xs
xsm
sm
md
lg

เหตุเกิดที่รามคำแหง : มหาลัยที่ไม่มีคำตอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การชุมนุมที่หน้าหอนาฬิกาหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อวันที่ 30 พ.ย. เกิดขึ้นหลังกลุ่มคนเสื้อแดงเช่าสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานชุมนุมสนับสนุนรัฐบาล ใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดังโดยรอบ เมื่ออาคารเรียนรวมและห้องบรรยายส่วนใหญ่มีลักษณะแบบเปิด ทำให้รบกวนสมาธิการเรียนการสอน ขณะที่ผู้ชุมนุมยังแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม การ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงขับขี่จักรยานยนต์ยั่วยุชาวบ้านและนักศึกษาจนเกิดการปะทะ บ้างก็ทำร้ายร่างกายนักศึกษาหญิง
 ที่นักศึกษาไม่พอใจมากที่สุด คือมีมือดีกรีดป้ายข้อความ “ลูกพ่อขุนทั่วประเทศคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ทำลายตราสัญลักษณ์ คือพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อันเป็นการเหยียดหยามศักดิ์ศรีถึงที่สุด นำมาซึ่งการรวมตัวกันของนักศึกษาและศิษย์เก่า โดยมีนักศึกษาอาชีวะและผู้ชุมนุมจากเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเข้าร่วมสมทบ โดยได้ยื่นหนังสือไปยัง สน.หัวหมากให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ก่อนที่จะกลับมาชุมนุมที่เดิม
แต่แล้วในช่วงเย็นก็เกิดความวุ่นวายขึ้น เมื่อชายสองคนจากกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามายั่วยุนักศึกษา ก่อนจะหลบหนีไปในซอย ขณะเดียวกันมีนักศึกษารายหนึ่งวิ่งออกมาจากซอย ถูกตีจนศีรษะแตก ระบุว่าถูกกลุ่มคนเสื้อแดงตี จากนั้นรถเมล์ ขสมก. เฉพาะกิจที่ขนคนเสื้อแดงผ่านมา พร้อมเสียงคล้ายระเบิดและปืนดังขึ้น จึงโกธรแค้นปาก้อนอิฐและไม้เข้าใส่จนกระจกแตกกระจาย นอกจากนี้ ยานพาหนะบางคันบนทางยกระดับขว้างสิ่งของมีเสียงคล้ายระเบิด เกิดความแตกตื่น นำมาซึ่งความโกธรแค้น ทุบรถแท็กซี่ที่รับคนเสื้อแดง การล้อมรถเมล์สาย115 ที่กลุ่มคนเสื้อแดงโดยสารมา
ที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม บริเวณซอยรามคำแหง 24 (ซอยเสรี) ด้านหลังมหาวิทยาลัย มีนักศึกษาถูกลอบยิงได้รับบาดเจ็บ โดยกระสุนมาจากข้างกำแพงรั้วหลังมหาวิทยาลัย ไม่ต่ำกว่า20 นัด ในที่สุด นายทวีศักดิ์ โพธิ์แก้ว นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ วัย 21 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณชายโครงด้านซ้าย2 นัด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลรามคำแหง กลายเป็นศพแรกจากโศกนาฎกรรมครั้งนี้
ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง สั่งการเปิดประตูให้นักศึกษาเข้ามาหลบความวุ่นวาย ประสานไปยังรัฐบาล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รัฐมนตรีบางคน ตำรวจนครบาล 4 แต่คำตอบที่ได้รับคือไม่สามารถมาได้ เพราะการจราจรติดขัด จึงยื่นคำขาดว่า ถ้าไม่สามารถที่จะส่งคนขึ้นมาดูแลลูกศิษย์ได้ รัฐบาลกับผมก็อยู่คนละข้าง ถ้ารัฐบาลไม่สามารถรักษากฎเกณฑ์กติกาบ้านเมือง ดูแลคนมือเปล่าได้แบบนี้ ผมว่าใช้ไม่ได้ ผมเองไม่ได้เลือกข้าง ไม่ได้เลือกใคร แต่วันนี้ได้เห็นกับตาตัวเองว่าลูกศิษย์ลูกหาผมนั้นโดนยิง โดนทำร้ายขนาดนี้ ผมคิดว่าใช้ไม่ได้
จนถึงเช้า สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้ง นักศึกษาต่างพากันหนีตายเข้าไปในตึกศิลาบาตร มีนักศึกษาถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บ 4 คน ทางมหาวิทยาลัยพยายามจะเคลื่อนย้ายนักศึกษาออกนอกมหาวิทยาลัย แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะจะมีชายชุดดำสั่งการทำร้ายนักศึกษา และมีหน่วยซุ่มยิงจากมุมสูง พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บังคับกรมทหารราบที่ 11กองพันที่ 1 รักษาพระองค์ นำกำลังทหารรักษาความปลอดภัยพร้อมพานักศึกษาไปส่ง ขณะที่กรุงเทพมหานครจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือที่โรงเรียนวัดพระราม 9
โศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บ 71 ราย แม้ดูเหมือนจะคลี่คลาย แต่ประชาชนและนักศึกษา ยังคงหวาดระแวงถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน อีกด้านหนึ่ง กำลังเป็นที่ถกเถียงกันถึงความจริงที่เกิดขึ้น ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปราศรัยปลุกระดมมวลชน กับฝ่ายผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกับนักศึกษา โดยเฉพาะ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง อ้างว่า เป็นการสร้างเรื่องว่าคนเสื้อแดงร่วมมือกับรัฐบาลทำร้ายนักศึกษารามคำแหง เหตุการณ์ทั้งหมดถูกหยิบยกมาสร้างสถานการณ์เพื่อโค่นล้มรัฐบาล
ส่วน ผศ.วุฒิศักดิ์ ก็แถลงข่าวประณามคนก่อเหตุและคนสั่งการทำร้ายนักศึกษา ซึ่งใช้สิทธิตามกฎหมายในการชุมนุมเนื่องจากไม่พอใจที่เพื่อนถูกทำร้ายก่อนหน้านั้น แต่กลับมีการใช้ปืนสั้น สไนเปอร์ และระเบิดทำร้ายนักศึกษาขณะเดียวกัน ยังเสียใจกับบทบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้ทำหน้าที่ปกปักษ์รักษาประชาชน ไม่อยากให้ตำรวจบิดเบือนว่าเป็นผู้ประสานงานให้ทหารเข้ามาช่วยเหลือรับตัวนักศึกษา ขอขอบคุณกรมทหารราบที่ 11 และผู้บัญชาการทหารบกที่ช่วยนักศึกษา ที่น่าสังเกตคือพอทหารเข้ามา คนก็อุ่นใจว่าได้รับการคุ้มครอง เหตุซุ่มทำร้ายก็ไม่ปรากฏ
รศ.วุฒิศักดิ์ยังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการนำคนร้ายมาลงโทษ เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ ทุกครั้งที่มีการชุมนุมก็จะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ในภาพใหญ่สังคมไทยก็ไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้อีกมหาวิทยาลัยไม่ใช่ฐานที่มั่นทางการเมืองของใคร เป็นสถานที่ให้การศึกษาหาความรู้ อยากให้มองนักศึกษาว่ามีการแสดงเจตจำนงต่างๆ โดยบริสุทธิ์
แม้การคลี่คลายความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้จะยังดำเนินต่อไป แต่ปัญหาก็คือ เมื่ออธิการบดีกล่าวว่ามีการใช้ปืนสั้น สไนเปอร์ และระเบิดทำร้ายนักศึกษา แต่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอ้างว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ ผลที่สุดจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน ตัวละคร “ชายชุดดำ” ที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับกลุ่มคนเสื้อแดง หวนคืนกลับมาอีกครั้งกับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงครั้งนี้บ่งบอกอะไร
สื่อมวลชนรายหนึ่งสามารถจับภาพชายสวมเสื้อดำใช้ปืนสั้นจ่อยิงไปยังกลุ่มนักศึกษารามคำแหง ซึ่งลายเสื้อที่ปรากฏในภาพคล้ายกับกลุ่มแนวร่วมคนเสื้อแดงต่างจังหวัด จะเป็นฝ่ายคนเสื้อแดงจริงหรือไม่ ขณะเดียวกัน หลังจากนักศึกษารามคำแหงเสียชีวิต ในช่วงกลางดึกกลุ่มคนเสื้อแดงถูกยิงตั้งแต่ช่วงตีสอง ก่อนจะถูกยิงที่ใต้สนามในช่วงเช้า และที่หน้าการกีฬาแห่งประเทศไทยนั้น มีมูลเหตุจูงใจประการใด รถบัสที่คนขับรถอ้างว่าถูกปล้นจอดอยู่ก่อนถูกเพลิงไหม้ด้วยสาเหตุใด ศพที่ไหม้เกรียมในรถจากคำบอกเล่ากลุ่มนักศึกษาไม่ทราบสถาบันชักชวนขึ้นไปเพื่อจุดประสงค์ใด
ที่สำคัญ ตำรวจถูกตั้งคำถามจากนักศึกษาและผู้บริหารมหาวิทยาลัยว่าไม่ให้ความช่วยเหลือ หนำซ้ำยังมีภาพของการช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดงโดยมิได้เหลียวแลนักศึกษาที่หนีตายในมหาวิทยาลัย สิ่งเหล่านี้คือคำถามที่ถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบ แต่สิ่งที่อยากจะฝากไปถึงผู้บริหารคือ “ความปลอดภัยในรั้วรามคำแหง”โดยเฉพาะรั้วรอบมหาวิทยาลัย สามารถปีนเข้า-ออกได้อย่างง่ายดาย สมควรที่จะปรับปรุงหรือไม่
สุดท้ายขอให้กำลังใจอธิการบดีที่ดูแลลูกศิษย์เหมือนลูกหลาน ถึงขั้นยอมเสี่ยงตาย และขอไว้อาลัยแก่นักศึกษาและประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ว่ากลุ่มไหนก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นพี่น้องพ่อขุนรามคำแหงคงต้องจำไปจนตาย
กำลังโหลดความคิดเห็น