิบญี่ปุ่นทั้งหมด 37 องค์กร 73สาขาได้เข้าร่วมกิจกรรม โดยการนำเข้าวัตถุดิบจากอุตสาหกรรมอาหารและหน่วยงานต่างๆจากกรุงโตเกียว, เมืองคานาซาวะ, เกียวโต และโอซาก้า เป็นต้น