อดีต ปธ.วุฒิฯ ไขเจตนารมณ์ รธน.มาตรา 7 ย้ำนายกฯ-คณะรัฐมนตรีรักษาการลาออกได้ไม่มี กม.ห้าม เหน็บที รธน.ระบุชัดคำสั่งศาลผูกพันทุกองค์กร ยังแถลงไม่ยอมรับ พออยากอยู่ในตำแหน่งต่อถึงกับเถรตรงแปลรัฐธรรมนูญ ม.181 ผูกมัดไม่ให้ตัวเองลาออกจากตำแหน่งเชียวหรือ
วันนี้ (12 ธ.ค.) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานรัฐสภาและประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ตอบคำถามในเว็บไซต์ “มีชัยดอทคอม” เกี่ยวกับข้อสงสัยทางกฎหมายว่า นายกรัฐมนตรีลาออกในระหว่างรักษาการได้หรือไม่ โดยมีรายละเอียดของคำถามและคำตอบดังนี้
“คำถาม - เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 คืออะไร - มาตรา 7 จะใช้ได้เมื่อได้ และขอบเขตการใช้อยู่ที่สถานการณ์ หรือบริบทแบบไหน พระราชดำรัส 25 เม.ย. 2549 จะเป็นบรรทัดฐานของการใช้หรือไม่ใช้ มาตรา 7 ไหม
คำตอบ - มาตรา 7 ของรัฐธรรมนูญเขียนไว้สำหรับกรณีที่เกิดเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ไม่มีบทบัญญัติเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่าจะให้ทำอย่างไร ก็ให้ทำไปตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่น ในกรณีมีการยุบสภา รัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติรองรับไว้ว่า จะต้องทำอย่างไรกันต่อไป กล่าวคือ กำหนดให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งให้อยู่รักษาการต่อไป ก็ต้องรักษาการต่อไป จะไปใช้มาตรา 7 ก็ไม่ได้ เพราะเป็นกรณีที่มีบทบัญญัติไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีเกิดตายไป หรือง่อยเปลี้ยเสียขา หรือเบื่อขี้หน้าเต็มทีไม่อยากอยู่รักษาการต่อไป ลาออกเสียดื้อๆ ก็มีกฎหมายรองรับว่า รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งก็ขึ้นรักษาการต่อไป อย่างนี้ก็นำมาตรา 7 มาใช้บังคับไม่ได้อีก
แต่ถ้านายกรัฐมนตรี ตาย หรือง่อยเปลี้ยเสียขา หรือเบื่อขี้หน้าขึ้นมาพร้อมๆ กับรัฐมนตรีคนอื่นๆ จนไม่มีใครเหลืออยู่ สภาผู้แทนก็ไม่มีแล้ว เพราะยุบไปแล้ว อย่างนี้ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตราใดบอกไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ตามประเพณีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข บ้านเมืองจะต้องมีคณะรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง ก็ต้องหาทางตั้งคณะรัฐมนตรีขึ้นมาบริหารประเทศให้จงได้ เหลือองค์กรอำนาจอะไร ก็ต้องใช้องค์กรอำนาจนั้นเท่าที่มีอยู่เพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้
ที่มีคนบอกว่าในระหว่างรักษาการนั้นลาออกไม่ได้น่ะ น่าจะเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
การลาออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ถ้าไม่อยากอยู่ในตำแหน่งอะไร ก็ไม่มีใครบังคับให้ต้องอยู่ต่อไปได้ ขนาดคนเป็นข้าราชการตำแหน่งเล็กๆ น้อยๆ วันดีคืนดีไม่อยากเป็นข้าราชการต่อไปจะลาออกเสียเมื่อไรก็ได้ อย่างมากที่ทางราชการจะทำได้ ก็คือ การยับยั้ง ซึ่งก็ทำได้เพียงชั่วคราวไม่เกินสามเดือน หลังจากนั้นก็ต้องยอมให้เขาออกไป แต่ตำแหน่งรัฐมนตรีไม่มีกฎหมายอะไรบังคับไว้ว่าใครจะยับยั้งได้ บทบัญญัติที่ให้รักษาการกันอยู่ต่อไปน่ะ ใช้เฉพาะกรณีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะเท่านั้น ไม่ได้ใช้กับกรณีที่ต่างคนต่างทยอยลาออกหรือล้มหายตายจากไป อย่าว่าแต่เรื่องลาออกเลย ถ้าในระหว่างรักษาการ เกิดมีรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งทำทุจริตคิดมิชอบเสียจนรับต่อไปไม่ได้ หรือเกิดเบื่อขี้หน้าขึ้นมานายกฯก็ยังมีอำนาจกราบบังคมทูลเพื่อเอาออกจากตำแหน่งเสียได้ มิใช่หรือ
ก็ทีรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ในมาตรา 126 ชัดๆ ว่า “คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ” ยังมีรัฐมนตรีออกมาแถลงอย่างโจ่งแจ้งว่าไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้ แล้วพอมาตรา 181 บัญญัติว่า “คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” ถึงกับจะยอมผูกมัดจนแปลไปว่าลาออกก็ไม่ได้ทีเดียวหรือ”