แกนนำมวลชน กปปส.-กปท.บุก สตช.แล้ว ด้านตำรวจรีบส่งตัวแทนเข้าเจรจากับแกนนำ “นิติธร” ประกาศให้เวลา 15 นาที ในการเจรจา ล่าสุดม็อบเริ่มตัดรั้วลวดหนามและเข้าไปใน สตช.แล้ว
คลิกเพื่อรับชมคลิป...
เมื่อเวลา 10.40 น.วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผุ้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชน กปปส.-กปท.ได้เดินทางมาถึงด้านหน้า สตช.ท่ามกลางมาตรการ รปภ.ที่ผ่อนคลายมากขึ้นของตำรวจ มีการจัดชุดเจรจาต่อรองนำโดย พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบก.ภ.จ.ลพบุรี เจรจากับนายนิติธร ล้ำเหลือ นายอุทัย ยอดมณี นายถาวร เสนเนียม บริเวณประตูเล็กด้านข้างประตู 1 ด้านหน้า สตช. ถ.พระราม 1 โดยนายถาวร เสนเนียม และนายเดชา มีชัย ได้เป็นตัวแทนมวลชนเข้ามาเจรจาที่กองรักษาการณ์ภายใน สตช. โดยมี พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผช.ผบ.ตร. ในฐานะเลขาธิการ ศอ.รส. พล.ต.ทโสภณ พิสุทธิวงศ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.เข้าร่วมด้วย
เวลา 11.20 น. ระหว่างที่เจรจาภายใน สตช. นายนิติธร ประกาศบนเวทีจะให้เวลา 15 นาที มิฉะนั้นจะพามวลชนเข้ามาภายใน สตช.โดยจะเข้าทางประตู 1 เท่านั้น ขณะเดียวกันได้มีการปราศรัยบนรถเครื่องเสียงของคปท.ขอให้ผบ.ตร.สั่งพักราชการพล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศอ.รส. เพราะที่ผ่านมามีการให้ข่าวยั่วยุกลุ่มผู้ชุมนุม มิหนำซ้ำยังใส่ร้ายมวลชนที่มาชุมนุมก่อนหน้านี้ว่ามีการตัดไฟ รพ.ตำรวจ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะ พล.ต.ท.จงเจตน์ อาวเจนพงษ์ นายแพทย์ใหญ่ ออกมายืนยันด้วยตนเองว่าไม่มีการตัดไฟ รพ.ตำรวจ แต่อย่างใด
เวลา 11.30 น. ล่าสุดทาง สตช.จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาภายใน โดยมีเงื่อนไขว่ามวลชนจะไม่ทำลายทรัพย์สินของราชการและไม่ขึ้นไปบนตัวอาคาร ซึ่งก่อนหน้านั้นการ์ดม็อบพยายามตัดรั้วลวดหนามเพื่อพยายามจะฝ่าแนวรั้วลวดหนามเข้ามา ขณะที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนวางโล่ และกระบองก่อนถอยหลังไป พร้อมกับสั่งการให้ตำรวจหญิงเข้ามายืนแถวเป็นรูปตัวยู บริเวณลานโดยรอบพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ด้านหน้าอาคาร 1 เพื่อรอต้อนรับมวลชน
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.05 หลังการเจรจาร่วม 1 ชม. นายถาวรได้ออกมาจากห้องเจรจามายังด้านหน้าพระราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 หน้าอาคาร1 สตช. พร้อมยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงผบ.ตร.โดยมี พล.ต.ท.อำนาจ รับหนังสือแทน โดยนายถาวรอ่านหนังสือฉบับดังกล่าวโดยมีใจความระบุถึงเหตุการณ์ความรุนแรงที่ม.รามฯ ว่าตำรวจไม่เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยให้แก่นักศึกษาม.รามฯและกรณีที่นศ.เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บตำรวจต้องจับกุมหรือหาตัวผู้กระทำมาดำเนินคดีให้ได้ภายใน 7 วัน นอกจากนี้ยังขอให้ผบ.ตร.สั่งกำชับทุกหน่วยให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้ชุมนุม กปปส.โดยไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เลือกปฏิบัติ และต้องเข้าระงับเหจุทันทีเมื่อมีเหตุปะทะขณะที่ทางสตช.ได้มีคำสั่งให้ตำรวจหญิงกว่า 500 นายตั้งแถว 2 ชั้น เป็นรูปตัวยูบริเวณลานด้านหน้าอาคาร 1 มารอรับผู้ชุมนุม โดยผลการเจรจาสตช.ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาภายในได้ โดยมีเงื่อนไม่ทำลายทรัพย์สินราชการ ไม่ขึ้นอาคาร
แต่เวลา 12.30 น.แกนนำประกาศไม่เข้าสตช.
ต่อมาเวลา 12.40 น.มวลชนเดินทางกลับ ท่ามกลางเสียงปรบมือและการโบกมืออำลาของข้าราชการตำรวจที่อยู่ภายในสตช. ทั้งนี้ แกนนำประกาศว่าที่ไม่เข้ามาในสตช.เพราะ ทุกวันนี้สตช.กลายสภาพเป็นซ่องโจร เข้ามาสเนียดจะติดตัวไปเปล่า ๆ
ด้าน พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม ผช.ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง ซึงเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ กล่าวว่า จะนำข้อเสนอดังกล่าวเรียนให้ผบ.ตร.ทราบ ขณะที่เดียวกันจะเร่งรัดติดตามจับกุมคนที่ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่ผ่านมาตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามสืบสวนข้อเท็จจริงมาโดยตลอด ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามจะบุกเข้ามาภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสถานที่ราชการ และเป็นสมบัติของประชาชนทุกคน การจะเข้ามาก็อยากให้คำนึงถึงความเหมาะสม และความถูกต้อง อีกทั้งการเข้ามาแล้วทำลายทรัพย์สินของทางราชการนั้นถือว่ามีความผิด
