00 ปลายปี 56 ต่อเนื่องปี 57 ไปเรื่อยๆ ถือว่าเป็นปี "กรรมสนอง" ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว และที่สำคัญก็คือพวกเขาก็คาดไม่ถึงว่าต้อง "มีสภาพแบบนี้" ใครจะนึกว่า ก่อนหน้านั้นไม่นานถือว่ามีอำนาจเต็มมือ มีทรัพย์สินเงินทองที่ทุจริตคดโกงบ้านเมืองตุนเอาไว้เต็มกระเป๋า ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ทุน เรียกว่าถนนทุกสายล้วนวิ่งเข้าหาครอบครัวนี้ทั้งนั้น แต่เพียงชั่วข้ามคืน ทุกอย่างกลับพลิกผันกลายเป็นคนละเรื่องชนิดที่เรียกว่าเจ้าตัวคงไม่อยากจะเชื่อ ยังนึกว่า นี่คือฝันร้าย ยังไม่ใช่ความจริง
00 แต่ถึงอย่างไรความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ เพราะเวลานี้มวลมหาประชาชนกำลังลุกฮือ ขับไล่ "ครอบครัวทักษิณ" กันแบบไม่ยอมให้อยู่เป็นสุขอีกต่อไป เพราะเมื่อเป็นการ "ตื่นรู้" แบบหยั่งรากลึก และขยายวงออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่ควบคุมกลไกรัฐ คุมสื่อเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็เอาไม่อยู่ จะเป็นเพราะตัวเองสร้างภาพ "ทันสมัย" ว่า "เป็นอัศวิน" แบบตาดูดาวอะไรนั่น เพราะร่ำรวยมาจาก"สัมปทานผูกขาดดาวเทียม" ขายคลื่นในอากาศจนร่ำรวย แต่มาวันนี้คงคาดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่กลับกลายเป็น "หอก" ทิ่มแทงตัวเองและคนในครอบครัวโดยเฉพาะรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวตัวเอง ที่กลายเป็น"หุ่นเชิด" กลายเป็นว่าโลก "โชเชียลเน็ตเวิร์ค" กลายเป็นสื่อที่คอยเปิดโปง "ประจานความห่วย" ของตัวเองอย่างได้ผล และ "มีวันนี้" ที่คาดไม่ถึง
00 ถ้าหากวิเคราะห์กันแบบ"ไม่ซับซ้อน"อะไรมากนัก สาเหตุที่เกิด "มวลมหาประชาชน" พร้อมใจกันออกมาขับไล่ "ระบอบทักษิณ" กันอย่างที่เห็นแบบต่อเนื่อง ไม่มีแผ่ว มันก็ต้องเริ่มต้นจาก "ความห่วย" ไร้ประสิทธิภาพในการบริหาร ทำข้าวของแพง เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า นี่ถ้าวันนี้รัฐบาลบริหารแบบมีผลงาน "สร้างรายได้เพิ่ม" ขึ้นจริง เชื่อว่าแม้จะโกง แต่คนที่ตื่นตัวออกมาไล่แบบนี้คงมีจำนวนไม่มากนัก แต่เมื่อทุกเรื่องมันประดังเข้ามาพร้อมกัน นั่นคือ "ทั้งห่วย ทั้งเห็นแก่ตัว" ไม่ควรค่าแก่การโอบอุ้ม มันจึงได้เห็น "สหบาทา" รุมสกรัมกันเข้ามาแบบที่คาดไม่ถึง ว่าสังคมได้สะสมความโกรธจนปะทุออกมากลายเป็นจุดเดือดอย่างที่เห็น และปรากฏการณ์แบบนี้ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นนอกจาก "ต้องไปสถานเดียว" หนทางข้างหน้าปิดทุกทาง เพราะขนาดคิดจะใช้มุกเดิมคือ ใช้เลือกตั้งเข้ามาใหม่ชาวบ้านก็รู้ทัน ไม่ยอมอีก ดังนั้นมองไม่ออกจริงๆว่า คนในครอบครัวนี้จะใช้ชีวิตปกติอย่างไร
00 นาทีนี้ จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีความหมายแล้ว รวมไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะดันทุรังรักษาการนายกฯ ต่อไปหรือไม่ เพราะถ้ายังอยู่ก็จะต้องเจอกับเสียงขับไล่ทั่วทุกแห่ง อยู่ไม่เป็นสุข ไม่มีใครยอมรับ ธรรมดาบริหารห่วยแตก "สุนัขไม่รับประทาน" อยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสภาพที่บริหารไม่ได้ ไม่มีใครยอมรับสมทบเข้าไปอีก มันเป็นชะตากรรมที่ "แสนทุเรศจริงๆ" แต่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ บางทีเธออาจไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มิหนำซ้ำ การที่คนออกมามากๆเธออาจไม่รู้ว่าเป็นการออกมาขับไล่ก็เป็นได้ เพราะสติปัญญาเท่าที่เห็นมามันก็เป็นไปได้เหมือนกัน
00 ชี้ช่องทางเป็นได้ย้ำกันอีกครั้งจากปากของ "กูรูกฎหมาย" อย่าง มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่บอกว่า "เลื่อนเลือกตั้ง" ทำได้ และเคยทำมาแล้ว และฝ่ายที่เสนอให้เลื่อนได้ก็คือ กกต.นั่นแหละ โดยอ้างสาเหตุตามความเป็นจริง คือ "สุดวิสัย" ทำได้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างเลื่อนหรือไม่เลื่อน "ก็เรื่องของเมิง" เพราะชาวบ้านเขาไม่สนใจ"พิธีกรรมโจร" อยู่แล้ว แต่หากเกิดอะไรขึ้น กกต.ก็ต้องรับผิดชอบ และพูดก็พูดเถอะ กกต.ชุดนี้กลายเป็นว่า "ไม่น่าไว้วางใจ" ตั้งแต่ต้นมือกันเลยทีเดียว
00 มองในมุมน่าสมเพชก็อาจจะได้ สำหรับ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดี ดีเอสไอ กับอาการรับใช้ทรราชกันแบบ"บ้าคลั่ง" ซึ่งในมุมนี้ก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะรู้ว่าถ้า ยิ่งลักษณ์ ไป ธาริต ก็ต้องไปด้วย เที่ยวนี้ไม่มีทางเลือก อย่างคราวก่อนอาจตบตาได้ว่า รับใช้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนกับพวกเสื้อแดง แต่ที่ไหนได้ นั่นคือการเอาตัวรอดอำพรางตัวเอง เพราะเมื่อเปลี่ยนขั้วอำนาจใหม่ ทุกอย่างก็เปิดหน้าออกมาหมดเปลือก ไม่มีทางออกไปทางไหนนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว ดังนั้นก็ต้อง"สุดซอย" อย่างที่เห็นแบบนี้แหละ ซึ่งชะตากรรมก็ไม่ต่างอะไรกับ "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" และ "อดุลย์ แสงสิงแก้ว"หรอก กำลังจะไปเพราะ "พี่เอี้ย" เหมือนกัน ทุด !!
00 แต่ถึงอย่างไรความจริงก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำ เพราะเวลานี้มวลมหาประชาชนกำลังลุกฮือ ขับไล่ "ครอบครัวทักษิณ" กันแบบไม่ยอมให้อยู่เป็นสุขอีกต่อไป เพราะเมื่อเป็นการ "ตื่นรู้" แบบหยั่งรากลึก และขยายวงออกไปเรื่อยๆ ทั้งที่ควบคุมกลไกรัฐ คุมสื่อเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็เอาไม่อยู่ จะเป็นเพราะตัวเองสร้างภาพ "ทันสมัย" ว่า "เป็นอัศวิน" แบบตาดูดาวอะไรนั่น เพราะร่ำรวยมาจาก"สัมปทานผูกขาดดาวเทียม" ขายคลื่นในอากาศจนร่ำรวย แต่มาวันนี้คงคาดไม่ถึงเช่นเดียวกันว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่กลับกลายเป็น "หอก" ทิ่มแทงตัวเองและคนในครอบครัวโดยเฉพาะรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวตัวเอง ที่กลายเป็น"หุ่นเชิด" กลายเป็นว่าโลก "โชเชียลเน็ตเวิร์ค" กลายเป็นสื่อที่คอยเปิดโปง "ประจานความห่วย" ของตัวเองอย่างได้ผล และ "มีวันนี้" ที่คาดไม่ถึง
00 ถ้าหากวิเคราะห์กันแบบ"ไม่ซับซ้อน"อะไรมากนัก สาเหตุที่เกิด "มวลมหาประชาชน" พร้อมใจกันออกมาขับไล่ "ระบอบทักษิณ" กันอย่างที่เห็นแบบต่อเนื่อง ไม่มีแผ่ว มันก็ต้องเริ่มต้นจาก "ความห่วย" ไร้ประสิทธิภาพในการบริหาร ทำข้าวของแพง เดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า นี่ถ้าวันนี้รัฐบาลบริหารแบบมีผลงาน "สร้างรายได้เพิ่ม" ขึ้นจริง เชื่อว่าแม้จะโกง แต่คนที่ตื่นตัวออกมาไล่แบบนี้คงมีจำนวนไม่มากนัก แต่เมื่อทุกเรื่องมันประดังเข้ามาพร้อมกัน นั่นคือ "ทั้งห่วย ทั้งเห็นแก่ตัว" ไม่ควรค่าแก่การโอบอุ้ม มันจึงได้เห็น "สหบาทา" รุมสกรัมกันเข้ามาแบบที่คาดไม่ถึง ว่าสังคมได้สะสมความโกรธจนปะทุออกมากลายเป็นจุดเดือดอย่างที่เห็น และปรากฏการณ์แบบนี้ ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นนอกจาก "ต้องไปสถานเดียว" หนทางข้างหน้าปิดทุกทาง เพราะขนาดคิดจะใช้มุกเดิมคือ ใช้เลือกตั้งเข้ามาใหม่ชาวบ้านก็รู้ทัน ไม่ยอมอีก ดังนั้นมองไม่ออกจริงๆว่า คนในครอบครัวนี้จะใช้ชีวิตปกติอย่างไร
00 นาทีนี้ จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีความหมายแล้ว รวมไปถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะดันทุรังรักษาการนายกฯ ต่อไปหรือไม่ เพราะถ้ายังอยู่ก็จะต้องเจอกับเสียงขับไล่ทั่วทุกแห่ง อยู่ไม่เป็นสุข ไม่มีใครยอมรับ ธรรมดาบริหารห่วยแตก "สุนัขไม่รับประทาน" อยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสภาพที่บริหารไม่ได้ ไม่มีใครยอมรับสมทบเข้าไปอีก มันเป็นชะตากรรมที่ "แสนทุเรศจริงๆ" แต่สำหรับ ยิ่งลักษณ์ บางทีเธออาจไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร มิหนำซ้ำ การที่คนออกมามากๆเธออาจไม่รู้ว่าเป็นการออกมาขับไล่ก็เป็นได้ เพราะสติปัญญาเท่าที่เห็นมามันก็เป็นไปได้เหมือนกัน
00 ชี้ช่องทางเป็นได้ย้ำกันอีกครั้งจากปากของ "กูรูกฎหมาย" อย่าง มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่บอกว่า "เลื่อนเลือกตั้ง" ทำได้ และเคยทำมาแล้ว และฝ่ายที่เสนอให้เลื่อนได้ก็คือ กกต.นั่นแหละ โดยอ้างสาเหตุตามความเป็นจริง คือ "สุดวิสัย" ทำได้อยู่แล้ว แต่ถึงอย่างเลื่อนหรือไม่เลื่อน "ก็เรื่องของเมิง" เพราะชาวบ้านเขาไม่สนใจ"พิธีกรรมโจร" อยู่แล้ว แต่หากเกิดอะไรขึ้น กกต.ก็ต้องรับผิดชอบ และพูดก็พูดเถอะ กกต.ชุดนี้กลายเป็นว่า "ไม่น่าไว้วางใจ" ตั้งแต่ต้นมือกันเลยทีเดียว
00 มองในมุมน่าสมเพชก็อาจจะได้ สำหรับ "ธาริต เพ็งดิษฐ์" อธิบดี ดีเอสไอ กับอาการรับใช้ทรราชกันแบบ"บ้าคลั่ง" ซึ่งในมุมนี้ก็น่าเห็นใจเหมือนกัน เพราะรู้ว่าถ้า ยิ่งลักษณ์ ไป ธาริต ก็ต้องไปด้วย เที่ยวนี้ไม่มีทางเลือก อย่างคราวก่อนอาจตบตาได้ว่า รับใช้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนกับพวกเสื้อแดง แต่ที่ไหนได้ นั่นคือการเอาตัวรอดอำพรางตัวเอง เพราะเมื่อเปลี่ยนขั้วอำนาจใหม่ ทุกอย่างก็เปิดหน้าออกมาหมดเปลือก ไม่มีทางออกไปทางไหนนอกเหนือจากนี้อีกแล้ว ดังนั้นก็ต้อง"สุดซอย" อย่างที่เห็นแบบนี้แหละ ซึ่งชะตากรรมก็ไม่ต่างอะไรกับ "คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" และ "อดุลย์ แสงสิงแก้ว"หรอก กำลังจะไปเพราะ "พี่เอี้ย" เหมือนกัน ทุด !!
