นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า วันที่ 12 ธ.ค.นี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันที่จะเดินทางไปศาล เพื่อต่อสู้ในคดีสั่งฆ่าประชาชน ที่อัยการจำต้องนำตัวไปส่งฟ้องที่ศาล เพราะนายอภิสิทธิ์ ได้ยืนยันมาตลอดว่า จะต่อสู้ทุกคดี ไม่เคยต้องการกฎหมายนิรโทษกรรม การต่อรอง หรืออำนาจใดๆ เข้าช่วยเหลือในการต่อสู้ เพราะมั่นใจในความบริสุทธิ์
แต่ขณะนี้มีผู้กล่าวหานายอภิสิทธิ์ ในเรื่องต่างๆ ก็ขอให้ผู้ที่กล่าวหาหันกลับไปดูพฤติกรรมของพวกตัวเองที่ทำผิดในคดีอาญา และสร้างความเสียหาย ไร้คุณธรรมทางการเมืองเทียบไม่ได้กับผู้ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่มีข่าวว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คิดที่จะไม่ให้มีการประกันตัว ถือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อให้เกิดการตีความเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่พรรคมั่นใจในความบริสุทธิ์ ของนายอภิสิทธิ์ และนายอภิสิทธิ์ ก็พร้อมจะประกันตัวเองด้วยหลักทรัพย์ เพราะไม่มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองแล้ว
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะมีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 53 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งฆ่า จะไปยื่นคัดค้านการประกันตัว โดยยื่นผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะเดียวกัน ดีเอสไอซึ่งเป็นเจ้าของสำนวน ต้องทำเรื่องถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอคัดค้านการประกันตัว นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เพื่อไม่ให้ศาลปล่อยตัว ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตและรับบาดเจ็บ เตรียมข้อมูลไว้หมดแล้ว คาดว่าจะ ยื่นก่อน เป็นแนวทางเดียวกับที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เคยยื่นคัดค้านการประกันตัวแกนนำ นปช. ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียหาย ที่สามารถยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ขนาดนายนิพิฏฐ์ ไม่ได้เสียหาย ยังสามารถยื่นได้
ฉะนั้นการที่ญาติวีรชน จะดำเนินการ จึงไม่แปลก เพราะหากปล่อย นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ กลับมามีอำนาจอีก หรือกลับเข้าสู่กระบวนการ การเข้าสู่อำนาจที่กำลังเรียกร้องอยู่ เกรงว่า เมื่อมีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจเข่นฆ่าประชาชนอีก ซึ่งข้อมูลนี้ศาลน่าจะรับฟังได้
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะยังไม่มีการเคลื่อนไหว ใช่หรือไม่ นายสุภรณ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร แต่การเคลื่อนไหว กลุ่ม กปปส. ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องโดยใช้มวลชนที่จัดตั้งมากดดัน ดังนั้นหากกลุ่มเสื้อแดง หรือประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอีก 60 กว่าล้านคน จับกลุ่มกันจำนวน 2-5 แสนคน แล้วมาเรียกร้องสิ่งที่เขาต้องการบ้าง รัฐบาลในขณะนั้น ต้องทำตามอย่างนั้นหรือ รัฐบาลจะไม่ยึดหลักกฎหมาย ใช่หรือไม่
“ทุกฝ่ายจะต้องยึดหลักกฎหมาย และสิ่งที่นายสุเทพ เรียกร้องไม่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย วันนี้ประชาชนคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ กำลังรอดูท่าทีนายสุเทพอยู่ ถ้านายสุเทพ เรียกร้องในสิ่งผิดกฎหมายได้ กลุ่มคนส่วนใหญ่อาจออกมาเรียกร้องเช่นกัน แล้วประเทศจะยึดกฎเกณฑ์กติกาไหน ฉะนั้นรัฐบาลต้องเดินหน้าโดยยึดหลักกฎหมายอย่างเดียว ไม่ต้องไปฟังเสียงนายสุเทพ หรือคนที่มาชุมนุมในขณะนี้ สิ่งที่นายสุเทพประกาศว่า จะจบภายใน 3 วัน ก็มีการเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะจบมากี่ครั้งแล้ว และมั่นใจว่า วันที่ 12 ธ.ค.นี้ หากนายสุเทพ ไม่ได้รับการประกันตัวในข้อหาสั่งฆ่าประชาชน ก็คงจะเอาพี่น้องของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น นายเชน นายธานี มาเรียกร้องต่ออีก เป็นขั้นตอนวางแผนล่วงหน้าแล้ว วันนี้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อคำพูดนายสุเทพ ที่ว่าการชุมนุมจะจบจริง ซึ่งกลุ่มไทยเฉย กำลังรอดูท่าทีนายสุเทพ และเตรียมตัวรวมพลังออกมากดดันนายสุเทพ อีกทางหนึ่ง" นายสุภรณ์ กล่าว
แต่ขณะนี้มีผู้กล่าวหานายอภิสิทธิ์ ในเรื่องต่างๆ ก็ขอให้ผู้ที่กล่าวหาหันกลับไปดูพฤติกรรมของพวกตัวเองที่ทำผิดในคดีอาญา และสร้างความเสียหาย ไร้คุณธรรมทางการเมืองเทียบไม่ได้กับผู้ที่พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ส่วนที่มีข่าวว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คิดที่จะไม่ให้มีการประกันตัว ถือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อให้เกิดการตีความเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้ง แต่พรรคมั่นใจในความบริสุทธิ์ ของนายอภิสิทธิ์ และนายอภิสิทธิ์ ก็พร้อมจะประกันตัวเองด้วยหลักทรัพย์ เพราะไม่มีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองแล้ว
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะมีกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 53 ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคำสั่งฆ่า จะไปยื่นคัดค้านการประกันตัว โดยยื่นผ่านกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ขณะเดียวกัน ดีเอสไอซึ่งเป็นเจ้าของสำนวน ต้องทำเรื่องถึงอัยการสูงสุด เพื่อขอคัดค้านการประกันตัว นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เพื่อไม่ให้ศาลปล่อยตัว ซึ่งญาติผู้เสียชีวิตและรับบาดเจ็บ เตรียมข้อมูลไว้หมดแล้ว คาดว่าจะ ยื่นก่อน เป็นแนวทางเดียวกับที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เคยยื่นคัดค้านการประกันตัวแกนนำ นปช. ซึ่งถือเป็นสิทธิของประชาชนซึ่งเป็นผู้เสียหาย ที่สามารถยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา ขนาดนายนิพิฏฐ์ ไม่ได้เสียหาย ยังสามารถยื่นได้
ฉะนั้นการที่ญาติวีรชน จะดำเนินการ จึงไม่แปลก เพราะหากปล่อย นายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ กลับมามีอำนาจอีก หรือกลับเข้าสู่กระบวนการ การเข้าสู่อำนาจที่กำลังเรียกร้องอยู่ เกรงว่า เมื่อมีอำนาจแล้วจะใช้อำนาจเข่นฆ่าประชาชนอีก ซึ่งข้อมูลนี้ศาลน่าจะรับฟังได้
เมื่อถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะยังไม่มีการเคลื่อนไหว ใช่หรือไม่ นายสุภรณ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร แต่การเคลื่อนไหว กลุ่ม กปปส. ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องโดยใช้มวลชนที่จัดตั้งมากดดัน ดังนั้นหากกลุ่มเสื้อแดง หรือประชาชนที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศอีก 60 กว่าล้านคน จับกลุ่มกันจำนวน 2-5 แสนคน แล้วมาเรียกร้องสิ่งที่เขาต้องการบ้าง รัฐบาลในขณะนั้น ต้องทำตามอย่างนั้นหรือ รัฐบาลจะไม่ยึดหลักกฎหมาย ใช่หรือไม่
“ทุกฝ่ายจะต้องยึดหลักกฎหมาย และสิ่งที่นายสุเทพ เรียกร้องไม่อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย วันนี้ประชาชนคนเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ กำลังรอดูท่าทีนายสุเทพอยู่ ถ้านายสุเทพ เรียกร้องในสิ่งผิดกฎหมายได้ กลุ่มคนส่วนใหญ่อาจออกมาเรียกร้องเช่นกัน แล้วประเทศจะยึดกฎเกณฑ์กติกาไหน ฉะนั้นรัฐบาลต้องเดินหน้าโดยยึดหลักกฎหมายอย่างเดียว ไม่ต้องไปฟังเสียงนายสุเทพ หรือคนที่มาชุมนุมในขณะนี้ สิ่งที่นายสุเทพประกาศว่า จะจบภายใน 3 วัน ก็มีการเลื่อนออกไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะจบมากี่ครั้งแล้ว และมั่นใจว่า วันที่ 12 ธ.ค.นี้ หากนายสุเทพ ไม่ได้รับการประกันตัวในข้อหาสั่งฆ่าประชาชน ก็คงจะเอาพี่น้องของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น นายเชน นายธานี มาเรียกร้องต่ออีก เป็นขั้นตอนวางแผนล่วงหน้าแล้ว วันนี้คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อคำพูดนายสุเทพ ที่ว่าการชุมนุมจะจบจริง ซึ่งกลุ่มไทยเฉย กำลังรอดูท่าทีนายสุเทพ และเตรียมตัวรวมพลังออกมากดดันนายสุเทพ อีกทางหนึ่ง" นายสุภรณ์ กล่าว