ASTVผู้จัดการรายวัน - "ธปท.-นายแบงก์" จับตา กปปส.รุกคืบป่วนสถาบันการเงิน ลั่นหากแกนนำยั่วยุให้มวลชนถอนเงินออกจริงถือว่าทำผิดกฎหมาย ทำลายระบบการเงิน ทำให้เศรษฐกิจสั่นคลอน แต่ยังเชื่อลึกๆ ลูกค้าและประชาชนจะไม่ทำตามคำสั่งถอนเงิน เพราะประชาชนแยกแยะเป็นว่าแบงก์ทำตามกฎเกณฑ์และกฎหมาย
จากกรณีที่ กปปส.รณรงค์ให้ประชาชนพร้อมใจถอนเงินออกจากธนาคารทั่วประเทศ เพื่อตอบโต้การใช้อำนาจมิชอบของรัฐบาลรักษาการที่สั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดเงินในบัญชีแกนนำ กปปส. แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า ธปท.เฝ้าระวังและจับตามาระยะหนึ่ง เพราะเคยมีข่าวว่าม็อบจะใช้กลยุทธ์ถอนเงินมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงคงเป็นไปได้ยากที่ประชาชนจะถอนเงินออกมาเพื่อถือเงินสด และหากมีถอนจริงเงินก็ไม่ได้หายไปไหน ธนาคารพาณิชย์เองก็เตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดการเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
นายธวัชชัย ยงกกิติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า อยากให้แกนนำ กปปส.ระมัดระวังการเคลื่อนไหวที่สร้างความเสียหายต่อผู้อื่น เนื่องจากการยั่วยุให้มวลชนถอนเงินออกจากธนาคารถือว่าผิดกฎหมาย ทำลายระบบและเสถียรภาพทางการเงิน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
"สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ยังมองไม่เห็นทางออก การเคลื่อนไหวใดๆ ต้องระมัดระวัง ไม่ควรทำอะไรที่ซ้ำเติมความวุ่นวาย ตอนนี้ภาคธุรกิจเอกชนนั่งกุมขมับ เพราะคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร" นายธวัชชัยกล่าว
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) กล่าวว่า ธนาคารไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีของแกนนำม็อบที่จะถูกอายัดว่ามีบัญชีที่ธนาคารหรือไม่ เพราะขณะนี้มีบัญชีเงินฝากอยู่กว่า 14 ล้านบัญชี จึงต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในส่วนของการที่ประชาชนจะถอนเงินนั้น ธนาคารก็จะต้องทำความเข้าใจว่า หากธนาคารต้องดำเนินการใดๆ ก็จะเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องของกลุ่มใดๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งตนว่าประชาชนก็น่าจะเข้าใจในเหตุผลดังกล่าว
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า หวังว่าประชาชนจะมีความเข้าใจว่าเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งธนาคารเองก็มีกฎเกณฑ์ระเบียบอยู่ แล้วก็จะต้องทำไปตามนั้น จึงไม่น่าทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง
"แบงก์ก็ต้องทำตามหลักเกณฑ์กันไป เหมือนตอนนี้แกนนำม็อบบอกว่าให้หยุดงานทั้งประเทศ ซึ่งมันก็ทำไม่ได้ มีข้อจำกัดอยู่ แต่หากมีการถอนเงินจำนวนมากๆ ถ้าเกิดขึ้นจริง ก็จะต้องเป็นความโกลาหล และไม่ใช่จะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์เท่านั้น แต่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด" นายชาติชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีการถอนเงินขึ้น ก็คงจะเกิดผลกระทบบ้าง แต่ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเองก็มีเงินสำรองปกติสำหรับการถอนประจำอยู่แล้วเป็นหลักแสนล้านบาท และยิ่งเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ก็จะมีการสำรองเพิ่มไว้อีก อย่างเครื่องเอทีเอ็มปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 5 หมื่นตู้ มีเงินสำรองตู้ละ 1-2 ล้านแล้ว แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวของการถอนเงินที่ผิดปกติ
ทั้งนี้ ธนาคารทั้ง 30 แห่ง ที่ดีเอสไอได้ส่งหนังสือให้ตรวจสอบว่ามีบัญชีของแกนนำ กปปส.หรือไม่ หากมีขอให้อายัดพร้อมรายงานการทำธุรกรรมย้อนหลัง 6 เดือน ประกอบด้วย 1.ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2.ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 4.ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 5.ธนาคาร เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
6.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 7.ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) 8.ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 9.ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 10.ธนาคาร ธนชาต จำกัด (มหาชน) 11.ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) 12.ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 13.ธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) 14.ธนาคาร ไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) 15.ธนาคาร ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 16.ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 17.ธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส
18.ธนาคาร ซิตี้แบงก์ 19.ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น 20.ธนาคาร ดอยช์แบงก์ 21.ธนาคาร เดอะรอยัลแบงก์ออฟสกอตแลนด์ เอ็น.วี. 22.ธนาคาร บีเอ็นพี พาริบาส์ 23.ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด 24.ธนาคาร แห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด 25.ธนาคาร แห่งประเทศจีน จำกัด 26.ธนาคาร แห่งอเมริกาเนชั่นแนลแอสโซซิเอชั่น 27.ธนาคาร อาร์ เอช บี จำกัด 28.ธนาคาร อินเดียนโอเวอร์ซีส์ 29.ธนาคาร โอเวอร์.
จากกรณีที่ กปปส.รณรงค์ให้ประชาชนพร้อมใจถอนเงินออกจากธนาคารทั่วประเทศ เพื่อตอบโต้การใช้อำนาจมิชอบของรัฐบาลรักษาการที่สั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อายัดเงินในบัญชีแกนนำ กปปส. แหล่งข่าวธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวยอมรับว่า ธปท.เฝ้าระวังและจับตามาระยะหนึ่ง เพราะเคยมีข่าวว่าม็อบจะใช้กลยุทธ์ถอนเงินมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงคงเป็นไปได้ยากที่ประชาชนจะถอนเงินออกมาเพื่อถือเงินสด และหากมีถอนจริงเงินก็ไม่ได้หายไปไหน ธนาคารพาณิชย์เองก็เตรียมพร้อมในการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ขอดูรายละเอียดการเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
นายธวัชชัย ยงกกิติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า อยากให้แกนนำ กปปส.ระมัดระวังการเคลื่อนไหวที่สร้างความเสียหายต่อผู้อื่น เนื่องจากการยั่วยุให้มวลชนถอนเงินออกจากธนาคารถือว่าผิดกฎหมาย ทำลายระบบและเสถียรภาพทางการเงิน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
"สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ยังมองไม่เห็นทางออก การเคลื่อนไหวใดๆ ต้องระมัดระวัง ไม่ควรทำอะไรที่ซ้ำเติมความวุ่นวาย ตอนนี้ภาคธุรกิจเอกชนนั่งกุมขมับ เพราะคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร" นายธวัชชัยกล่าว
นายเวทย์ นุชเจริญ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน สายงานธุรกิจรายย่อยและเครือข่าย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) กล่าวว่า ธนาคารไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีของแกนนำม็อบที่จะถูกอายัดว่ามีบัญชีที่ธนาคารหรือไม่ เพราะขณะนี้มีบัญชีเงินฝากอยู่กว่า 14 ล้านบัญชี จึงต้องดูในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในส่วนของการที่ประชาชนจะถอนเงินนั้น ธนาคารก็จะต้องทำความเข้าใจว่า หากธนาคารต้องดำเนินการใดๆ ก็จะเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องของกลุ่มใดๆ กลุ่มหนึ่ง ซึ่งตนว่าประชาชนก็น่าจะเข้าใจในเหตุผลดังกล่าว
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า หวังว่าประชาชนจะมีความเข้าใจว่าเป็นคนละเรื่องกัน ซึ่งธนาคารเองก็มีกฎเกณฑ์ระเบียบอยู่ แล้วก็จะต้องทำไปตามนั้น จึงไม่น่าทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น เพราะจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง
"แบงก์ก็ต้องทำตามหลักเกณฑ์กันไป เหมือนตอนนี้แกนนำม็อบบอกว่าให้หยุดงานทั้งประเทศ ซึ่งมันก็ทำไม่ได้ มีข้อจำกัดอยู่ แต่หากมีการถอนเงินจำนวนมากๆ ถ้าเกิดขึ้นจริง ก็จะต้องเป็นความโกลาหล และไม่ใช่จะส่งผลกระทบต่อธนาคารพาณิชย์เท่านั้น แต่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิด" นายชาติชายกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีการถอนเงินขึ้น ก็คงจะเกิดผลกระทบบ้าง แต่ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบเองก็มีเงินสำรองปกติสำหรับการถอนประจำอยู่แล้วเป็นหลักแสนล้านบาท และยิ่งเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ก็จะมีการสำรองเพิ่มไว้อีก อย่างเครื่องเอทีเอ็มปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 5 หมื่นตู้ มีเงินสำรองตู้ละ 1-2 ล้านแล้ว แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวของการถอนเงินที่ผิดปกติ
ทั้งนี้ ธนาคารทั้ง 30 แห่ง ที่ดีเอสไอได้ส่งหนังสือให้ตรวจสอบว่ามีบัญชีของแกนนำ กปปส.หรือไม่ หากมีขอให้อายัดพร้อมรายงานการทำธุรกรรมย้อนหลัง 6 เดือน ประกอบด้วย 1.ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 2.ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 3.ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 4.ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 5.ธนาคาร เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
6.ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) 7.ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) 8.ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน) 9.ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 10.ธนาคาร ธนชาต จำกัด (มหาชน) 11.ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) 12.ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) 13.ธนาคาร สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) 14.ธนาคาร ไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) 15.ธนาคาร ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) 16.ธนาคาร เมกะ สากลพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 17.ธนาคาร เจพีมอร์แกน เชส
18.ธนาคาร ซิตี้แบงก์ 19.ธนาคาร ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น 20.ธนาคาร ดอยช์แบงก์ 21.ธนาคาร เดอะรอยัลแบงก์ออฟสกอตแลนด์ เอ็น.วี. 22.ธนาคาร บีเอ็นพี พาริบาส์ 23.ธนาคาร มิซูโฮ จำกัด 24.ธนาคาร แห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด 25.ธนาคาร แห่งประเทศจีน จำกัด 26.ธนาคาร แห่งอเมริกาเนชั่นแนลแอสโซซิเอชั่น 27.ธนาคาร อาร์ เอช บี จำกัด 28.ธนาคาร อินเดียนโอเวอร์ซีส์ 29.ธนาคาร โอเวอร์.