ASTVผู้จัดการรายวัน - ครม.รักษาการขยายเวลาเว้นเก็บภาษีดีเซลต่อไปอีก 1 เดือน "ทนุศักดิ์" เผย กกต.รับทราบ และเตรียมเสนอ กกต.ครั้งต่อไป ขอใช้ต่อเนื่องอีก 3 เดือน ขณะที่ "โต้ง" ซัด "กรณ์" ไม่ให้ลดดีเซล แค่ประโยชน์ทางการเมือง
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังต่ออายุมาตราการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่มาตรการนี้จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2556 ไปเป็นหมดอายุในวันที่ 31 ม.ค. 2557 โดยการอายุมาตรครั้งนี้ได้มีการแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบแล้ว และในครั้งต่อไป ครม.จะแจ้งให้ กกต.รับทราบเพื่อขอใช้มาตรการนี้ในระยะเวลา 3 เดือนต่อเนื่อง คือตั้งแต่เดือน ก.พ. - เม.ย. 2557 เพื่อให้ครอบคลุมช่วงเวลาในการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่
"มาตราการต่ออายุการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเป็นมาตรการต่อเนื่องที่มีความจำเป็นเนื่องจากปัจจุบันมีการใช้น้ำมันดีเซลในภาคขนส่งเป็นจำนวนมากและหากไม่มีมาตรการนี้ราคาน้ำมันดีเซลอาจจะปรับเพิ่มจาก 29.99 บาทต่อลิตร ไปเป็น 40 บาทต่อลิตร และจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนได้" นายทนุศักดิ์ กล่าวและว่า การใช้มาตรการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเป็นเวลา 1 เดือนจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 9000 ล้านบาท
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่ามาตรการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เป็นมาตรการต่อเนื่องที่มีความจำเป็นในการดูแลค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งตนก็เคยได้เสนอกับ ครม.ว่าควรจะมีการพิจารณาต่ออายุมาตรการนี้ทุกๆ 6 เดือน โดยหากกลัวว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงและไม่มีความจำเป็นต้องยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ครม.ก็สามารถมีมติยกเลิกมาตรการนี้ได้
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้ตนเห็นข่าว นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่ต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งอนุมัติให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการลดภาษีดีเซล ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอดเป็นรายเดือน เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่ไม่นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่อาจจะต้องจ่ายค่าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นถึงลิตรละ 10 บาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง และส่งผลไปยังต้นทุนสินค้าและบริการจำนวนมากที่ จะเพิ่มสูงขึ้น.
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังต่ออายุมาตราการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลออกไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่มาตรการนี้จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2556 ไปเป็นหมดอายุในวันที่ 31 ม.ค. 2557 โดยการอายุมาตรครั้งนี้ได้มีการแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับทราบแล้ว และในครั้งต่อไป ครม.จะแจ้งให้ กกต.รับทราบเพื่อขอใช้มาตรการนี้ในระยะเวลา 3 เดือนต่อเนื่อง คือตั้งแต่เดือน ก.พ. - เม.ย. 2557 เพื่อให้ครอบคลุมช่วงเวลาในการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาลใหม่
"มาตราการต่ออายุการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเป็นมาตรการต่อเนื่องที่มีความจำเป็นเนื่องจากปัจจุบันมีการใช้น้ำมันดีเซลในภาคขนส่งเป็นจำนวนมากและหากไม่มีมาตรการนี้ราคาน้ำมันดีเซลอาจจะปรับเพิ่มจาก 29.99 บาทต่อลิตร ไปเป็น 40 บาทต่อลิตร และจะส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนได้" นายทนุศักดิ์ กล่าวและว่า การใช้มาตรการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตดีเซลเป็นเวลา 1 เดือนจะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 9000 ล้านบาท
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่ามาตรการเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล เป็นมาตรการต่อเนื่องที่มีความจำเป็นในการดูแลค่าครองชีพของประชาชน ซึ่งตนก็เคยได้เสนอกับ ครม.ว่าควรจะมีการพิจารณาต่ออายุมาตรการนี้ทุกๆ 6 เดือน โดยหากกลัวว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงและไม่มีความจำเป็นต้องยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ครม.ก็สามารถมีมติยกเลิกมาตรการนี้ได้
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กว่า วันนี้ตนเห็นข่าว นายกรณ์ จาติกวณิช ไม่ต้องการให้คณะกรรมการการเลือกตั้งอนุมัติให้รัฐบาลต่ออายุมาตรการลดภาษีดีเซล ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตลอดเป็นรายเดือน เพียงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่ไม่นึกถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่อาจจะต้องจ่ายค่าน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นถึงลิตรละ 10 บาท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง และส่งผลไปยังต้นทุนสินค้าและบริการจำนวนมากที่ จะเพิ่มสูงขึ้น.
