xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.สุราษฎร์ฯเว้นวรรค จับตา กกต. เคาะทางออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"อภิสิทธิ์"เสนอบันไดให้ "ปู" ลง แนะรัฐบาลจับมือกกต. เลื่อนเลือกตั้ง เพื่อคลายวิกฤตการเมือง "เชน"นำทีมปชป.สุราษฎร์ฯ ไม่ลงเลือกตั้ง "ปู"อย่างหนา โพสต์เฟซจะอยู่ต่อจนเลือกตั้งเสร็จ พร้อมท่องคาถา 2 ก.พ.ไปเลือกตั้ง "มิ่งขวัญ"ไขก๊อกก่อนหน้าแหก ส.ส.แดง เสนอตัวลงผู้แทน ด้าน "อีเพ็ญ"โผล่ซัดพท.วัวลืมตีน จับตา กกต. แถลงทางออกวันนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยในระหว่างการเข้าร่วมการเสวนาทางการเมืองในภาวะวิกฤต เพื่อหาทางออกประเทศ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 สังคมไม่เชื่อว่า คนที่มาจากกระบวนการเลือกตั้งจะมีความชอบธรรม และเจตนารมณ์ที่จะปฏิรูปประเทศ จึงเกิดคำถามกับการเลือกตั้ง และกลายเป็นประเด็นที่ถูกสังคมตั้งคำถามว่าปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง หรือปฏิรูปหลังเลือกตั้ง โดยไม่มองว่าการเลือกตั้งจะปฏิรูปได้หรือไม่ ทำให้การเลือกตั้งไม่มีใครมองว่าจะราบรื่น เพราะมีคำถามว่าไม่สามารถตอบโจทย์ปฏิรูปได้

ส่วนกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ พาดพิงมาถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้าพรรคไม่ลงสมัคร จะทำให้การเลือกตั้งไม่ชอบธรรม ก็เพื่อให้คนคิดว่าประชาธิปัตย์ลง จะทำให้การเลือกตั้งชอบธรรม จึงขอยืนยันว่า การเลือกตั้งชอบธรรมไม่ได้อยู่ที่ประชาธิปัตย์บอยคอตหรือไม่ แต่อยู่ที่ประชาชนบอยคอตหรือไม่ หากประชาชนไปเลือกตั้ง ไม่มีประชาธิปัตย์ การเลือกตั้งก็ชอบธรรม แต่ถ้าพรรคลงสมัคร คนไม่ไปลงคะแนนหรือมีการโนโหวตจำนวนมาก การเลือกตั้งก็ไม่ชอบธรรม ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์

***แนะรัฐบาล-กกต.เลื่อนการเลือกตั้ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การแก้ปัญหา ต้องถามว่าใครจะมีอำนาจในการเริ่มต้นที่จะแก้ไขปัญหา ถ้าบอกว่าเป้าหมาย คือ การปฏิรูป ก็ต้องบอกว่าจะทำอะไรและอะไรคืออุปสรรค โดยชัดเจนว่า รัฐบาลยังรักษาการ และยืนยันว่าจะต้องเลือกตั้ง 2 ก.พ. ซึ่งไม่ใช่คำตอบ คนที่จะแก้ได้ คือ รัฐบาลกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยากให้การเลือกตั้งชอบธรรม ก็มีหน้าที่ให้ประชาชนเชื่อว่าการเลือกตั้งและการปฏิรูปไปด้วยกันได้ และมีความชอบธรรม แต่รัฐบาลกลับเอาความรู้ทางกฎหมายมาปกป้องตัวเอง ไม่กำหนดเป้าหมายเพื่อนำความรู้มาแก้ปัญหา โดยตั้งธงว่า ทำอะไรไม่ได้ ซึ่งก็จะทำให้ปฏิรูปประเทศไม่ได้ เลือกตั้งไม่ได้ และอาจทำให้เกิดความรุนแรงด้วย แต่น่าเสียดายที่การลาออกจากรักษาการ ก็ถูกคำสั่งไม่ให้ทำ อีกทั้งไม่ว่าจะเป็น นายจาตุรนต์ หรือ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้

ทั้งนี้ การเลื่อนการเลือกตั้งสามารถเกิดขึ้นได้ โดยต้องไปถามทุกพรรคการเมือง หากเห็นว่าการเลือกตั้งจะเกิดความรุนแรง ถ้าทุกพรรคบอกต้องการเห็นความสงบของบ้านเมือง ก็เลื่อนการเลือกตั้งได้ จึงต้องเอาประโยชน์ประเทศเป็นตัวตั้ง และต้องถามพรรคเพื่อไทยตรงๆ ไปว่าเขาอยากทำหรือไม่

"การแก้ปัญหาต้องอยู่ที่คนมีอำนาจตระหนักว่า สามารถคลายวิกฤตได้ จึงต้องให้รัฐบาลกับ กกต. ร่วมกันแก้วิกฤต ถ้าไม่ทำแนวนี้ ก็จะทำให้ต้องออกนอกระบบ จึงแนะนำให้รัฐบาลและกกต. กำหนดแนวทางในการหาทางออก โดยรัฐบาลสละอำนาจในการรักษาการ และต้องรีบทำก่อนที่จะกลายเป็นเรื่องของความจำนน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะสายเกินไปหรือไม่ เพราะหากไปทำเมื่อจำนนแล้วมันจะไม่มีคุณค่า ก็จะถูกปฏิเสธ สถานการณ์จะพัฒนาไปเรื่อยๆ จึงอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับความจริงว่าพรรคเพื่อไทยตัดสินใจเองไม่ได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สังคมไทยจึงต้องเผชิญหน้ากับความจริง และแก้ปัญหาให้ตรงจุด แต่ถ้าไม่ยอมรับความจริง ก็จะต้องเสวนากันอีกหลายปีจนกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะหายตัวไปจากโลกนี้ หรือพ.ต.ท.ทักษิณ จะเอาชนะกฎหมายไทยได้"

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการเสวนา นายอภิสิทธิ์ได้ยกตัวอย่างกรณีที่รัฐบาลเคยบอกไม่สามารถนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ทูลเกล้าฯ ไปแล้วกลับคืนมาได้ แต่วันนี้ก็นำกลับมาแล้ว จึงเห็นว่าสามารถนำกฎหมายมารับใช้ในการแก้ปัญหาได้

***เอกชนชี้ปฏิรูปต้องมาก่อนเลือกตั้ง

นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย หนึ่งใน 7 องค์กรธุรกิจที่ได้เข้าร่วมการเสวนาครั้งนี้ กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องบ้านเมือง ขณะนี้อุณหภูมิกำลังเพิ่มขึ้นจากการที่จะมีการรับสมัครเลือกตั้งในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่เหมือนที่ผ่านมา เป็นการขู่กันเท่านั้น เพราะถึงทางตัน ไม่มีทางออก จึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งมีกระแส 2 อย่าง คือ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง กับการปฏิรูปประเทศ แต่กระแสเลือกตั้งถูกชูให้ใหญ่กว่าปฏิรูปประเทศ เลยทำให้เกิดปัญหา

"การเลือกตั้ง ประโยชน์ที่จะได้เกิดกับนักการเมืองและกลุ่มทุนมากกว่า แต่กระแสปฏิรูป ถ้าเกิดได้ จะเกิดกับประชาชนและประเทศชาติมากกว่า ผมไม่ได้ปฏิเสธการเลือกตั้ง แต่ต้องให้น้ำหนัก ถามผมก็คิดว่าให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งมากเกินไป จึงขอจุดประเด็นในเรื่องการปฏิรูป และทางออก ถ้าเป็นเอกชน จะเอากฎหมายไว้ก่อน แล้วมาดูว่าอะไรเป็นประโยชน์ ก็ค่อยมาถามนักกฎหมาย ซึ่งทำได้หมดถ้าตกลงกันได้"นายวิชัยกล่าว

*** ปชป.สุราษฎร์ไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง

วันเดียวกันนี้ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายเชน เทือกสุบรรณ พร้อมด้วยกรรมการสาขาพรรคทั้ง 7 สาขาของ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันแถลงข่าวถึงจุดยืนทางการเมือง เนื่องด้วยสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบัน แม้จะมีการยุบสภาเพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ แต่ก็ยังไม่ถือเป็นทางออกประเทศหรือคงความบริสุทธิ์ยุติธรรมตามความต้องการของประชาชน

โดยนายเชนกล่าวว่า สาขาพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 7 สาขา มีมติไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้ และอดีตส.ส.พรรค ก็ไม่ประสงค์จะลงสมัครด้วยเช่นกัน โดยจะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้หัวหน้าพรรครับทราบต่อไป ทั้งนี้ หากพรรคจะมีมติให้ส่งส.ส.ลงสมัครรับเลือกตั้ง ก็จะขอยืนยันจุดยืนที่ได้แถลงไปในครั้งนี้

***"ปู"โพสต์เฟซอยู่ต่อจนเลือกตั้งเสร็จ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีใจความว่า จะอยู่ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีจนกว่าการเลือกตั้งจะเสร็จสิ้นและมีนายกรัฐมนตรีที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่มาปฏิบัติหน้าที่ต่อ โดยชี้แจงเหตุผล คือ

1.การปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ต้องยึดหลักความรับผิดชอบร่วมกันในการบริหารราชการแผ่นดิน และเมื่อมี พ.ร.ฎ.ยุบสภา ความรับผิดชอบขอคณะรัฐมนตรีที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้ารับหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อให้มีความต่อเนื่องในการบริหารราชการแผ่นดินอันเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 และ 181

2.ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ขอพระราชทานพระบรมราชวินิฉัยการยุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาแล้ว ถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการนั้นอย่างสุดความสามารถ คือ การให้ความร่วมมือกับกกต. ตามกำหนดเวลา ในวันที่ 2 ก.พ.2557 อย่างโปร่งใส สุจริต เป็นธรรม และเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยที่สุด

3.การที่กล่าวเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ยอมลาออก หรือยึดติดกับตำแหน่ง ยินดีรับฟังเสียงของประชาชนทั้งเสียงส่วนใหญ่ และเสียงส่วนน้อย แต่ทั้งหมดต้องเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอยู่ภายใต้หลักนิติรัฐ

***ลงพื้นที่เจอประชาชนเป่าปรี๊ดไล่

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาท่าอากาศยานสรินทร์ภักดี เป็นท่าอากาศยานในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งครม.สัญจร ที่จ.สุรินทร์ ได้มอบให้กระทรวงคมนาคไปดำเนินการพัฒนาเป็นสนามบินพาณิชย์

จากนั้น เวลา 10.10 น. นายกฯ ได้เดินทางโดยรถยนต์ไปยังสถานีรถไฟบุฤาษี เพื่อเดินทางต่อไปยังจ.ศรีสะเกษ เพื่อหลีกเลี่ยงประชาชนที่มารอเป่านกหวีดไล่ โดยระหว่างที่ขบวนรถไฟผ่านสถานีเมืองที และสถานีศีขรภูมิ ได้มีประชาชนทั้งที่มาให้กำลังใจ และกลุ่มที่ต่อต้านมายืนรอเป่านกหวีดที่สถานี ซึ่งนายกฯ ได้โบกมือทักทายด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม และบอกว่าไม่เป็นไร และเมื่อเวลา 13.20 น. นายกฯ และคณะ ได้ลงที่สถานีรถไฟ ศรีสะเกษ เพื่อเดินทางไปตรวจราชการที่ จ.ยโสธร โดยมีประชาชนมารอต้อนรับจำนวนมาก

ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เนื่องจากว่ามีชายวัยกลางคน 1 คน ได้พยายามที่จะเดินเป่านกหวีดมายังกลุ่มประชาชนที่มารอรับนายกฯ จึงทำให้เกิดเหตุชุลมุน ชายกลางคนดังกล่าวถูกต่อยเข้าที่ใบหน้า และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้าไปห้ามปราม พาชายคนดังกล่าวออกจากพื้นที่ไป

***ยัน2ก.พ.ต้องเดินหน้า

น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางโดยรถไฟจาก จ.สุรินทร์ ไปจ.ศรีสะเกษว่า ถึงการเลื่อนวันเลือกตั้งว่า ต้องถามทางกลุ่มผู้ชุมนุม เพราะเราเองพร้อมอยู่แล้วที่จะพูดคุย และให้ความร่วมมือ อย่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการปฎิรูป เรายินดีรับฟัง และขอให้เป็นเวทีกลางของทุกคน ขอให้ทุกๆ ภาคส่วน ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาร่วมกัน

เมื่อถามว่า ทางกลุ่ม 40 ส.ว. เสนอให้ ครม. ออกพระราชกฤษฎีกา ตาม มาตรา 187 เลื่อนการเลือกตั้ง สามารถทำได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของข้อกฎหมายที่ตนได้หารือไปแล้วนั้น ฝ่ายกฎหมายก็ยังถือว่าเป็นเรื่องใหม่ ควรจะต้องฝากข้อกฎหมายข้อนี้ไปเวทีปฏิรูปด้วย ในการนำความเห็นของนักวิชาการ ทุกความคิดเห็นไปศึกษาดูว่า จะมีวิธีใดบ้างที่จะสามารถเปิดเวทีปฏิรูปได้เร็วที่สุด เป็นเวทีของทุกคน ที่ยอมรับภายใต้กติกาเดียวกัน

เมื่อถามว่า การเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ. ยังคาดหวังว่าจะเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ต้องเรียกว่าเรามีหน้าที่ที่จะต้องอำนวยกรเลือกตั้งให้เป็นไปอยางสงบเรียบร้อย ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความรวมมือของพี่น้องประชาชนด้วย ถ้าเราไม่เอากติกาเลือกตั้ง เราจะทำอย่างไร ให้ประเทศเราอยู่ได้ นี่คือสิ่งที่ตนมองไม่ออก เราไม่ได้บอกกว่า เราจะไม่ปฏิบัติตาม แต่บางครั้งเงื่อนไขนี้ เราปฏิบัติไม่ได้ ไม่รู้เราจะปฏิบัติอย่างไร ทำไมเราไม่หันมาคุยกันบนความเป็นจริงที่สามารถปฏิบัติได้ สำหรับทุกคน

เมื่อถามว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ บอยคอตการเลือกตั้ง ได้เตรียมรับมือไว้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า หวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะยึดหลักของรัฐธรรมนูญ และพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่ยึดหลักกฎหมายภายใต้รัฐธรรมนูญมาอยู่แล้ว จะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาการสำรวจความคิดเห็นของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ดีขึ้น จึงอยากจะเห็นกลไกนี้ เป็นกลไกที่ให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสิน และเป็นกลไกที่ทุกคนจะยอมรับ

เมื่อถามว่า วันเปิดรับสมัครลงเลือกตั้งวันแรก นายกฯ มีความพร้อมที่จะนำทีมเพื่อไทย เดินเข้าไปเข้ารับสมัครเลยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่าขณะนี้ยังมีเวลาอยู่ ถ้าผลเป็นอย่างไร แล้วจะบอก

***"มิ่งขวัญ"ชิงไขก๊อกก่อนหน้าแหก

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นี้ จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยมาระยะหนึ่งแล้ว มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ได้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นแต่อย่างใด โดยสาเหตุที่ลาออก เนื่องจากต้องการเว้นวรรคทางการเมืองสักระยะหนึ่ง อาจจะไปสอนหนังสือ หรือทำอะไร แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คิด ส่วนจะกลับมาเล่นการเมืองอีกหรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องของอนาคต

"เหตุผลที่ออกมาเปิดเผยถึงการลาออกในวันนี้ เพราะเกรงว่าเมื่อถึงวันสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ไม่มีชื่อผมอยู่ในผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรค จะเกิดคำถามขึ้นมา จึงแจ้งให้ทราบตั้งแต่ตอนนี้" นายมิ่งขวัญกล่าว

**"จารุพงศ์"ปัดส่งชื่อผู้สมัครให้"นายใหญ่"คัด

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการคัดเลือกสมาชิกพรรคเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งว่า พรรคจะมีคณะกรรมการคัดสรรบุคลากร 5 คน ขณะนี้มีความพร้อม 90% ซึ่งตนได้กำชับผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้ความร่วมมือกับ กกต.จังหวัด เพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนทุกจังหวัดให้เตรียมพร้อมในการเลือกตั้งครั้งนี้

ส่วนรายชื่อผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยทั้งแบบแบ่งเขตและแบบรายชื่อ ต้องขึ้นอยู่กับการเสนอของคณะกรรมการคัดสรรแต่ละกลุ่ม แล้วตนจะคัดเลือกอีกครั้ง โดยไม่จำเป็นต้องส่งชื่อผู้สมัครให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พิจารณาก่อน

***พท.ตั้งเป้าได้ที่นั่งเกินของเดิม 265 ส.ส.

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งลงครบทุกเขต ทุกบัญชี ทั้งระบบบัญชีรายชื่อ125คน แบ่งเขต375คน และหวังว่าจะได้ส.ส.มากกว่าครั้งที่แล้ว 265คน จะทำได้หรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของพี่น้องประชาชน ส่วนการจัดลำดับบัญชีรายชื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะอันดับ 1 หรือไม่ ถือว่ามีความเหมาะสม และกรณีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ได้บอกไปแล้วอาจไม่ลงสมัคร สำหรับสัดส่วนส.ส.เสื้อแดง บางคนลงบัญชีรายชื่อ อาจไปลงเขตเลือกตั้งบ้าง

ด้าน นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่มนปช. กล่าวถึงกระแสข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ตัดสินใจไม่สนับสนุนคนเสื้อแดงบางส่วนที่ไม่ค่อยมีบทบาทในสภาผู้แทนราษฎรลงสมัครรับเลือกตั้งสมัยหน้าว่า ไม่ทราบข่าวนี้ เข้าใจว่าแกนนำนปช.ตัวหลักๆ คงยังจะได้ลงเลือกตั้งเหมือนเดิม

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แล้วแต่ผู้ใหญ่ในพรรคพิจารณาว่าจะให้ลงพื้นที่ใด ถ้าให้ลงก็พร้อม และได้ยื่นเอกสาร หลักฐาน แสดงเจตจำนงขอสมัครรับเลือกตั้งไปแล้ว

นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สัดส่วนโควตาเสื้อแดงที่มองว่าจะลดลงนั้น ไม่ทราบ แต่ที่ผ่านมา พอทราบว่ามีคนมาเขียนใบสมัครขอลงส.ส.บัญชีรายชื่อจำนวนมาก อาทิ นายจตุพร พรหมพันธ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นพ.เหวง โตจิราการ นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายพายัพ ปั้นเกตุ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แต่ส่วนตัวได้คุยกับผู้ใหญ่ในพรรคแล้ว ซึ่งให้มาลงส.ส.เขต3 จันทบุรี ที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ที่อ.โป่งน้ำร้อน

***"จาตุรนต์"ยังไม่ตัดสินใจลงสมัครส.ส.หรือไม่

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่ ต้องรอดูสถานการณ์ก่อน เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ค่อยปกติ อีกทั้งหากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ลงแข่งขันก็อาจจะไม่ลงสมัคร เนื่องจากไม่มีประโยชน์

***"อีเพ็ญ"ซัดพท.วัวลืมตีน

ผู้สี่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (18 ธ.ค.) นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอยู่ในต่างประเทศ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กแฟนเพจ “จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair" โดยมีใจความสรุปได้ว่า ขอชมพรรค ปชป. เพราะระบบพรรคดี แต่หากมองย้อนไป เพื่อไทยมีแต่เสื่อมลง รัฐประหารไม่พอ ขาใหญ่มองฐานเสียงแค่นั่งร้านให้ไต่เต้าเป็นรัฐบาล พอได้เป็นสมใจ ก็รื้อทิ้ง ความเป็นพรรคด้อยคุณภาพ แนะขยายฐานสาขา สมาชิกพรรคจริงๆ ใช้เงินฟาดหัวให้น้อย โชว์ฝีมือให้มาก ทำพรรคให้เปิดกว้าง และอย่ามัวหมกมุ่นแต่เลือกตั้ง แต่ควรตั้งเป้าหมายที่การจัดตั้งรัฐทั้งรัฐทีเดียว

***กกต.นัดแถลงเสนอทางออกวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นวานนี้ ทางสำนักงานกกต.ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ (19 ธ.ค.) เวลา 13.30 น. ขอเชิญทำข่าว กกต. แถลงประเด็นท่าที และข้อเสนอแนะของกกต. ต่อรัฐบาล และกปปส. เรื่องการจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ.2557 ณ ห้องแถลงข่าวชั้น 2 สำนักงานกกต. ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า เป็นการแถลงของ กกต.ทั้งหมด ซึ่งได้หารือกัน และเห็นว่าเป็นทางออกของปัญหาในขณะนี้

เมื่อถามว่า จะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ ก็ลองดู

สำหรับการแถลงข่าวของกกต.ทั้ง 5 คาดว่า น่าจะเป็นการเรื่องเกี่ยวกับการทำคำเสนอแนะให้กับรัฐบาลในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ขอให้รัฐบาลเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปก่อน เนื่องจากบรรยากาศการเลือกตั้งขณะนี้ ไม่เอื้ออำนวยต่อการที่จะเลือกตั้งได้ เพราะเหตุแห่งความขัดแย้ง โดยทราบว่า ก่อนที่ กกต. จะมีกำหนดแถลงข่าวใหญ่ ได้นำเอาจดหมายเปิดผนึกของ กปปส. ที่มาหารือเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เข้าไปหารือร่วมกัน เพียงแค่ 5 คนเท่านั้น ซึ่งเป็นการประชุมลับ
กำลังโหลดความคิดเห็น