ASTVผู้จัดการรายวัน- อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มโอด เสื้อผ้าแบรนด์นอกพาเหรดขึ้นห้างสรรพสินค้าตีตลาด แบรนด์ไทยเหตุได้เปรียบต้นทุนต่ำวอนรัฐดูแลหวั่นระยะยาวกระทบฐานการผลิตไปไม่รอดไทยจะเดินซ้ำรอยนำเข้าสินค้าแบรนด์ต่างประเทศเหมือนฮ่องกง สิงคโปร์ ขณะที่ตลาดเครื่องนุ่งห่มสิ้นปีเสื้อกันหนาวคึกคักหลังอากาศหนาวเย็นกว่าทุกปี แต่ส่งออกปีนี้คาดติดลบ2%มองปีหน้าโต5% หากการเมืองจบเร็ว
นายสุกิจ คงปิยาจารย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อนาคตอุตฯเครื่องนุ่งห่มที่เป็นแบรนด์ไทยหรือ Local Brand จะประสบกับปัญหาการแข่งขันมากขึ้นเนื่องจากปัจจุบันสินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศเริ่มเข้ามาจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าในไทยมากขึ้นต่อเนื่องและพบว่าราคาไม่ต่างจากสินค้าไทยหรือบางอย่างอาจมีราคาต่ำกว่าด้วยซ้ำเช่น ยูนิโคล่ h&m เป็นต้น ซึ่งหากปล่อยไว้ระยะยาว จะกระทบฐานการผลิตของไทยและที่สุดไทยก็จะกลายเป็นผู้นำเข้าแบรนด์ต่างประเทศทั้งหมดเช่น สิงคโปร์ และฮ่องกง
“ แบรนด์ต่างประเทศได้เปรียบที่มีมูลค่ามากกว่าสามารถสั่งวัตถุดิบได้ในราคาถูกจึงได้เปรียบการแข่งขัน
เสื้อผ้าแบรนด์ไทยจะอยู่ยากขึ้นและห้างสรรพสินค้าเวลานี้ก็ต้องเจียดพื้นที่ให้กับแบรนด์ต่างประเทศเพิ่มเพราะถือเป็นหน้าเป็นตาของห้างเพราะมีคนนิยมถ้าเสื้อผ้าหรือสินค้าอื่นๆที่เป็นแบรนด์ไทยลดลงจุดเด่นของความเป็นไทยก็ไม่เหลือที่สุดเราก็ไม่ต่างจากฮ่องกง สิงคโปร์ ดังนั้นจึงอยากจะฝากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย”นายสุกิจกล่าว
สำหรับตลาดเครื่องนุ่งห่มในประเทศปีนี้ภาพรวมยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรดแต่ตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่มีหน่วยงานใดรวบรวมแต่ประเมินจากการนำเข้าและยอดขายตามห้างตลาดรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาทใกล้เคียงกับการส่งออกอย่างไรก็ตามช่วงสิ้นปีนี้ตลาดเครื่องนุ่งห่มได้รับอานิสงค์ที่อากาศเริ่มหนาวเย็นมากขึ้นจึงทำให้ตลาดเสื้อผ้ากันหนาวปีนี้คึกคักกว่าในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา
“ ตลาดเสื้อผ้ากันหนาวเริ่มมีความคึกคักมากขึ้นหลังสภาพอากาศช่วงปลายปีนี้ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็นกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามก็ต้องดูว่าอากาศจะหนาวเย็นยาวนานหรือไม่ และที่สำคัญอีกปัจจัยคือปัญหาทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อที่ทำให้คนไทยหมดอารมณ์จับจ่ายใช้สอยก็อาจลดลงได้จึงอาจทำให้ภาพรวมแทนที่จะดีก็อาจไม่ดีนัก” นายสุกิจกล่าว
สำหรับการส่งออกอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ติดลบ 3.9% คาดว่าทั้งปีจะติดลบ 2% เนื่องจากช่วงสิ้นปีการส่งออกจะดีขึ้น และคาดการณ์ปี 2557 อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะเติบโตได้ในระดับ 5% หากปัญหาการเมืองก้าวสู่ภาวะปกติ เนื่องจากพบว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัว ขณะที่สหภาพยุโรปหรืออียูเศรษฐกิจเริ่มทรงตัว แม้ว่าญี่ปุ่นจะยังไม่ดีนักแต่ก็พบว่าญี่ปุ่นหันมาซื้อสินค้าเครื่องนุ่งห่มไทยมากขึ้น
“ปีหน้าการขยายงานไปประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิต 15 รายใหญ่ของไทยก็ไปเกือบหมดแล้วเนื่องจากไทยขาดแคลนแรงงานมากขึ้น แล้วอีกส่วนหนึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าค่าแรงขั้นต่ำของไทยจะเป็นอย่างไรหลังการขึ้นค่าแรงถูกนำมาเป็นแพคเกจในการหาเสียง”นายสุกิจกล่าว
นายสุกิจ คงปิยาจารย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า อนาคตอุตฯเครื่องนุ่งห่มที่เป็นแบรนด์ไทยหรือ Local Brand จะประสบกับปัญหาการแข่งขันมากขึ้นเนื่องจากปัจจุบันสินค้าแบรนด์ดังจากต่างประเทศเริ่มเข้ามาจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าในไทยมากขึ้นต่อเนื่องและพบว่าราคาไม่ต่างจากสินค้าไทยหรือบางอย่างอาจมีราคาต่ำกว่าด้วยซ้ำเช่น ยูนิโคล่ h&m เป็นต้น ซึ่งหากปล่อยไว้ระยะยาว จะกระทบฐานการผลิตของไทยและที่สุดไทยก็จะกลายเป็นผู้นำเข้าแบรนด์ต่างประเทศทั้งหมดเช่น สิงคโปร์ และฮ่องกง
“ แบรนด์ต่างประเทศได้เปรียบที่มีมูลค่ามากกว่าสามารถสั่งวัตถุดิบได้ในราคาถูกจึงได้เปรียบการแข่งขัน
เสื้อผ้าแบรนด์ไทยจะอยู่ยากขึ้นและห้างสรรพสินค้าเวลานี้ก็ต้องเจียดพื้นที่ให้กับแบรนด์ต่างประเทศเพิ่มเพราะถือเป็นหน้าเป็นตาของห้างเพราะมีคนนิยมถ้าเสื้อผ้าหรือสินค้าอื่นๆที่เป็นแบรนด์ไทยลดลงจุดเด่นของความเป็นไทยก็ไม่เหลือที่สุดเราก็ไม่ต่างจากฮ่องกง สิงคโปร์ ดังนั้นจึงอยากจะฝากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย”นายสุกิจกล่าว
สำหรับตลาดเครื่องนุ่งห่มในประเทศปีนี้ภาพรวมยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่หรือโมเดิร์นเทรดแต่ตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่มีหน่วยงานใดรวบรวมแต่ประเมินจากการนำเข้าและยอดขายตามห้างตลาดรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาทใกล้เคียงกับการส่งออกอย่างไรก็ตามช่วงสิ้นปีนี้ตลาดเครื่องนุ่งห่มได้รับอานิสงค์ที่อากาศเริ่มหนาวเย็นมากขึ้นจึงทำให้ตลาดเสื้อผ้ากันหนาวปีนี้คึกคักกว่าในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา
“ ตลาดเสื้อผ้ากันหนาวเริ่มมีความคึกคักมากขึ้นหลังสภาพอากาศช่วงปลายปีนี้ที่มีอุณหภูมิค่อนข้างเย็นกว่าหลายๆปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามก็ต้องดูว่าอากาศจะหนาวเย็นยาวนานหรือไม่ และที่สำคัญอีกปัจจัยคือปัญหาทางการเมืองที่ยังคงยืดเยื้อที่ทำให้คนไทยหมดอารมณ์จับจ่ายใช้สอยก็อาจลดลงได้จึงอาจทำให้ภาพรวมแทนที่จะดีก็อาจไม่ดีนัก” นายสุกิจกล่าว
สำหรับการส่งออกอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มช่วง 10 เดือนแรกปีนี้ติดลบ 3.9% คาดว่าทั้งปีจะติดลบ 2% เนื่องจากช่วงสิ้นปีการส่งออกจะดีขึ้น และคาดการณ์ปี 2557 อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจะเติบโตได้ในระดับ 5% หากปัญหาการเมืองก้าวสู่ภาวะปกติ เนื่องจากพบว่าเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มฟื้นตัว ขณะที่สหภาพยุโรปหรืออียูเศรษฐกิจเริ่มทรงตัว แม้ว่าญี่ปุ่นจะยังไม่ดีนักแต่ก็พบว่าญี่ปุ่นหันมาซื้อสินค้าเครื่องนุ่งห่มไทยมากขึ้น
“ปีหน้าการขยายงานไปประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่ซึ่งขณะนี้ผู้ผลิต 15 รายใหญ่ของไทยก็ไปเกือบหมดแล้วเนื่องจากไทยขาดแคลนแรงงานมากขึ้น แล้วอีกส่วนหนึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าค่าแรงขั้นต่ำของไทยจะเป็นอย่างไรหลังการขึ้นค่าแรงถูกนำมาเป็นแพคเกจในการหาเสียง”นายสุกิจกล่าว