ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นไทยรีบาวนด์ 8 จุด ต่างชาติขายลดลง หลังตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป-สหรัฐดีขึ้น ภาพรวมนักลงทุนยังชะลอเข้าเทรด เพื่อฟังผลการประชุมเฟด และความคืบหน้าด้านการเมืองในประเทศ กดดันวันนี้มียังแกว่งตัวในกรอบแคบต่อ
ดัชนีหลักทรัพย์ วานนี้ (17ธ.ค.) ปรับตัวในทิศทางบวกจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 1,337.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.78 จุด หรือ 0.66% มูลค่าการซื้อขาย 26,017.34 ล้านบาท ภารวมสถาบันซื้อสุทธิ 1,723.60 ล้านบาท ขณะที่ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ขายสุทธิ 937.83 ล้านบาท ตามมาด้วยนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 733.75 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 52.02 ล้านบาท
การปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นไทยในรอบนี้ นักวิเคราะห์มองว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังตัวเลข PMI ของยุโรป-ตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯออกมาดี ส่วนปริมาณการซื้อขายที่ไม่หนาแน่นเ นั้นเชื่อว่านักลงทุนยังตัดสินใจชะลอลงทุนเพื่อฟังผลประชุมจองคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าท้ายที่สุดจะออกมาในทิศทางใด
โดยระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,340.70 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,334.24 จุด หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 335 หลักทรัพย์ ลดลง 284 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 229 หลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์แรก ได้แก่ JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,402.52 ล้านบาท ปิดที่ 7.15 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,095.48 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,069.74 ล้านบาท ปิดที่ 286.00 บาท ลดลง 1.00 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,059.38 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท และ AOT มูลค่าการซื้อขาย 967.84 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ แต่ทิศทางโดยรวมเป็นลักษณะการแกว่งแคบ เนื่องจากปัจจัยจากต่างประเทศผลักดัน โดยตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ภายหลังจากตัวเลข PMI ของยุโรปออกมาดี และตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯออกมาดีด้วย แต่นักลงทุนต่างก็กำลังรอดูผลประชุมคณะเฟด ในประเด็นการลดขนาด QE3 ว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ปัจจัยมในประเทศนักลงทุนยังจับตาการประชุมของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ว่าจะมีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 ก.พ.หรือไม่
โดยรวมประเมินว่า แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(18 ธ.ค.) ดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบ หรืออาจมีแรงขายทำกำไรหากประเด็นการเมืองชัดเจนขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด แนวต้าน 1,345 จุด
ดัชนีหลักทรัพย์ วานนี้ (17ธ.ค.) ปรับตัวในทิศทางบวกจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 1,337.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.78 จุด หรือ 0.66% มูลค่าการซื้อขาย 26,017.34 ล้านบาท ภารวมสถาบันซื้อสุทธิ 1,723.60 ล้านบาท ขณะที่ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ขายสุทธิ 937.83 ล้านบาท ตามมาด้วยนักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 733.75 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปขายสุทธิ 52.02 ล้านบาท
การปรับตัวขึ้นของดัชนีหุ้นไทยในรอบนี้ นักวิเคราะห์มองว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังตัวเลข PMI ของยุโรป-ตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯออกมาดี ส่วนปริมาณการซื้อขายที่ไม่หนาแน่นเ นั้นเชื่อว่านักลงทุนยังตัดสินใจชะลอลงทุนเพื่อฟังผลประชุมจองคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าท้ายที่สุดจะออกมาในทิศทางใด
โดยระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,340.70 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,334.24 จุด หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 335 หลักทรัพย์ ลดลง 284 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 229 หลักทรัพย์ และหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์แรก ได้แก่ JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,402.52 ล้านบาท ปิดที่ 7.15 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,095.48 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,069.74 ล้านบาท ปิดที่ 286.00 บาท ลดลง 1.00 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,059.38 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท และ AOT มูลค่าการซื้อขาย 967.84 ล้านบาท ปิดที่ 178.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ แต่ทิศทางโดยรวมเป็นลักษณะการแกว่งแคบ เนื่องจากปัจจัยจากต่างประเทศผลักดัน โดยตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ภายหลังจากตัวเลข PMI ของยุโรปออกมาดี และตัวเลขการผลิตของสหรัฐฯออกมาดีด้วย แต่นักลงทุนต่างก็กำลังรอดูผลประชุมคณะเฟด ในประเด็นการลดขนาด QE3 ว่าจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ปัจจัยมในประเทศนักลงทุนยังจับตาการประชุมของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ว่าจะมีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง ส.ส.ในวันที่ 2 ก.พ.หรือไม่
โดยรวมประเมินว่า แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(18 ธ.ค.) ดัชนียังแกว่งตัวในกรอบแคบ หรืออาจมีแรงขายทำกำไรหากประเด็นการเมืองชัดเจนขึ้น พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด แนวต้าน 1,345 จุด
