วานนี้ (23 ธ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.ท.ไพบูลย์ แก้วมณี พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้คุมตัวนายธีรภัทร หรือเจมส์ ทองฤทธิ์ ชาว จ.ตรัง อายุ 20 ปี และนายนพดล หรือเยน แก้วมีจีน ชาว จ.นครศรีธรรมราช อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นมายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรก
โดยคำร้องระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. 2556 เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่พลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาร่วมชุมนุมกับ นปช.อยู่ที่บริเวณด้านหลัง ม.รามคำแหง กระทั่งเวลา 02.00 น. พลทหารธนะสิทธิ์ถูกคนร้ายยิงจำนวน 1 นัด เข้าที่ขมับขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ซอยรามคำแหง 24 แยก 14 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ภายหลังนายสนิท เวียงคำ บิดาผู้ตายจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก กระทั่งทราบว่าพลทหารธนะสิทธิ์ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าร้านอิ่มตั้ม @ รื่นรมย์ ซอยรามคำแหง 24 (หลัง ม.รามคำแหง) พร้อมทั้งตรวจวิถีกระสุน และหัวกระสุนที่ตกภายในร้านใกล้เคียงกับร้านอิ่มตั้มพบว่า กระสุนถูกยิงมาจากห้อง 415 อาคารจินดาแมนชั่น 2 โดยไม่มีผู้เช่าห้อง แต่ระเบียงติดกับห้อง 414 จึงขอศาลอนุมัติหมายค้น พบว่าบริเวณระเบียงหลังห้องมีรอยเท้าข้ามไปห้อง 415 และมีเขม่าดินปืนติดอยู่ที่ผนังห้องด้วย
ต่อมาตรวจสอบทราบว่าห้องพัก 414 ดังกล่าวมีนายเขม จันทร์สุข เป็นเจ้าของพักอาศัย และพบว่าเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2556 หลังเที่ยงคืน นายธีรภัทร ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งพักที่ห้อง 458 ถือปืนลูกโม่ ขนาด .38 มากับนายนพดล ผู้ต้องหาที่ 2 เพื่อขอปีนระเบียงไปที่ห้อง 415 จากนั้นนายเขม ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5-6 นัด เมื่อมองออกไปพบว่ามีกลุ่ม นปช.ถูกยิงล้มลงและผู้ต้องหาทั้งสองได้ออกจากห้องไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอาญา อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2556 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ 371 และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.น.4 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำฟ้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านประกันตัว ระบุเนื่องจากรอสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจพิมพ์มือผู้ต้องหา รวมทั้งการตรวจพิสูจน์อาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ และกุญแจห้องพักของกลาง และหากให้ประกันตัว เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงขออำนาจศาลฝากขัง เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2556 - 3 ม.ค. 2557
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
โดยคำร้องระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. 2556 เวลาประมาณ 21.30 น. ขณะที่พลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) มาร่วมชุมนุมกับ นปช.อยู่ที่บริเวณด้านหลัง ม.รามคำแหง กระทั่งเวลา 02.00 น. พลทหารธนะสิทธิ์ถูกคนร้ายยิงจำนวน 1 นัด เข้าที่ขมับขวาได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ซอยรามคำแหง 24 แยก 14 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ภายหลังนายสนิท เวียงคำ บิดาผู้ตายจึงเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก กระทั่งทราบว่าพลทหารธนะสิทธิ์ถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณหน้าร้านอิ่มตั้ม @ รื่นรมย์ ซอยรามคำแหง 24 (หลัง ม.รามคำแหง) พร้อมทั้งตรวจวิถีกระสุน และหัวกระสุนที่ตกภายในร้านใกล้เคียงกับร้านอิ่มตั้มพบว่า กระสุนถูกยิงมาจากห้อง 415 อาคารจินดาแมนชั่น 2 โดยไม่มีผู้เช่าห้อง แต่ระเบียงติดกับห้อง 414 จึงขอศาลอนุมัติหมายค้น พบว่าบริเวณระเบียงหลังห้องมีรอยเท้าข้ามไปห้อง 415 และมีเขม่าดินปืนติดอยู่ที่ผนังห้องด้วย
ต่อมาตรวจสอบทราบว่าห้องพัก 414 ดังกล่าวมีนายเขม จันทร์สุข เป็นเจ้าของพักอาศัย และพบว่าเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2556 หลังเที่ยงคืน นายธีรภัทร ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งพักที่ห้อง 458 ถือปืนลูกโม่ ขนาด .38 มากับนายนพดล ผู้ต้องหาที่ 2 เพื่อขอปีนระเบียงไปที่ห้อง 415 จากนั้นนายเขม ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 5-6 นัด เมื่อมองออกไปพบว่ามีกลุ่ม นปช.ถูกยิงล้มลงและผู้ต้องหาทั้งสองได้ออกจากห้องไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขอศาลอาญา อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2556 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และ 371 และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน พ.ศ. 2490 กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.น.4 ติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำฟ้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านประกันตัว ระบุเนื่องจากรอสอบปากคำพยานอีก 10 ปาก และรอผลการตรวจพิมพ์มือผู้ต้องหา รวมทั้งการตรวจพิสูจน์อาวุธปืน โทรศัพท์มือถือ และกุญแจห้องพักของกลาง และหากให้ประกันตัว เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี จึงขออำนาจศาลฝากขัง เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2556 - 3 ม.ค. 2557
ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
