"ยึดเมืองจันทบุรีเป็นชุมนุมเจ้าตาก ตีชุมนุมต่างๆ ตีเจ้าฝางไม่แตก ทบทวนความพ่ายแพ้ แก้ไขยุทธวีธี รวมชุมนุมที่มีก่อโจมตีเจ้าฝาง (คอรัส)*พ่ายแพ้เป็นบทเรียน ทำจากเล็กไปใหญ่ เจ้าฝางชะล่าใจในไม่นานก็แตก,จากอยุธยา มาเมืองจันทบุรี มากรุงธนบุรี ตากสินมหาราชชชช...."
"เพลงเจ้าตาก" ของวงคาราบาว ไม่เพียงเป็นเพลงปลุกใจอันคลาสสิค หากแต่เนื้อหายังได้ถ่ายทอดบทเรียน และพิชัยยุทธที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่แรกเริ่มมีกองทัพเพียง 500 คน ตีฝ่าจากกรุงศรีอยุธยาได้ และใช้ความเด็ดเดี่ยวในการกอบกู้ประเทศไทยจนสามารถปลดแอกจากพม่าได้อย่างแยบคาย
วันนี้มวลชนต้านระบอบทักษิณ กำลังเอาใจช่วยคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข (กกปส.) ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่าจะต้องมีเงื่อนไขอย่างไรอีก จึงจะสามารถเดินไปสู่ชัยชนะที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ หลังจากที่พักรบในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธ.ค. 2556 ที่ผ่านมา
สิ่งที่ผู้ชุมนุม กกปส. กำลังเผชิญหลังข้อตกลง Set Zero ที่ต่างคนต่างถอยคนละก้าวก็คือ การกลับไปเริ่มต้นใหม่กับอุปสรรคที่ยกระดับขึ้นจากฝ่ายตรงข้าม ชัยชนะที่เป็นรูปธรรมในขณะนี้มีเพียง การรระดมมวลชนมาได้เรือนล้านในวันที่ 24-25 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมากับการยึดศูนย์ราชการที่แจ้งวัฒนะ และกระทรวงการคลังเป็นที่มั่นเท่านั้น
การเจรากับรัฐและรอสัญญาณจากเหล่าทัพเป็นหลักนั้น พิสูจน์แล้วว่าทั้งรัฐและทหารไม่มีความจริงใจในการเจรจา ส่งผลให้นักรบผู้กล้าเหนื่อยล้าเสี่ยงตายแต่กลับโดนรัฐเอาภาพความปรองดองของตำรวจกับประชาชนขโมยซีนไป ทำให้รัฐกลับมาอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบน้อยลง ส่วนทหารอยู่ในสถานะลอยตัว
ดังนั้นจึงมีความสุ่มเสี่ยงที่การเคลื่อนไหวที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าอาจต้องเจอกับดราม่า มีความสูญเสียชีวิตและเลือดเนื้อ ซึ่งจะไปเข้าทางบิ๊กทหารบางคนที่พร้อมจะออกมาตีกินเมื่อถึงเวลานั้น
ถึงแม้ว่า Road Map ที่สง่างาม ที่สุเทพ เทือกสุบรรณ จะประกาศกับฝ่ายรัฐบาลนอมินีผ่านการรับรู้ของทหารที่จะให้ทางลงแก่รัฐบาลคือ การที่มวลมหาประชาชนไม่ยอมรับหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะประกาศลาออก หรือ รัฐบาลจะยุบสภา หากแต่จะต้องส่งมอบอำนาจให้มวลมหาประชาชนตั้งสภาเพื่อปฏิรูปประเทศเท่านั้น โดยจะยอมให้มีนายกคนกลาง ตาม ม.7 ยังไงก็ว่ากันไป
แต่การที่จะให้ทักษิณ ชินวัตร ยินยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ หากการเคลื่อนไหวของ กกปส. ไม่ได้รับชัยชนะที่เด็ดขาดเหนือ รัฐบาล นอมินี หรือพูดง่ายๆ คือรัฐบาลสิ้นสภาพและสิ้นอำนาจในการบริหารอย่างแท้จริง
และก็น่าเสียดายที่ในการเจราบิ๊กทหารไม่ยอมช่วยสุเทพ เทือกสุบรรณที่เป็นตัวแทนของประชาชนชาวไทยกดดันทักษิณ หากเพียงแค่วางตัวเป็นคนกลางเท่านั้น ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทหารยืนอยู่ข้างประเทศไทยตรงไหนตามที่กล่าวอ้าง?
และขณะนี้ฝ่ายระบอบทักษิณ หลังจากที่เป็นฝ่ายถอยมาตลอดก็เตรียมรุกกลับอีกครั้ง และมีการคอนเฟิร์มแล้วว่ามีการยกระดับถึงขั้นเตรียมเด็ดหัวสุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างจริงจัง มีการเสริมกำลัง ตำรวจและยุทโธปกรณ์อย่างเต็มที่ และเตรียมงัดวิชามารสารพัดรูปแบบเพื่อจัดการกับผู้ชุมนุม หลังจากที่รัฐได้สร้างภาพให้สังคมไทยได้เห็นว่ายอมถอยให้สุดซอยแล้ว ทั้งให้เปิดทำเนียบ บช.น และ สตช. ต้อนรับมวลชน พร้อมข่าวการเจรจาเพื่อต่อรองในเงื่อนไขในการยุบสภา ลาออก หรือมีส่วนร่วมในการปฏิรูป ดังนั้นต่อไปรัฐจึงมีความชอบธรรมเต็มที่ในสายตาของพวกไทยเฉยและพวกโลกสวย โดยมีพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นตัวช่วยรับรองทางอ้อมในการที่ยังคงพร้อม ส่ง ส.ส. ร่วมลงเลือกตั้งเมื่อมีการยุบสภา
ดังนั้นหากการเคลื่อนไหวของ กปปส. ที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณ จะบรรลุผลจึงมีความจำเป็นจะต้องถามหาความชัดเจนจาก มิตรร่วมรบที่ตนเองกล่าวอ้างว่ายืนอยู่ฝั่งเดียวกันจาก "พรรคประชาธิปัตย์" และ "ทหาร" ให้เลิกตีกินไปวันๆ
นี่คือยุทธวิธีเดียวกับ "เจ้าตาก" ในการรวบรวมก๊กต่างๆ ให้เป็นหนึ่งเดียว จากท่อนเพลงข้างบน จนสามารถขับไล่ทัพพม่าให้ออกไปจากแผ่นดินไทยได้ในที่สุด
ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา มวลชนได้เรียนรู้แล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์ และ ทหาร ก็ไม่ต่างอะไรกับคนไทย ก๊กอื่นๆ ที่ตั้งตัวขึ้นต่อต้านพม่าหรือตั้งตัวเป็นเจ้าเสียเองเมื่อครั้งนั้น ในยุคเจ้าตากกู้ชาติ
คนพวกนี้หวังจะเป็นผู้กุมชัยชนะในขั้นสุดท้าย และกำลังใช้วาทกรรมสวยหรูในการสร้างที่ยืนให้กับตัวเอง แต่กลับเป็นตัวเตะตัดขามวลมหาประชาชนเองไม่ให้ไปได้สุดซอย
"หากทำให้พรรคประชาธิปัตย์มาเป็นแนวร่วมในการปฏิรูปให้สุดซอยได้ แต้มต่อในการเจรจากับรัฐบาลและแรงกดดันที่จะส่งต่อไปยังทหารจากฟากมวลมหาประชาชนก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น"
ถ้าเอาความต้องการของมวลมหาประชาชนเป็นที่ตั้ง !!!!!!!!!
ถึงเวลาหรือยังที่ กปปส. จะต้องถามความชัดเจนจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า มวลชนไม่ยอมรับการยุบสภาและลาออกของ น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลที่หมดความชอบธรรม มวลชนต้องการให้มีการหยุดการเมืองเพื่อปฏิรูปก่อน ตกลงพรรคประชาธิปัตย์จะเอาอย่างไร อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชวน หลีกภัย กรณ์ จาติกวาณิช ช่วยพูดออกมาให้ชัดเจนได้หรือไม่ว่า ตกลงพรรคประชาธิปัตย์ยังพร้อมจะส่ง ผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง เปิดทางถอยให้รัฐบาลใช่มั้ย?
เพราะการประกาศไม่ส่ง ส.ส.ลงเลือกตั้งซ่อมแทนแกนนำการชุมนุม 8 คนถ้ายิ่งลักษณ์ไม่ลาออกหรือยุบสภาก็ยังเป็นการแทงกั๊กอยู่ดี และเป็นคนละเรื่องกันกับการอุดทางถอยของรัฐบาลกบฏ
ถ้าเอาความต้องการของมวลมหาประชาชนเป็นที่ตั้ง !!!!!!!!!
ถึงเวลาหรือยังที่ กปปส. จะถามความชัดเจนจากทหารใหญ่จากที่เคยถูกประจานผ่าน "คลิป ถั่งเช่า" ที่อ้างว่าอยู่ข้างประเทศไทยว่า การที่รัฐบาลที่ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลที่ทำหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธย และทำผิดรัฐธรรมมนูญ รวมทั้งรู้เป็นเป็นใจผ่านตำรวจในการให้ท้ายการ์ดเสื้อแดงที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มชายชุดดำที่เคยเข่นฆ่าทหาร ปิดมหาวิทยาลัยรามคำแหง ยิง นักศึกษาล้มตาย และบาดเจ็บเป็นจำนวนมากถือว่าเป็นกบฏต่อราชอาณาจักรไทยที่มีระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขหรือไม่?
ประชาชนเสียชีวิตแล้วจากรัฐตำรวจตกลงคุณจะทำอย่างไร?
มาถึงขั้นนี้แล้วยังจะอ้างยังเป็นเรื่องการเมืองต้องแก้ด้วยการเมืองอยู่อีกหรือไม่?
ถ้ายังไม่ประกาศตัวอยู่ข้างประชาชนเต็มตัวหรือยังสร้างภาพว่าเป็นคนกลางก็แสดงว่า คุณกำลังตีกินอยู่จากการต่อสู้ของมวลมหาประชาชนใช่หรือไม่?
ถึงเวลารึยังที่ผู้นำเหล่าทัพต้องพิสูจน์ตัวเองจากคลิปถั่งเช่า?
การทุบหม้อข้าวตีเมืองจันทน์ ด้วยสองมือถือดาบอย่างมั่นใจ นักรบไทยของพระเจ้าตากนั้น ในยุคนี้เราให้เห็นผ่านฮีโร่หลายๆคน ที่ร่วมกันฝ่าดงแก๊สน้ำตาอย่างไม่มีถอย ไม่ว่าจะเป็นคนหนุ่มสาวหรือสูงอายุจากทุกสาขาอาชีพ และที่ได้ใจมากก็คือ "พี่อ้วน วีรบุรุษนักรบกางเกงใน"
• เปิดใจ “ฮีโร่กางเกงใน” จากเสื้อแดงกลับใจ มาเป็นฮีโร่กลางม็อบ
นี่คือตัวอย่างของคนธรรมดาๆ หนึ่งคน ไม่ได้มีต้นทุนใดๆ ทางสังคม ที่เอาชาติเป็นที่ตั้ง!!! ทั้งๆ ที่เคยเป็นเสื้อแดง แต่วันนี้ตาสว่าง มาช่วยมวลชนต่อสู้ยิบตา เขาสู้จริง เจ็บจริง เพียงคนๆ เดียวกลับทำให้ตำรวจที่ปราบม็อบต้องผวา และสร้างความฮึกเหิมให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมและสังคมโดยรวมได้ไม่แพ้ใคร
พี่อ้วนคนนี้เป็นเสรีชนที่ไม่ต้องเกรงใจใคร ชัดเจนในตัวเองในการทำหน้าที่ของตัวเองให้ชาติมั่นคง ตามพระราชดำรัสของในหลวงโดยแท้ ชนิดที่นักการเมืองและทหารใหญ่ควรเอาเป็นแบบอย่าง!
หากต้องการชัยชนะที่เด็ดขาดและเป็นรูปธรรม ก็ต้องสู้แบบพี่อ้วนคนนี้ ถ้ากล้าไล่รัฐบาลทรราช ก็ต้องกล้าทวงถามความชัดเจนจากคนกันเองให้เลิกโลกสวย ทั้งพรรคการเมือง และทหาร ให้ตัดทางถอยของรัฐบาลกบฏ อย่าทำเรื่องให้ซับซ้อน การจะตั้งสภาปฏิรูปได้ หรือนายกรักษาการ ผ่าน ม.7 หรือวิธีการใดก็ตามแต่ ต้องมีชัยชนะเหนือรัฐบาลโดยเด็ดขาดก่อนเท่านั้น
ยุทธการนี้นอกจากจะตัดทางถอยศัตรูแล้ว ก็ต้องทุบหม้อข้าว รวบรวมก๊กต่างๆและตัดทางถอยตัวเองเช่นเดียวกัน เพราะสถานการณ์ได้ดำเนินมาจนถึงจุดที่ต้องชี้ขาดแล้ว
ประวัติศาสตร์การกู้ชาติของสมเด็จพระเจ้าตากสินก็พิสูจน์มาแล้วว่าใช้ได้ผล แต่ผู้นำทัพต้องใจถึงที่จะกล้านำมาใช้อย่างพระเจ้าตากจึงจะสัมฤทธิ์ผล
โอกาสแห่งชัยชนะไม่ได้เวียนแวะเข้ามาหาบ่อยๆ ยิ่งฝ่ายรัฐเองก็พร้อมจะแตกหักอันจะเป็นตัวช่วยให้กลับมาฆ่าตัวเองให้เร็วขึ้น ถ้าสามารถเปลี่ยนให้พวกแทงกั๊กให้มาแสดงความชัดเจนยืนข้างมวลมหาประชาชนได้ คำว่าแพ้ย่อมไม่ปรากฏ หรือชนะไม่สุดซอยก็จะไม่เกิด จะมีแต่ชัยชนะของมวลมหาประชาชนเพื่อปฏิรูปประเทศไทยเท่านั้น
จงเชื่อมันในพลังของประชาชน ประชาชนเปลี่ยนได้ทุกอย่าง พรรคการเมืองและทหารในที่สุดก็ต้องยืนข้างประชาชน ขอมีแค่กางเกงในกับใจถึงๆ เท่านี้ก็ชนะได้แล้ว