เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- “ยูนิโคล่” ยักษ์ใหญ่แห่งวงการแฟชั่นแดนปลาดิบ ประกาศในวันพฤหัสบดี (11) เตรียมเปิดสาขาใหม่อีก 10 แห่งในสหรัฐฯ หลังผลกำไรสุทธิของบริษัททะยานพุ่งขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์
รายงานข่าวระบุว่า บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่นมีผลกำไรสุทธิถึง 88,400 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยราว 27,680 ล้านบาท) นับเป็นผลกำไรที่เพิ่มขึ้นถึง 22 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 9 เดือนนับถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี คาดว่าเมื่อครบปีการเงินของบริษัทในเดือนสิงหาคมนี้ กำไรสุทธิของยูนิโคล่อาจเพิ่มเป็นกว่า 91,500 ล้านเยน (ราว 28,615 ล้านบาท) ซึ่งหมายความว่าทางบริษัทจะทำกำไรสุทธิได้มากกว่าปีการเงินก่อนหน้าถึง 27.7 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดขายเมื่อช่วงช่วงสิ้นสุดปีการเงินดังกล่าวของยูนิโคล่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 1.1 ล้านล้านเยน หรือสูงขึ้น 18.8 เปอร์เซ็นต์ โดยความสำเร็จส่วนใหญ่มาจากยอดขายที่ถล่มทลายของยูนิโคล่ใน “ตลาดเอเชีย” รวมถึงประเทศไทย
แม้รายได้ส่วนใหญ่ของยูนิโคล่จะมาจากประเทศในเอเชีย แต่ทางผู้บริหารของบริษัทแสดงความเชื่อมั่นว่า สินค้าแฟชั่นภายใต้แบรนด์ของตนจะประสบความสำเร็จไม่แพ้กันในตลาดอเมริกา และเตรียมเปิดสาขาใหม่ในสหรัฐฯ อีก 10 แห่งซึ่งครอบคลุมถึงมลรัฐที่มีกำลังซื้อสูงอย่างนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต และแคลิฟอร์เนีย
ทั้งนี้ ยูนิโคล่ก่อตั้งกิจการครั้งแรกที่เมืองอูเบะในจังหวัดยามางูจิของญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 1949 ก่อนจะย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่มายังกรุงโตเกียวในปัจจุบัน โดยในปัจจุบันมีร้านสาขาของยูนิโคล่กระจายอยู่ในหลายประเทศทั้งจีน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย ฝรั่งเศส อินโดนีเซีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฟิลิปปินส์ รัสเซีย เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และประเทศไทย
