00 บอกแล้วว่า "ระบอบทักษิณ" นั้นมันลูกไมัเยอะ วิชามารเยอะ สู้กับพวกเวรนี่เหนื่อยกว่า "เผด็จการทหาร"หลายเท่า โดยเฉพาะระบอบทักษิณที่ "แฝงมากับประชาธิปไตย" แบบ "เลือกตั้ง" นี่แหละที่ ทักษิณ ชินวัตร ใช้หากินทั้งในและต่างประเทศมาตลอดเวลา แน่นอนว่า ระบอบทักษิณ หรือ ครอบครัวชินวัตร ใช้ "ทุนสามานย์" เป็นเครื่องมือในการ "ซื้อ" ทุกอย่าง เพื่อเป้าหมายสูงสุดที่จะต้องคว้ามาให้ได้เสียก่อนก็คือ "อำนาจรัฐ" ไม่ว่าจะเป็นซื้อ ส.ส.ซื้อพรรคการเมือง ซื้อประธานสภา ถามว่า สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนฯ ประธานวุฒิสภา นิคม ไวยรัชพานิช มีสภาพไม่ต่างจาก "ขี้ข้า" หรือไม่ หรือ ซื้อกกต. ซื้อข้าราชการ ทั้งฝ่ายปกครอง ซื้อตำรวจ โดยอาจมาในรูปแบบของการ "แต่งตั้งให้นั่งเก้าอี้ตำแหน่งสำคัญ" ซึ่งทำกันทุกรูปแบบ ส่งมอบกันมาเป็นทอดๆ จากพี่สู่ "น้องเขย" จากน้องเขยจนมาถึง "น้องสาว" ในปัจจุบัน
00 ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจรัฐโดยผ่านพิธีกรรมการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันการนำเสนอนโยบายประชานิยมที่เน้น "แจก" นำหน้ามันก็ย่อมถูกกับอุปนิสัยคนไทยอยู่แล้ว และเงินที่แจกนั้น ก็เป็นเงินงบประมาณไม่ใช่เงินตัวเองสักบาท แต่ขณะเดียวกันด้วยผลจากนโยบายดังกล่าว กลับส่งผลดี สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจของครอบครัวตัวเองได้อย่างมากมาย เรียกได้ว่านี่คือ "ธุรกิจการเมือง" สมบูรณ์แบบ ที่ไม่ต้องใช้เงินตัวเองลงทุน แต่ผลตอบแทนที่ได้มานั้น แสนจะคุ้มค่าเพราะมีทั้ง "อำนาจและทรัพย์สิน" จากเดิมที่เคยใช้เงินลงทุนวิ่งเต้นกับนักการเมือง และข้าราชการมาวันนี้มีแต่ทุกคนวิ่งเข้าหา ยอมเป็นมือไม้ หรือยอมรับ "เศษเงิน" ที่แบ่งให้บ้าง แต่ก็ถือว่า วิน-วิน นี่แหละคือระบอบทุนสามานย์ และความชั่วช้าของระบอบทักษิณ ที่เกาะกินสังคมไทยมานานนับสิบปีแล้ว ขยายเครือข่ายออกไปแบบลงลึกไปทุกหย่อมหญ้า
00 ก่อนหน้านี้ "เหลิงอำนาจ"ไม่เคยสนใจใคร อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรก็ต้องทำ ไม่สนใจจแม้แต่คำพิพากษของศาล ที่ตัดสินว่า"ทำผิด" อ้างอยู่อย่างเดียวว่า "ถูกแกล้ง" ไม่รู้ "แกล้งบิดา" อะไรมันนักหนา มันก็ศาลเดียวกันที่มันใช้ฟ้องดำเนินคดีกับคนอื่น แต่พอตัวเองไม่ได้ประโยชน์ ก็ไปกล่าวหาไปทำลายว่า ศาลไม่ยุติธรรม ทั้งที่นี่ก็ไม่ใช่ "ศาลเตี้ย" แต่เป็นศาลยุติธรรม ก่อนตัดสินก็มีการรวบรวมพยานหลักฐาน แถมตัวเองก็ยังมีเงินจ้างทนายความ มีที่ปรึกษาฝีมือดีที่ยอมเป็น "ขี้ข้า" อยู่รอบตัว แต่เมื่อต้องตัดสินกันตาม "ความจริง" ก็ไม่มีใครบิดเบือนได้ ถูกผิดก็ว่ากันไป ถามว่าถ้าคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวไม่ได้รับความยุติธรรมแล้วในประเทศนี้ คงไม่มีใครแล้วที่ได้รับความเป็นธรรม ทุด !!
00 ขณะเดียวกัน เมื่อมาพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลหุ่นเชิด ผลงานของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างไรบ้าง ผ่านมาเกือบสามปีแล้ว ไม่เห็นเป็นเรื่องเป็นราว ไม่สมราคาคุย ตัวนายกฯ ถูกเหยียดหยามว่าเป็น "คนโง่" พูดหรือคิดอะไรเองไม่เป็น ไม่มีความรู้รอบตัว ไม่รู้อะไรสักอย่าง สิ่งที่เป็นอยู่ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อ "คนๆเดียว" คือ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายตัวเองเท่านั้น ไม่เคยสนใจสภา ไม่เคยเห็นหัวฝ่ายตรงกันข้าม เสียงข้างน้อย ไม่รู้ว่าเป็น"นักประชาธิปไตยขี้หมา" อะไรก็ไม่รู้ เข้าประชุมสภาแทบจะนับครั้งได้ ไปแต่ต่างประเทศจนสร้างสถิติ แต่ไม่เห็นผลงานในการลงนามสัญญาการค้าเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่ข่าวไล่หลังมาจากสื่อต่างประเทศเปิดโปงในเรื่อง "ผลประโยชน์ทับซ้อน"
00 มาวันนี้ เมื่อชาวบ้านเขาเอือมระอา รู้ทันเพราะไม่เห็นได้ประโยชน์อะไร ตรงกันข้ามมีแต่ความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน หนี้สินเพิ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่อีกด้านหนึ่งกลับเห็นคนในครอบครัว ทักษิณ คนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นหัวโจกคนเสื้อแดงที่รวย เสพสุขกันในวงจำกัด และในที่สุดทุกอย่างก็ขาดผึง เมื่อ "ลุแก่อำนาจ" ผลักดัน กม.นิรโทษสุดซอย มีเป้าหมายเพื่อลบล้างความผิดให้กับทักษิณ รวมไปถึงการแก้ไขรธน. เพื่อหวังรวบอำนาจในอนาคต แต่ก็อย่างว่า เมื่อชาวบ้านเขารู้ทันและ "ทนไม่ไหว" จึงออกมากันทั่วสารทิศ จนพัฒนามาถึงวันนี้เป้าหมายแน่วแน่นั่นคือ "ต้องปฏิรูป" โดยประชาชนสถานเดียว และ"ตระกูลชั่ว" พวกนี้ต้องออกไปทั้งโคตร เท่านั้น หลังจากนั้นถึงค่อยมาพูดเรื่องการเจรจา ไม่ต้องไปวอกแวกกับ "หลุมพราง" เรื่อง "ยุบสภา" ด้วยข้ออ้าง "คืนอำนาจให้ประชาชน" เป็นอันขาด เพราะนี่คือการดิ้นรนเพื่อหาความชอบธรรม กลับมาอีกรอบต่างหาก อย่าหลงกล !!
00 ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อำนาจรัฐโดยผ่านพิธีกรรมการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันการนำเสนอนโยบายประชานิยมที่เน้น "แจก" นำหน้ามันก็ย่อมถูกกับอุปนิสัยคนไทยอยู่แล้ว และเงินที่แจกนั้น ก็เป็นเงินงบประมาณไม่ใช่เงินตัวเองสักบาท แต่ขณะเดียวกันด้วยผลจากนโยบายดังกล่าว กลับส่งผลดี สร้างผลกำไรให้กับธุรกิจของครอบครัวตัวเองได้อย่างมากมาย เรียกได้ว่านี่คือ "ธุรกิจการเมือง" สมบูรณ์แบบ ที่ไม่ต้องใช้เงินตัวเองลงทุน แต่ผลตอบแทนที่ได้มานั้น แสนจะคุ้มค่าเพราะมีทั้ง "อำนาจและทรัพย์สิน" จากเดิมที่เคยใช้เงินลงทุนวิ่งเต้นกับนักการเมือง และข้าราชการมาวันนี้มีแต่ทุกคนวิ่งเข้าหา ยอมเป็นมือไม้ หรือยอมรับ "เศษเงิน" ที่แบ่งให้บ้าง แต่ก็ถือว่า วิน-วิน นี่แหละคือระบอบทุนสามานย์ และความชั่วช้าของระบอบทักษิณ ที่เกาะกินสังคมไทยมานานนับสิบปีแล้ว ขยายเครือข่ายออกไปแบบลงลึกไปทุกหย่อมหญ้า
00 ก่อนหน้านี้ "เหลิงอำนาจ"ไม่เคยสนใจใคร อยากได้อะไรก็ต้องได้ อยากทำอะไรก็ต้องทำ ไม่สนใจจแม้แต่คำพิพากษของศาล ที่ตัดสินว่า"ทำผิด" อ้างอยู่อย่างเดียวว่า "ถูกแกล้ง" ไม่รู้ "แกล้งบิดา" อะไรมันนักหนา มันก็ศาลเดียวกันที่มันใช้ฟ้องดำเนินคดีกับคนอื่น แต่พอตัวเองไม่ได้ประโยชน์ ก็ไปกล่าวหาไปทำลายว่า ศาลไม่ยุติธรรม ทั้งที่นี่ก็ไม่ใช่ "ศาลเตี้ย" แต่เป็นศาลยุติธรรม ก่อนตัดสินก็มีการรวบรวมพยานหลักฐาน แถมตัวเองก็ยังมีเงินจ้างทนายความ มีที่ปรึกษาฝีมือดีที่ยอมเป็น "ขี้ข้า" อยู่รอบตัว แต่เมื่อต้องตัดสินกันตาม "ความจริง" ก็ไม่มีใครบิดเบือนได้ ถูกผิดก็ว่ากันไป ถามว่าถ้าคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัวไม่ได้รับความยุติธรรมแล้วในประเทศนี้ คงไม่มีใครแล้วที่ได้รับความเป็นธรรม ทุด !!
00 ขณะเดียวกัน เมื่อมาพิจารณาจากผลงานของรัฐบาลหุ่นเชิด ผลงานของนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอย่างไรบ้าง ผ่านมาเกือบสามปีแล้ว ไม่เห็นเป็นเรื่องเป็นราว ไม่สมราคาคุย ตัวนายกฯ ถูกเหยียดหยามว่าเป็น "คนโง่" พูดหรือคิดอะไรเองไม่เป็น ไม่มีความรู้รอบตัว ไม่รู้อะไรสักอย่าง สิ่งที่เป็นอยู่ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อ "คนๆเดียว" คือ ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายตัวเองเท่านั้น ไม่เคยสนใจสภา ไม่เคยเห็นหัวฝ่ายตรงกันข้าม เสียงข้างน้อย ไม่รู้ว่าเป็น"นักประชาธิปไตยขี้หมา" อะไรก็ไม่รู้ เข้าประชุมสภาแทบจะนับครั้งได้ ไปแต่ต่างประเทศจนสร้างสถิติ แต่ไม่เห็นผลงานในการลงนามสัญญาการค้าเป็นเรื่องเป็นราว มีแต่ข่าวไล่หลังมาจากสื่อต่างประเทศเปิดโปงในเรื่อง "ผลประโยชน์ทับซ้อน"
00 มาวันนี้ เมื่อชาวบ้านเขาเอือมระอา รู้ทันเพราะไม่เห็นได้ประโยชน์อะไร ตรงกันข้ามมีแต่ความเดือดร้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน หนี้สินเพิ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่อีกด้านหนึ่งกลับเห็นคนในครอบครัว ทักษิณ คนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นหัวโจกคนเสื้อแดงที่รวย เสพสุขกันในวงจำกัด และในที่สุดทุกอย่างก็ขาดผึง เมื่อ "ลุแก่อำนาจ" ผลักดัน กม.นิรโทษสุดซอย มีเป้าหมายเพื่อลบล้างความผิดให้กับทักษิณ รวมไปถึงการแก้ไขรธน. เพื่อหวังรวบอำนาจในอนาคต แต่ก็อย่างว่า เมื่อชาวบ้านเขารู้ทันและ "ทนไม่ไหว" จึงออกมากันทั่วสารทิศ จนพัฒนามาถึงวันนี้เป้าหมายแน่วแน่นั่นคือ "ต้องปฏิรูป" โดยประชาชนสถานเดียว และ"ตระกูลชั่ว" พวกนี้ต้องออกไปทั้งโคตร เท่านั้น หลังจากนั้นถึงค่อยมาพูดเรื่องการเจรจา ไม่ต้องไปวอกแวกกับ "หลุมพราง" เรื่อง "ยุบสภา" ด้วยข้ออ้าง "คืนอำนาจให้ประชาชน" เป็นอันขาด เพราะนี่คือการดิ้นรนเพื่อหาความชอบธรรม กลับมาอีกรอบต่างหาก อย่าหลงกล !!