สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
บิดาแห่งประชาธิปไตยที่แท้จริง บิดาแห่งลัทธิมาร์กซที่แท้จริง ศาสดาทุกศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลก ล้วนมุ่งหวังให้มนุษย์เป็นคนดี-มีศักดิ์ศรี-มีเสรีภาพ-มีคุณภาพชีวิตที่ดี!
ชาติใดคนชั่วที่เป็นคนส่วนน้อยครองอำนาจรัฐ คนดีที่มีมากกว่าก็เสมือนตกนรกทั้งเป็น เสมือนดิ้นกระแด่วๆอย่างทรมานอยู่ในกะทะทองแดง
โลกตะวันตก-ยึด”การเลือกตั้ง”เป็นสรณะแห่งประชาธิปไตย!
โดยโลกตะวันตกไม่สนใจว่า การเลือกตั้งบางประเทศในโลกใบนี้ เต็มไปด้วยการใช้อิทธิพลมืด-ใช้กระสุนปืน-ใช้การโกงสารพัดวิธี อีกทั้งใช้เงินรัฐซื้อเสียงด้วยนโยบายประชานิยม และใช้เงินโกงชาติมาซื้อเสียง เพียงเพื่อเอาชนะคู่แข่งทางการเมืองอย่างสามานย์
ตัวอย่างชั่วๆแบบนี้..ได้เกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย หรือ THAILAND แดน”ยิ้มสยาม”!
”การเลือกตั้ง”มิใช่หนทางแก้ปัญหาที่ถูกต้องเสมอไป ดังการเลือกตั้งมากมายในโลกใบนี้ ได้ทำให้ประชาชนหลายชาติตกนรกทั้งเป็น กับการ”เลือกตั้งชั่ว”ที่ทำให้ชาติ ได้นักการเมืองชั่ว-สภาชั่ว-ผู้นำชั่ว-รัฐบาลชั่ว มาปล้นชาติบ้านเมืองฯลฯ
ในเยอรมัน ปี 2466 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ได้ทำรัฐประหาร ทว่า ฮิตเลอร์มิใช่มืออาชีพเฉกเช่นทหารไทย ดังนั้น รัฐประหารในประเทศเยอรมันโดยฮิตเลอร์กับพวกจึงล้มเหลว จนฮิตเลอร์ต้องนอนคุกเป็นปี
แต่ฮิตเลอร์มิได้ปล่อยเวลา ให้สูญเปล่าไปกับการนั่งนอนในคุก เพราะฮิตเลอร์ได้เขียนหนังสือ เรื่อง”การต่อสู้ของข้าพเจ้า”(Mein Kampf)ในคุกจนจบ
ปี 2467 ฮิตเลอร์ออกจากคุกลงสู่ถนนการเมืองอีกครั้ง ด้วยแนวคิด”หัวรุนแรงขวาจัด” โดยฮิตเลอร์จะปราศรัยโจมตีรัฐบาลเยอรมัน และเรียกหาการทำสงครามเพื่อเยอรมันตลอดเวลา จนปี 2470 ฮิตเลอร์จึงถูกรัฐบาลเยอรมันในขณะนั้น สั่งห้ามปราศรัยในที่สาธารณะ
เมื่อเยอรมันมีการเลือกตั้งในปี 2475 พรรคนาซีของฮิตเลอร์ได้รับการเลือกตั้ง 230 ที่นั่ง จาก 608 ที่นั่งในสภา ฮิตเลอร์จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรี หลังฮิตเลอร์มีอำนาจล้นฟ้า เขาได้ยกเลิกสิทธิและเสรีภาพ ของประชาชนในรัฐธรรมนูญทันที
นอกจากนั้น ฮิตเลอร์ยังรวบอำนาจไว้ในกำมือคนเดียว โดยฮิตเลอร์ได้ตั้งตนเป็นทั้งประธานาธิปดี นายกรัฐมนตรี ประมุขของรัฐ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดอีกด้วย
นับแต่นั้นมา อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จึงถูกเรียกขานเป็น”ท่านผู้นำ”หรือ”ฟือเรอร์”(Fuhrer)
ปี 2482 ฮิตเลอร์ได้นำประเทศเยอรมัน ทำสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีประเทศอิตาลีและญี่ปุ่นเป็นมหามิตร ฮิตเลอร์ได้ใช้นโยบายในด้านเชื้อชาติแบบตกขอบ ด้วยการสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ผู้คนมากถึง 11 ล้านคน ซึ่งเป็นชาวยิวล้วนๆถึง 6 ล้านคน
ฮิตเลอร์ได้แปรเยอรมันจากประเทศแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ให้กลายเป็นชาติมหาอำนาจของโลกที่ยิ่งใหญ่อีกครา
แต่ใหญ่โตอยู่ได้ไม่นาน..เยอรมันก็โดนฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต (รัสเซียในปัจจุบัน) และสหราชอาณาจักร(อังกฤษ) ที่จับมือกันสู้ศึกสงคราม จนได้ชัยชนะเหนือฝ่าย”อักษะ”ที่มีประเทศเยอรมัน อิตาลี ญี่ปุ่น ลงได้ในปี 2488
วันที่ 30 เมษายน 2488 นั่นเอง ที่ฮิตเลอร์ได้จบชีวิตด้วยการยิงตัวตาย โดยภรรยา”อีวา บราวน์”ที่กินยาพิษฆ่าตัวตายตาม ณ หลุมหลบภัย ในกรุงเบอร์ลิน
ไม่มีใครพบศพฮิตเลอร์เลย โดยฝ่ายสัมพันธมิตรเชื่อว่า หน่วย”ชุทต์สตัฟเฟิล”หรือ”เอสเอส” ได้เผาศพฮิตเลอร์เพื่อไม่ให้ทหารโซเวียต นำศพไปแห่ประจานเฉกเช่น เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำเผด็จการของอิตาลี
แม้ฮิตเลอร์จะเป็นเผด็จการผู้ยิ่งใหญ่ แต่ฮิตเลอร์กลับชอบใช้ชีวิตง่ายๆ ด้วยการนอนเตียงไม้แข็งๆและห่มผ้าผืนบางๆ ดื่มชาและกินอาหารเยี่ยงสามัญชน
อย่างไรก็ตาม..ท่านผู้นำเผด็จการฮิตเลอร์ ก็แอบมีบ้านหลังมหึมา อยู่ที่”แบร์กเชสการ์เทิน”ซึ่งตั้งอยู่บนเขาสูงถึง 2,600 เมตร มีลิฟต์หุ้มเกราะขึ้นลงอุโมงค์ 16 ตัว มีที่พักใต้ดินอยู่ได้ถึง 3,000 คน มีห้องนอนหรู
หรา มีอาวุธเพียบ แถมมีแชมเปญไว้ดื่มแบบไม่อั้นอีกด้วย
บ้านหลังมหึมานี้..จึงเป็นทั้งที่ประชุมลับ และเป็นป้อมปราการของฮิตเลอร์ไปในตัวด้วย..
การเลือกตั้ง-ที่ตะวันตกยกย่องว่าดีเลิศนั้น ที่แท้เป็นทางด่วนที่เปิดช่องให้คนชั่ว เข้ายึดอำนาจรัฐมาแล้วมากมายในหลายประเทศ ฮิตเลอร์ก็ยึดอำนาจรัฐได้จากการเลือกตั้ง ก่อนจะใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรม จนนำประเทศเยอรมันก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จนมีผู้คนตายมากกว่า 60 ล้านคน!
ประเทศเยอรมันพ่ายแพ้สงครามโลก ครั้งที่ 2 ฮิตเลอร์ได้ตายจากโลกนี้นานแล้ว ฮิตเลอร์ตายโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ทั้งต่อคนเยอรมันและชาวโลก ที่ตายก่อนวัยอันสมควรกว่า 60 ล้านคน แถมเป็นการตายเพื่อคนบ้าอำนาจเพียงคนเดียวที่ชื่อ-ฮิตเลอร์!
อดีต-ปัจจุบัน-อนาคต..หากใครจะพูดถึงเผด็จการที่ชั่วร้าย “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์”จะเป็นเผด็จการอันดับแรก ที่ผู้คนจะกล่าวถึงด้วยความชิงชังทุกครา
ปี 2554 การเลือกตั้งในประเทศไทย ได้คน”หน้าเหลี่ยม”เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ที่ชนะด้วยคะแนนเสียงอันท่วมท้น เพราะคนไทยถูกหลอกให้หลงเชื่อว่า เหลี่ยมเก่ง-เหลี่ยมกล้า-เหลี่ยมรวยแล้วจะไม่โกง ฯลฯ
แต่เหลี่ยมดันบ้าเงิน-บ้าอำนาจ-เห็นแก่ตัว-เอาแต่ได้ ฯลฯ จึงก่อให้เกิดระบอบทักษิณที่ชั่วร้าย ขึ้นในชาติไทยยาวนานกว่าทศวรรษแล้ว นั่นคือ
เหลี่ยมอาศัยระบบเลือกตั้งที่โกงและซื้อเสียงได้ เป็นช่องทางเข้ายึดอำนาจรัฐ โดยใช้เงินประมาณแค่ 1 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้เหลี่ยมได้สส.เกินครึ่งสภา เพื่อใช้สภาและรัฐบาลเป็นเครื่องมือปล้นชาตินั่นเอง
รัฐบาลอยู่ได้ 4 ปี ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อบริหารเงินงบประมาณแผ่นดินกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี หากรัฐบาลงาบค่าคอมมิชชั่นแค่ 30 % การเป็นรัฐบาลอยู่ 4 ปี เหลี่ยมจะได้สวาปามเงินค่าคอมมิชชั่น มากถึง 2.4 ล้านล้านบาทเลยนะเนี่ย
เหลี่ยมที่ฉลาดในการโกงจึงรู้ว่า การลงทุนในธุรกิจการเมืองนั้น-โคตรคุ้มค่า เพราะได้เงินกำไรมหาศาล โดยใช้เวลาเพียงแค่ 4 ปีเท่านั้น
นี่ยังไม่รวมการโกงโครงการประชานิยม เพื่อหาคะแนนเสียงอย่างกรณีจำนำข้าว ที่รัฐสูญเงินไปกว่า 6 แสนล้านบาท แถมด้วยการกู้เงินมาโกงด้วยข้ออ้าง เพื่อแก้ปัญหาน้ำอีก 3.5 แสนล้านบาท และกู้เงินอีก 2 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาทำโครงการไม่จำเป็นเร่งด่วนอีกด้วย
ปูบอก-เลือกตั้งก่อนปฏิรูปทีหลัง แต่สุเทพบอก-ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งทีหลัง..อะไรจะดีกว่ากัน?
เลือกตั้งก่อน-เท่ากับเปิดทางให้เหลี่ยม ใช้เงินยึดอำนาจรัฐเพื่อสานต่อการโกงชาติ หลังเลือกตั้งแล้วจะปฏิรูปหรือไม่ปฏิรูป ต้องขึ้นกับสถานการณ์การเมือง
สำหรับเหลี่ยมกับนักการเมืองชั่วแล้ว หากพลังกำนันสุเทพอ่อนปวกเปียกลง จะปฏิรูปให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น ทำให้การโกงชาติยากขึ้น การลงโทษคนโกงชาติหนักขึ้น ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งมิพึงปรารถนา ของเหลี่ยมและนักการเมืองชั่วแน่นอน
ต้องเลือกตั้งก่อนปฏิรูป..เหลี่ยมจะได้เปรียบทันที เพราะกลไกรัฐก็อยู่ในกำมือ เงินสกปรกที่จะซื้อเสียงก็มีมากกว่า วิธีโกงก็เก่งและกล้ากว่า ดังนั้น ชัยชนะของเหลี่ยมจึงอยู่เอื้อม!
ถ้าปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง-เหลี่ยมจะเสียเปรียบอย่างมหันต์แน่นอน!
เลือกตั้งก่อน-ปฏิรูปทีหลัง จึงเป็นแค่เกมแก้ปัญหาให้เหลี่ยมกับนักการเมืองชั่ว แต่มิได้แก้ปัญหาให้ชาติและประชาชน
ปฏิรูปก่อน-เลือกตั้งทีหลัง คือ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุให้กับชาติ และประชาชนคนไทยอย่างถาวร
เฮ้อ..เลือกตั้งขี้โกงได้คนชั่วเข้าสภาอีก เอ็งจะเลือกตั้งไปทำไมวะ”อีงูจังโป้” คนไทยไม่โง่นะโว้ย..?