“ถาวร เสนเนียม” นำมวลชน กปปส.ตบเท้าบุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทวงถามความคืบหน้าคดีฆ่านักศึกษา ม.รามฯ จากเหตุการณ์ความวุ่นวายวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา หวั่นสองมาตรฐาน ด้านรอง ผบ.ตร.ยืนยันคดีนี้ไม่จับแพะ ไม่มีมวยล้มต้มคนดู พร้อมจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว
วันนี้ (18 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 10.40 น. นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. พร้อมด้วยมวลชนประมาณ 200-300 คน ได้เดินทางมายังด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ.พระราม 1 เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดี นายธีรศักดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษา ม.รามคำแหง ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ความวุ่นวาย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศมวลชนที่เดินทางมาต่างเป่านกหวีดซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการชุมนุมที่สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ รวมถึงเขย่ามือตบ โดยแกนนำได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของตำรวจ โดย พล.ต.อนุชา รมยะนันท์ ผู้บังคับการกองสารนิเทศ ในฐานะรองโฆษก ศอ.รส.ออกมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม พร้อมเชิญนายถาวร เข้ามายื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. โดย พล.ต.อ.เอก ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่ตอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากว่าจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวมีใจความว่า ขณะนี้เวลาล่วงเลยเกินกำหนดเวลา 7 วัน ตามที่ได้เคยมายื่นหนังสือในครั้งแรก จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นเวลา 19 วันแล้วแต่ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าใดๆ ให้กับทาง กปปส.ทราบ ซึ่งต่างจากกรณีการเผารถบัสของกลุ่ม นปช.ที่สนามราชมัคลากีฬาสถานเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหามาลงโทษได้แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีมาตรฐานต่างกัน
ต่อมานายถาวรได้กลับออกมาพร้อมขึ้นรถขยายเสียงเพื่อกล่าวกับมวลชนว่า จากการพูดคุยกับ พล.ต.อ.เอก ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีการจับแพะ และเพื่อยืนยันว่าไม่มีมวยล้มอย่างแน่นอน ส่วนการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยในรายละเอียด แต่ยืนยันว่าทางตำรวจจะสามารถจับตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ภายหลังจากยื่นหนังสือถึงรอง ผบ.ตร.เรียบร้อยแล้ว นายถาวรได้นำมวลชนกลับไปยังเวทีราชดำเนินในเวลา 11.40 น.
ด้านนายนราเมศ และนางสุรีย์ ธีระรังสิกุล บิดามารดาของนายธีรศักดิ์ กล่าวว่า อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดดำเนินการตามกฎหมาย อยากให้จับคนผิดมาลงโทษ และถ้าการเสียชีวิตของน้อง ก่อให้เกิดความสามัคคีของบ้านเมืองได้ก็จะดีใจมาก