“อภิสิทธิ์” เรียกประชุมอดีต ส.ส.พรรค หารือร่วมบอร์ดชุดใหม่ ตัดสินลงเลือกตั้งหรือไม่ 21 ธ.ค.นี้ ระบุเอาทั้งปฏิรูปและรักษาระบอบ ปชต. รับหนักใจส่งก็เจ็บไม่ส่งก็พิการ แต่จะเอาประเทศเป็นที่ตั้ง ย้ำ กปปส.เป็นอิสระจาก ปชป.
วันนี้ (17 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังหารือนอกรอบระหว่างกรรมการบริหารพรรคชุดเก่ากับชุดใหม่ ว่าการแก้ไขข้อบังคับพรรคมีส่วนสำคัญที่สุด คือ การเปิดช่องให้คนนอกเข้ามามีส่วนร่วมทำงานกับพรรคเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งในระหว่างนี้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังไม่สามารถทำงานได้จนกว่า กกต.จะให้การรับรอง ดังนั้นจึงเห็นว่าการตัดสินใจเรื่องใดก็ตามจะหารือร่วมกัน โดยโจทย์ใหญ่ในขณะนี้คือประชาชนต้องการเห็นการปฏิรูปประเทศและความสงบคืนสู่สังคม ระหว่างนี้จะให้สาขาพรรครวบรวมความเห็นประชาชนรวมถึงเตรียมพร้อมเกี่ยวกับการเลือกตั้งคู่ขนานกันไปพร้อมส่งข้อมูลมายังพรรค โดยจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และอดีต ส.ส.เป็นการเฉพาะในวันที่ 21 ธ.ค.นี้ เพื่อร่วมตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าจะได้ข้อยุติในวันดังกล่าว
“การตัดสินใจในทางใดทางหนึ่งไม่ว่าจะส่งผู้ลงสมัครหรือไม่ส่งย่อมมีผลกระทบต่อพรรคแน่นอน แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือประเทศชาติ เพราะหากปล่อยให้สถานการณ์อึมครึมโดยที่รัฐบาลไม่พยายามคลี่คลายสถานการณ์ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากยังคลางแคลงใจกระบวนการต่างๆ ของรัฐบาลที่ยังไม่ตอบสนองหรือแก้ไขปัญหา”
เมื่อถามว่านายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคคนใหม่ เปรียบเทียบว่าส่งก็ตายไม่ส่งก็พิการ คิดอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า พรรคยอมรับว่าเป็นปัญหาที่น่าหนักใจเพราะมองว่าเจ็บทุกทางจะเจ็บหรือพิการก็แล้วแต่ หากทำให้ชาติไปสู่สิ่งที่ดีกว่าเราก็ต้องยอม เพราะประเทศสำคัญกว่าพรรค
เมื่อถามต่อว่า เป็นสถานการณ์ที่ส่งก็เสียมวลชน ไม่ส่งก็เสียระบบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุด คือ การปฏิรูปประเทศโดยรักษาประชาธิปไตยไว้ แม้จะเป็นโจทย์ยากแต่ต้องทำให้ครบทั้ง 3 ข้อ คือ เดินหน้าปฏิรูป รักษาความเป็นประชาธิปไตย และไม่มีความรุนแรง ซึ่งโจทย์ทั้งสามข้อเป็นเรื่องยาก โดยในขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วงว่าจะเดินอย่างไร เพราะมีความเสี่ยงว่าอาจจะเกิดความรุนแรง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ จะต้องเป็นหนึ่งในช่องทางที่ช่วยหาทางออกให้กับประเทศ
ส่วนจะมีการหารือกับ กปปส.ก่อนที่จะมีการตัดสินใจหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า กปปส.เป็นองค์กรที่เป็นตัวของตัวเองแม้มวลชนอาจจะเคยสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์หรือยังสนับสนุนอยู่แต่เวลานี้มวลชนเหล่านั้นเป็นอิสระต่อพรรคต้องการปฏิรูปประเทศ และฟังตามแนวทาง กปปส.ว่าขั้นตอนการปฏิรูปเป็นอย่างไร จึงไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์แต่อย่างใด