ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 2ก.พ.57 เริ่มต้นแค่ขั้นตอนการรับสมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ก็เป็นไปด้วยความทุลักทุเล กว่าจะจับสลากเบอร์พรรคได้ก็ต้องใช้แก๊สน้ำตา ถล่มใส่กลุ่มผู้คัดค้าน ที่ยังไม่เห็นด้วยที่จะมีการเลือกตั้งในบรรยากาศการเมืองเช่นนี้
เนื่องเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ในอดีตเมื่อการเมืองมีปัญหา หรือมาถึงทางตัน หลังจากมีพ.ร.ฎ.ยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ บรรดาพรรคการเมืองต่างก็หันหน้าไปเตรียมตัวหาเสียงเลือกตั้ง แล้วปัญหาต่างๆก็พักไป หรือจบไป
แต่ครั้งนี้ มวลชนฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ และเป็นชนชั้นกลาง เห็นว่าการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ไม่ใช่แนวทางการแก้ปัญหาความขัดแย้ง ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ
เพราะถ้าเลือกตั้งด้วยกฎ กติกาเดิมๆ ที่เต็มไปด้วยการซื้อเสียง การใช้ช่องโหว่ของกฎหมายกระทำการทุจริต การใช้อิทธิพลของข้าราชการระดับสูงไปกดดัน บีบบังคับ สุดท้ายก็จะได้นักการเมืองหน้าเก่าๆ กลุ่มเดิมๆ เข้ามาเสวยอำนาจ หาผลประโยชน์ ปล้นชาติปล้นแผ่นดินอีก
จึงเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปกฎ กติกาการเลือกตั้ง ปฏิรูประบบราชการ อุดช่องโหว เพื่อขจัดปัญหาทุจริต ซื้อเสียง ให้มีความเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง
ขณะที่ฝ่ายรัฐบาล ก็พยายามเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง หวังจะใช้กลไกเดิมๆ ทั้งแผนประชานิยม ใช้ข้าราชการข่มขู่ ซื้อเสียง ซื้อพรรค เพื่อกลับเข้าสู่อำนาจอีกครั้ง พร้อมกับข้ออ้างว่า เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็เดินหน้าจัดการเลือกตั้ง โดยอ้างว่าต้องปฏิบัติตามหน้าที่ให้การดำเนินการเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มิฉะนั้นจะถูกฝ่ายที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ฟ้องร้องในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจ และสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่า แม้จะผ่านขั้นตอนการรับสมัครไปได้ แต่เมื่อถึงวันเลือกตั้งจริง ก็คงต้องถูกขัดขวางทุกวิถีทาง ที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่สำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็นการไปล้อม ไปล็อกตัวกรรมการประจำหน่วย ล้อมหน่วยเลือกตั้ง ทำให้เกิดความเสียหายของอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ขโมยหีบบัตร ฉีกบัตรเลือกตั้ง ขัดขวางการนับคะแนน เกิดขึ้นแน่ในการเลือกตั้งครั้งนี้
หรือถ้า กกต.สามารถจัดการให้การเลือกตั้งสำเร็จลงได้ แต่สังคมก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้อยู่ดี เพราะคนชั้นกลางของสังคม ซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ที่เคยศรัทธา เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย กำลังไม่เชื่อว่าการเลือกตั้งจะเป็นคำตอบ ในการแก้ปัญหาการเมือง และได้คัดค้านการเลือกตั้งมาตั้งแต่ต้น
สุดท้ายแล้วการเลือกตั้งครั้งนี้ มีก็เหมือนไม่มี และที่คาดหวังว่าจะแก้ปัญหาให้กับบ้านเมืองได้ กลับจะยิ่งสร้างปัญหาความขัดแย้ง แตกแยกรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ดังนั้น กกต. จึงมีมติเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. 57 ออกไปก่อน เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่ส่งสัญญาณไปยังผู้มีส่วนรับผิดชอบแล้วว่าอาจจะเกิดขึ้นได้อีก และยิ่งจะทวีความรุนแรง หากยังเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป จนอาจเป็นเหตุให้เกิดความไม่สงบ โกลาหล จลาจล และสูญเสียเลือดเนื้อของประชาชนได้