“จุรินทร์” อัดนายกฯ ชิ่งกระทู้สด ชี้ครอบครัวนายกฯ ตัวปัญหา รอบข้างแค่ผู้ใช้แรงงานการเมือง ฉะหลอกสังคมซ้ำซาก ไม่สำนึกใส่ร้ายม็อบ “ประชา” โวยว่าแรงไป ปัดจัดม็อบแก้ปัญหา ท้าแฉหลักฐาน วิปค้านย้อนไม่แรง ฉะอย่าอ้างสถาบัน ปชป.ฉะต่อนายกฯ ท่องบทแถ เรื่องใกล้ตัวรีบแจง บี้ฟัง ปชช.เป่านกหวีด “พงศ์เทพ” อ้างผลงานนายกฯเยี่ยม ยันล้างผิดอยู่ที่วุฒิฯ พท.ยอมถอย ติงว่า “ปู” แรง ย้ำจุดยืนชัด เชื่อมีทางออกอย่าซ้ำเติมเพื่อประโยชน์
วันนี้ (7 พ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กระทู้สดถามนายกรัฐมนตรี เรื่องการแก้ปัญหาความแตกแยกในสังคมไทยของนายกรัฐมนตรี โดยได้ทวงถามว่าทำไม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ไม่มาตอบกระทู้สดของตนเพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวกับนายกฯ โดยตรง ซึ่งนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม กล่าวว่า นายกฯ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ มาตอบ มั่นใจว่าคงตอบได้ แต่นายกฯ ไปไหนนั้นไม่ทราบจริงๆ เพียงแต่ลาประชุมเท่านั้น
นายจุรินทร์กล่าวว่า ที่ต้องตั้งกระทู้สดถามนายกฯ เพราะนายกฯ และครอบครัวคือตัวปัญหาในปัจจุบัน ส่วนบุคคลอื่นที่เหลือรอบข้างแค่ผู้ใช้แรงงานทางการเมือง และวิกฤตที่เกิดขึ้นขณะนี้ นายกฯ เป็นผู้ก่อการรับรู้มาตั้งแต่ต้น ตั้งแต่มารับตำแหน่งใหม่ๆ มีความพยายามผลักดันพระราชกำหนดอภัยโทษถึงขนาดลงทุนไปนอนที่ลพบุรี ต้องการหนีความรับผิดชอบ สุดท้ายข่าวรั่วก่อนเลยสับขาหลอกยกเลิกไป ถึงขั้นแต่งตั้งตนเองเป็น รมว.กลาโหม เพื่อประสงค์จะใช้อำนาจผ่านสภากลาโหม และต้องการอำนาจผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การออกพระราชกำหนด แต่บังเอิญพระสยามเทวาธิราชมีจริง ดลบัลดาลให้คลิปถั่งเช่าแตก นำมาซึ่งสถานการณ์ล่าสุด ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สับขาหลอกสังคมอีก อ้างล้างผิดให้ผู้ชุมนุมแสดงความเห็นทางการเมือง แต่สุดท้ายกลายเป็นเป็นเหมาเข่ง คืนเงินให้คนทุจริตคอร์รัปชัน
“การแถลงการณ์ของนายกฯ จงใจใส่ร้าย บิดเบือนผู้ชุมนุมว่าต้องการใช้ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง บิดเบือนว่า พ.ร.บ.จะนำไปสู่ความปรองดอง ทั้งที่เห็นอยู่ว่าความแตกแยกเกิดทุกหย่อมหญ้า และบอกกฎหมายนี้ไม่ได้เป็นเรื่องล้างผิดคนโกง แต่คนทั้งประเทศเขารู้กันหมด ยกเว้นนายกฯ คนเดียว คำถามคือนายกฯ จะปรับปรุงตนเองให้เป็นนายกฯ ที่ซื่อสัตย์ ไม่ใช้อำนาจช่วยครอบครัว ที่จะนำไปสู่ความแตกแยกหรือไม่ เมื่อไหร่ วิธีใด” นายจุรินทร์กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ประชาลุกขึ้นชี้แจงว่า นายกฯ ติดภารกิจสำคัญ การกล่าวหาของนายจุรินทร์ดูแล้วจะรุนแรงไปหน่อยว่ามีลูกจ้างทางการเมือง เป็นผู้ใหญ่ไม่น่าใช้คำนี้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราเล่นการเมือง การเมืองก็คือการเมือง เรามาด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี ที่มอบให้โดยประชาชนทั้งนั้น เมื่อครั้งที่ตนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจและได้ชี้แจงไปว่าเป็นเรื่องที่ก้าวล่วงไปถึงสถาบันใครจะรับผิดชอบ ส่วนประเด็นอื่นตนขอให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีชี้แจงแทน
ส่วนนายพงศ์เทพชี้แจงว่า นายกฯ ตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชน ที่ผ่านก็ยึดผลประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน มีหลายเรื่องที่ยึดถือประโยชน์ส่วนรวม ส่วนเรื่องอนาคตขอให้ดูผลงานในอดีตของนายกฯจะดีกว่า ว่าที่ผ่านมาตั้งใจทำงานอย่างไร เช่น เมื่อวานตนได้ไปพบประธาน ป.ป.ช.หารือประเด็นกฎหมายป้องกันการขัดกันแห่งผลประโยชน์ จะขยายขอบเขตไปยังหน่วยงานต่างๆ อีกประมาณ 50 ตำแหน่ง จึงเชื่อว่าสิ่งที่ทำในอดีตสิ่งที่ทำในอดีตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะยืนยันถึงอนาคตได้พอสมควร
ด้านนายจุรินทร์กล่าวว่า ตนใช้คำสุภาพที่สุดแล้ว เพราะเลี่ยงใช้คำ ‘สภาทาส’ ที่พูดกัน พล.ต.อ.ประชาพูดเหมือนกับว่าสิ่งที่ตนพูดจะเป็นการก้าวล่วงสถาบันแล้วใครจะรับผิดชอบ ตนฟังก็ไม่เข้าใจ และไม่ประสงค์จะก้าวล่วงสถาบัน อย่าได้เอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือปกป้องการกระทำของตนเอง การที่นายพงศ์เทพอ้างว่านายกฯ ยึดประโยชน์ส่วนรวม แต่ก็เห็นว่าเหลวเกือบทุกเรื่อง แต่เรื่องส่วนตัวก้าวหน้าจนประท้วงกันทั้งประเทศตอนนี้ บอกจะปราบโกงแล้วจะออกกฎหมายล้างผิดคนโกงทำไม สวนทางชัดเจน เลิกโกหกประชาชน ที่สำคัญเมื่อวาน นายกฯ และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ได้แถลงว่ารัฐบาลตั้งใจคว่ำ พ.ร.บ.ล้างผิดออกจากสภา แต่สังคมเห็นว่าไม่พอ ไม่เชื่อ และไม่จริงใจ
“นายกฯ ยิ่งแถลงยิ่งสะท้อนว่ายังไม่สำนึกในสิ่งที่กระทำลงไปเพราะยังโยนบาปใส่ฝ่ายอื่นว่ายังไม่รู้จักให้อภัย เพราะเขารู้ทันนายกฯ ว่าทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและครอบครัว ถ้าจริงใจทำไมไม่ประกาศก่อนที่ม็อบจะเต็มถนน และที่สำคัญคนรู้ทันว่าแถลงเพราะจวนตัว เป็นเกมการเมืองเพื่อสลายการชุมนุม หลอกให้ม็อบกลับบ้าน และไม่มีใครเชื่อเพราะมีพฤติกรรมโกหกสะสมจนล้มละลายทางความน่าเชื่อถือ ลมปากไม่ช่วยประเทศจากวิกฤตอย่างแท้จริง ถามจะนำประเทศออกจากวิกฤตอย่างรูปธรรมด้วยวิธีไหน”
นายพงศ์เทพกล่าวว่า นายกฯ แถลงชัดว่า พ.ร.บ.ที่ผ่านสภาไปแล้วไม่สามารถทำอะไรได้ ต้องรอวุฒิสภา น่าเสียดายที่กรรมาธิการมีการแก้ไข แต่สมาชิกบางคนไม่ได้มีโอกาสอภิปราย แต่นายกฯ แถลงชัดว่าให้ ส.ว.ใช้ดุลพินิจอย่างเต็มที่ โดยนายกฯจะยอมรับการตัดสินใจด้วยเหตุผลเพื่อความปรองดอง เชื่อว่าที่ผ่านมา ส.ว.จากแต่งตั้ง และเลือกตั้ง แสดงออกชัดเจนว่าจะไม่รับร่างนี้ ผลคืออย่างน้อยยับยั้งไป 180 วัน และพรรคเพื่อไทยแถลงชัดเจนว่าจะไม่หยิบยกขึ้นมายืนยัน ถือเป็นส่วนทำให้ประเทศออกจากวิกฤตได้ และติงนายจุรินทร์ว่าใช้คำพูดรุนแรงกับนายกฯ สตรีคนแรกของไทยที่มีพฤติกรรมโกหกสะสม คนไทยที่ดูนายกฯ ทำงาน 2 ปี สิ่งที่ทำและพูดจริงเยอะแยะไปหมด อาจเป็นความคิดของคนถาม แต่เชื่อว่าคนทั้งประเทศคงไม่มองอย่างนั้น
ต่อมานายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้กระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี เรื่องความรับผิดชอบในหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ว่ามียุคไหนที่ประชาชนทั้งประเทศออกมาตัดค้านเต็มไปหมด 2 ปีที่ผ่านมานายกฯท่องเป็นนกขุนทองว่าเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องออกมาแถลงเพราะใกล้ตัดนายกฯ ทุกที และใกล้ตัวรัฐบาลทุกวัน ม้านั่งเหลือแค่สามขาแล้ว ไม่สามารถอยู่ต่อด้วยความสง่างามอีกต่อไป ฉะนั้นถามว่านายกฯยังเห็นว่ากฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยังเป็นกฎหมายที่ดีอยู่หรือไม่ และจะแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองอย่างไร
นายวราเทพ รัตนากร รมช.เกษตร ตอบแทนว่า ถ้าสภาตั้งสติและพยายามคิดให้เป็นกลางที่สุด จะเป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ กระทู้ที่ถามนี้ยากที่จะตอบแทนนายกฯ ได้ ดูเหมือนมองนายกฯ ออกมาเพราะต้องการรักษาเก้าอี้เพราะจวนตัว ตนมองต่างเพราะที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องให้นายกฯ รีบออกมาแสดงท่าที ตนก็สับสน เพราะนายกฯแสดงจุดยืนชัดเจนไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของสภาเพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ตนเองก็อยากเห็น ส.ว.เร่งรีบนำมาพิจารณาโดยด่วน นายกฯ ได้แสดงท่าทีที่ดีต่อประชาชนไม่ให้มีปัญหา
นายประเสริฐกล่าวว่า ที่ผ่านมาอยากได้อะไรก็ได้ แต่วันนี้ไม่ได้อีกแล้ว ประชาชนเรียกร้องให้ออกไป ถามรัฐบาลชุดนี้จะฟังความเห็นประชาชนที่ออกมาเป่านกหวีดอย่างไรและจะดูแลประชาชนเหล่านั้นอย่างไร
นายวราเทพตอบว่า ต้องยึดหลักว่ารัฐบาลนี้มาจากประชาชนได้ลงคะแนนเลือกตั้งได้เสียงข้างมากมา และทำหน้าที่ตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ ไม่ได้มาจากเผด็จการ 2 ปีที่ผ่านมาเราแถลงผลงานมีนโยบาย ออกมาหลายอย่างไม่ว่าภาคไหน การประชาชนออกมาอยากให้รัฐบาลออกไปแต่ไม่ใช่ยุบสภา การจะอยู่หรือไม่มีกติกาอยู่แล้ว คือไว้วางใจหรือไม่ และการตัดสินใจของผู้นำ เชื่อว่ากรณีความเห็นที่แตกต่างในเรื่อง พ.ร.บ.ควรมีทางออกทางลง แต่อย่าซ้ำเติมนำเพื่อนำไปสู่ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้ประโยชน์สุดท้าย
นายประเสริฐกล่าวว่า ที่อ้างว่าเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่กลับมีการสั่งให้ข้าราชการกระทำทุกอย่างเพื่อผลักดัน ถามว่าจากนี้ไปจะให้พลพรรคของตนเองจัดม็อบมาแก้ปัญหาม็อบหรือไม่
ด้าน พล.อ.ต.ประชากล่าวว่า นายประเสริฐมีเอกสารยืนยันหรือไม่ แต่ตนยืนยันได้ว่าไม่มีการดำเนินการกลับผู้ชุมนุมเราต้องเข้าใจว่ามีสิทธิที่จะชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ ต้องอยู่ในกรอบวินัย และดูแลผู้ชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามหลักสากล