xs
xsm
sm
md
lg

"เหลี่ยมจัด"ถอยสุดซอยประคองให้ตายใจ รอจังหวะดันพรก.ม้วนเดียวจบ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คราวนี้ก็ไม่ต่างกัน เป็นเพียงการถอยรอจังหวะ พอได้จังหวะ"เรื่องเงียบ"หรือพอชาวบ้านเผลอก็แหย่เข้ามาใหม่ จะหนักกว่าเก่าเชื่อเถอะ หากพิจารณาจากตัวอย่างเก่าๆมาประกอบรับรองว่าใช่เลย แต่ถ้าใครไม่อยากให้"ถูกต้ม"ถูก "ข่มขืน"ซ้ำซากก็มีทางเลือก"แบบถาวร"เหมือนกันนั่นคือ "ไล่มันไปทั้งโคตร"นั่นแหละ จบ

เรียกได้ว่านี่คืออาการ"ถอยหนีตาย"กันอย่างชุลมุน สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ล่าสุดมีการสั่งให้ถอนร่างพระราชบัญญัติที่ค้างคาอยู่ในสภาทั้งหมด 6 ฉบับ ทั้งในสารพัดชื่อไม่ว่า นิรโทษกรรมและปรองดอง แต่ในความหมายเดียวกันนั่นคือล้างผิดอาชญากร คนโกง ออกไปให้พ้นก่อน รวมทั้งยืนยันว่าหากวุฒิสภาลงมติคว่ำร่างกฎหมายสุดซอย ทางสภาผู้แทนก็จะไม่หยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่ตามขั้นตอน 180 วัน

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยถึงกับมีการแถลงสองรอบยืนยันว่าจะถอนร่างกฎหมายทั้ง 6 ฉบับ และไม่นำร่างพระราชบัญญัตินิรโทษที่หากวุฒิสภาตีตกมาพิจารณาใหม่อีก แน่นอนว่าอาการแบบนี้ เกิดขึ้นได้เพราะรู้ว่าถ้ายังขืนเดินหน้าท้าทาย "ฝ่าดงตืน"แล้วละก็เละแน่ จึงต้องสั่ง"ถอยด่วน"เอาตัวรอดชั่วคราวก่อน

การถอยแบบนี้เพื่อต้องการ "ตัดเกม"เบรกอารมณ์ของมวลชนที่กำลังไต่ระดับเพิ่มอารมณ์โกรธขึ้นไปอย่างรวดเร็วผิดคาดเพื่อหวังให้เย็นลงมาบ้าง ซึ่งนาทีนี้ไม่รู้จะทันการณ์หรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ดันไป "ปล้นข่มขืนแบบเปิดหน้าเปิดตา"แบบไม่กลัวเกรง ทำให้ยั่วยุอารมณ์โกรธเกิดขึ้นมาได้อย่างทันใจเช่นเดียวกัน

ดังนั้นนาทีนี้จึงยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลหรือเปล่า เพราะถึงอย่างไร "โจร"ก็คือ"โจร"วันยังค่ำ เพราะคำพูดปากสว่างของ "สมุนชั้นปลายแถว" อย่าง "จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ที่ต้องการโชว์ข่าววงใน เพิ่มเครดิตตัวเองโพล่งออกมาบนเวทีคนเสื้อแดงว่า นี่คือการถอยให้ตายใจก่อน เพราะถึงอย่างไรก็มี"แผนสอง"ตามมานั่นคือจะอาศัยช่วงจังหวะเหมาะดันเป็น "พระราชกำหนดนิรโทษ"ไม่ต้องใช้สภาแต่ออกโดยคณะรัฐมนตรี เล่นกันแบบรวดเร็วทันใจ "ม้วนเดียวจบ" ส่วนขั้นตอนหลังจากนั้นก็อาจอาศัยช่วงชุลมุน "ยุบสภา"อ้างให้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินตามถนัดก็เป็นไปได้สูง

ขณะเดียวกันหากย้อนกลับไปพิจารณาคำพูดของ ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ก่อนมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ใน"คลิปถั่งเช่า"เมื่อหลายเดือนก่อน ก็มีการพูดถึงเรื่องการออกพระราชกำหนดอย่างชัดเจนมาแล้ว โดยคราวนั้นต้องการให้ "สภากลาโหม"ไฟเขียวให้ผ่านโดยอ้างเรื่องความมั่นคง ความปรองดองกันทุกฝ่าย "เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า" ซึ่งเป็นคำพูดคุ้นๆของใครหรือไม่

อย่างไรก็ดีแม้ว่าที่ผ่านมาจะใช้วิธีออกเป็นพระราชบัญญัติในสภา เพราะเชื่อมั่นว่า "มีแต่ขี้ข้า"เอาอยู่ ผ่านสะดวกอยู่แล้ว แต่ก็อย่างว่าในเมื่อความโลภมันครอบงำคิดเอาแต่ได้ทุกอย่าง มันถึงได้ดูถูกความรู้สึกคนไทย ผลจึงออกมาเป็นตรงกันข้ามอย่างที่เห็น และที่สำคัญการยกย้อนอดีตให้เห็นกรณีคลิปถั่งเช่านั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าความพยายามในการออกเป็นพระราชกำหนดก็มีอยู่ตลอดเวลา เหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะใช้ในเวลาหรือจังหวะไหนเท่านั้นเอง

ดังนั้นคำแถลงยืนยันของพรรคเพื่อไทย คำพูดของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ทักษิณ ชินวัตร นาทีนี้จึงเชื่อถืออะไรไม่ได้แล้ว เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นอยู่ตลอดเวลาว่า "ปลิ้นปล้อน"เล่นลิ้นอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่พูดจะออกมาในทางตรงกันข้าม เหมือนตัวอย่างที่เสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฉบับนี้แหละตอนแรกย้ำว่าจะลบล้างความผิดให้แค่ระดับชาวบ้านที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ทุกกลุ่มทุกสี ฟังดูดี ไม่เกี่ยวกับแกนนำ ไม่เกี่ยวกับ ทักษิณ คนส่วนใหญ่ก็ตายใจยอมหรี่ตาให้ แต่ที่ไหนได้ผลที่ออกมามัน "สุดแสนทุเรศ"จึงเกิดอารมณ์สหบาทา จนต้องถอยวิ่งหนี "หางจุกตูด" ซึ่งมันก็เป็นแบบนี้ทุกที หลอกชาวบ้านได้ซ้ำซาก

อย่างไรก็ดีคราวนี้ก็ไม่ต่างกัน เป็นเพียงการถอยรอจังหวะ พอได้จังหวะ"เรื่องเงียบ"หรือพอชาวบ้านเผลอก็แหย่เข้ามาใหม่ จะหนักกว่าเก่าเชื่อเถอะ หากพิจารณาจากตัวอย่างเก่าๆมาประกอบรับรองว่าใช่เลย แต่ถ้าใครไม่อยากให้"ถูกต้ม"ถูก "ข่มขืน"ซ้ำซากก็มีทางเลือก"แบบถาวร"เหมือนกันนั่นคือ "ไล่มันไปทั้งโคตร"นั่นแหละ จบ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น